สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วกับรีวิวหลังผ่าตัดครบ 2สัปดาห์ค่ะ
วันที่ 8
ในที่สุดก็ถึงวันนัดไปตัดไหมและรับบริการดูแลหลังผ่าตัดค่ะ
เรามีนัด10โมงเช้าเลย ต้องรีบเตรียมตัวไปนิดนึงค่ะ
พอมีถึงรพ.ก็ไปดูแลผิวหลังผ่าตัดก่อนเลย
พี่พนัก
งานทำโปรแกรมกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายออก มาส์กหน้าและเลเซอร์ให้ด้วยค่ะ
ตั้งแต่ผ่าตัดมาล้างหน้าไม่ค่อยได้ ทำให้พวกเซลล์ผิวที่ตายเกาะเต็มเลย
พอได้ทำโปรแกรมนี้รู้สึกสดชื่นขึ้นมากเลยค่า555
ด้วยความที่หน้ายังชาอยู่ ตอนเราทำpeelingเองที่บ้าน รู้สึกเหมือนไม่ได้ทำเลยค่ะT^T
หลังจากทำเลเซอร์เสร็จก็เดินมาตึกศัลยกรรม
พี่พยาบาลตัดไหมตรงโหนกแก้มให้ มือเบามากๆ แปปเดียวเสร็จค่ะ
ความรู้สึกเหมือนสะกิดสะเก็ดแผลออก ประมาณนั้นค่ะ
ตอนแรกกลัวมาก ไสาหร่ายู่บริเวณไรผม เราว่าดึงผมตัวเองยังเจ็บกว่าเลยค่ะ 55555
ด้วยความที่คิดว่าทายาตรงแผลเยอะๆ จะยิ่งทำให้แผลติดไว
เราเลยทาหนาๆไปเลย แต่พอไปรพ.พี่พยาบาลบอกกว่า ถ้าทาหนาเกินไปแผลจะยิ่งไม่แห้งนะคะ
ให้ทาแค่ครึ่งหนึ่งของที่เราทาอยู่ก็พอค่ะTT
ทำอะไรแบบพอดีๆดีที่สุด ทุกคนอย่าโลภเหมือนเรานะ ทาทีละนิดพอนะคะ 55555
อีกอย่างเราคิดว่าตัวเองบ้วนปากอย่างดีแล้ว แต่น่าจะยังไม่สะอาดพอ
พี่พยาบาลบอกให้เราบ้วนปากให้ดีกว่านี้ค่ะ วันนี้เหมือนโดนอบรมใหม่เลยค่ะ
วันนี้ได้รับที่รัดหน้ามาแล้ว ลูกผมเราค่อนข้างเยอะ พี่พยาบาลเลยไม่แปะเทปตรงที่ตัดไหมออกให้
และอีก2วันให้เราเริ่มใส่ที่รัดหน้าได้ แต่ด้วยความที่เราอยากลองใส่เร็วๆ
ระหว่างทางกลับบ้านก็ลองใส่ที่รัดหน้ากลับเลยค่ะ แต่เว้นไม่ให้โดนแผลที่ตัดไหมวันนี้มานะคะ
ที่รัดหน้าใส่วันหนึ่งทั้งหมด 4ชั่วโมง แต่ละครั้งถ้าใส่นานไปจะทำให้เลือดไม่หมุนเวียน
ใส่แบบ 1ชั่วโมง เว้น 1ชั่วโมง ใส่1เว้น 1ชั่วโมง แบบนี้ดีค่ะ
ตอนกลับบ้านเราแวะทานข้าวกับคุณพ่อ แต่ยังลำบากตอนขยับคาง ทานซุปฟักทองยังลำบากเลยค่าT^T
อ้าปากยังไม่ค่อยได้ด้วย ทานได้ไม่กี่คำเองค่ะ..
วันที่9
เริ่มชินกับการใส่ที่รัดหน้าแล้ว แนะนำวิธีใส่แบบง่าย ให้
มวยผมขึ้นแล้วจะติดตีนตุ๊กแกได้ง่ายขึ้นค่ะ
ตอนนอนเรามัดเป็นแกละสองข้าง ผมไม่เกะกะด้วย เราทำวิธีนี้อยู่ค่ะ 5555
เราชอบนอนหรือพิงศรีษะ เลยชอบมัดสองแกละค่ะ
ไม่รู้ว่าหน้าจะเข้าที่เมื่อไหร่ แต่รู้สึกดีขึ้นกว่าอาทิตย์ก่อนเยอะแล้วค่ะ
โจ๊กที่ทานเหลือเมื่อวาน เราเติมเอามาต้มใหม่เติมน้ำเข้าไปอีก
เอามาดื่มเป็นน้ำเลยค่ะ555
มื่อไหร่จะอ้าปากกินช้อนแบบปกติได้น๊า... สำหรับการผ่าตัดที่ลำบากอีกอย่างก็คือการอ้าปากนี่แหละค่ะ
ได้โอกาสหาซื้อช้อนชาเล็กๆ สักอัน แถมสลักชื่อได้ด้วย เราสลักชื่อว่า "อุตร้า เจ๋ง"
ชื่อน่ารักใช่ไหมคะ?5555
วันที่10
ตอนใส่ที่รัดหน้าสำหรับเรา เราว่าสบายมาก ตอนแรกคิดว่าจะอึดอัดซะอีก
รู้สึกว่าที่รัดหน้าช่วยประคองทรงหน้า ใส่แล้วสบายใจค่ะ
ที่รัดหน้าเหมือนพยุงใบหน้า ด้วยความดึงขึ้นไปแปะบนศรีษะ
ตอนแกะออกมาความรุ็สึกเหมือนผิวตกมาด้วยเลยค่ะ 555
อีกอย่างเราเสริมกระดูกร่องแก้มด้วย บริเวณริมฝีปากบนเลยบวมเยอะหน่อย
ปากเราเหมือนปากเป็ดเลยค่ะ555
ปกติเราฉีดฟิลเลอร์ปากแบบเยอะอยู่แล้ว ตอนนี้ก็คือปากบวมเหมือนฉีดฟิลเลอร์ทุกวันเลยค่ะ
วันที่11
เราขยันใส่ที่รัดหน้า ก่อนนอนก็ยังใส่ค่ะ
วันนี้รัดหน้าอยู่แอบเผลอหลับไปเกือบชั่วโมง แต่ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ
น่าจะเพราะวิธีที่เราใส่ด้วย แนะนำให้ลองทำตามกันนะคะ
พอรัดหน้าเสร็จแล้วลองส่องกระจกรู้สึกว่าหน้าเล็กลงเยอะเลย รู้สึกดีมากเลยค่ะ
อยากให้หน้าหายบวมเร็วๆแล้ว!!
วันที่ 12
ระหว่างรอลดบวมเราไอเดทไปพร้อมกันด้วย เลยไม่ค่อยหิวเท่าไหร่
ตอนนี้ก็ทานอาหารแบบที่ต้องดื่มอยู่ค่ะ
เห็นคนอื่นทานอาหารที่นิ่มๆได้ แต่เราแค่อ้าปากยังลำบากเลย ลองใช้ช้อนทานอยู่ไม่กี่คำ
ก็เปลี่ยนมาซดเอาแทนค่ะ5555 วันนี้คุณ
แม่เลยต้มซุปกระดูกวัวให้ทานค่า
ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแผลด้านนอกแล้ว ก็เลยมาส์กหน้าเพื่อให้ผิวชุ่มชิ้นค่ะ
เรามาส์กหน้า2วัน 1ครั้ง ถึงแม้หน้าจะยังบวมอยู่
แต่ตรงโหนกแก้มแผ่นมาส์กเหลือเกินออกมาจนเราตกใจเลยค่ะ
เมื่อวานเราน่าจะพักผ่อนเพียงพอ อาการปวดฟันเลยดีขึ้น
แต่เราติดนิสัยเวลานอนตะแคงชอบนอนกัดฟัน ตอนนอนๆอยู่ก็เผลอตะแคงข้างแล้วก็กัดฟันโดยไม่รู้ตัว...
ลองโทรสอบถามรพ.ดู ทางรพ.แจ้งว่าถ้านอนตะแคงแล้วไม่ปวดก็สามารถนอนได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ สบายใจขึ้นนิดนึง
เดี๋ยวอาทิตย์มีนัดพบคุณหมอ จะลองสอบถามคุณหมออีกทีค่ะ 555
วันที่ 13
วันนี้ตื่นเช้ามาบ้านปากก่อนเลยค่ะ
เมื่อวานทานอาหารเค็มไป แอบกังวลเรื่องความบวมนิดนึงค่ะ
พอนึกถึงตอนที่รพ.เคยดุเราแล้ว วันนี้เลยบ้วนปากบ่อยกว่าวันอื่นๆค่ะ
ปกติเราจะรัดหน้าก่อนนอนด้วย พอตื่นมาแล้วรู้สึกขี้เกียจเลยเอาที่รัดหน้าแขวนคอไว้ พอรัดเสร็จก็แขนไว้แบบนี้ค่ะ 555
เพิ่งเห็นรูปเราเอาที่รัดหน้าออกใช่ไหมคะ? พอรัดหน้าแล้วติด รีวิวก็เลยมีแต่รูปรัดหน้าค่ะ
ลองเทียบรูปกับสัปดาห์ที่แล้ว รู้เลยว่าหน้าบวมมาก โดยรวมหน้าเล็กลงนะคะ
แต่ยังไม่กล้าอวดมากเพราะว่ายังหน้าบวมอยู่ ถ้าเวลาผ่านไปหน้าคงเข้าที่กว่านี้
ปกติความบวมจะค่อยๆไล่จากบนลงล่าง ตามแรงโน้มถ่วงโลกค่ะ
ตอนถ่ายรูปโหนกแก้มดูละมุนขึ้น แต่ตรงกรามยังไม่แน่ใจค่ะ
คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริงค่ะ
วันที่14
วันนี้ตื่นมาหิวมาก ไม่รู้จะทานอะไรดี เลยออกไปทานเกี๊ยวนึ่งกับเพื่อนค่ะ
อย่างที่คิดไว้เลย เราทานไม่ได้อีกแล้ว 555
ถ้าเป็นพวกอาหารน้ำๆยังพอซดได้ แต่เราเป็นประเภทไม่ชอบความรู้สึกเจ็บปวดเลย
ได้ชิมรสชาตินิดนึงแล้วก็ยอมแพ้ค่ะ
ถ้าหายดีแล้วค่อยมาทานใหญ่เยอะๆเลยดีกว่าค่ะ
เราตั้งใจว่าจะไดเอทไปด้วย แต่จิตใจยังไม่แน่วแน่พอT^T
เสียดายที่ไม่ได้ทานเกี๊ยวนึ่งด้วย พอกลับบ้านมาปั่นแอปเปิ้ลกับบลูเบอร์รี่ทานอีกค่ะ
แอปเปิ้ลปั่นมีความข้นเหมือนโจ๊กเลยค่ะ55555 รู้สึกอิ่มท้องด้วย
ด้วยความที่ผลไม้น้ำเยอะกว่า ปั่นแล้วได้อารมณ์สมูทตี้ ทานง่ายกว่าโจ๊กอีกค่ะ
วันนี้ก็ครบ14วันแล้ว แต่ทำไมความบวมไม่ค่อยลดลงเลย เศร้าเลยค่ะT^T
เราขยันดูแลตัวเองมาก หรือว่าจะความบวมจะไม่ลดลงกว่านี้แล้วนะ??
แต่ถ้าเทียบกับรูปถ่ายตอนครบ1สัปดาห์ หน้าเรียวขึ้นอยู่นะคะ อยู่ในระดับที่พึงพอใจค่ะ>.
ในที่สุดพรุ่งนี้เราก็จะได้ตัดไหมในปากแล้วค่ะ ตื่นแต้นมากกกกก
ปกติเราไม่ค่อยเข้าคลินิกทำฟันด้วย และไม่ค่อยเป็นร้อนในหรือแผลในปากอีก ยิ่งกังวลกว่าเดิมอีกค่ะ
พี่พยาบาลจะตัดแบบเบามือให้ใช่ไหมคะ??
อาทิตย์หน้าก็ครบ 3สัปดาห์แล้วววว ไหมในปากก็จะไม่มีแล้ว หวังว่าจะรู้สึกโล่งสักทีนะคะ
แล้วกลับมาเจอกันสัปดาห์หน้าค่า~~