กล้องวงจรปิดจับภาพขณะรถกระบะตีตู้ทึบส่งของพยายามเร่งเครื่องแซงรถอีกคันแล้วเกิดเสียหลักเนื่องจากมีฝนตกทำให้ถนนลื่นรถกระบะหมุนชนกับเสาไฟฟ้าและร้านขายของชำข้างทางข้าวของกระจาย ต่อมาพ.ต.ต.สมศักดิ์ ใจแล สว.( สอบสวน ) สภ.พานทอง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าเสียหาย บนถนนพานทอง-บ้านโรงนา หมู่ที่ 9 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี จึงรุดตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาวทะเบียน 2 ฒฬ 4699 กทม. สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยินจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุพบร้านขายของชำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมีข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณและยังพบเสาไฟฟ้าหัก
จากสอบถามนายแดง เวินมาหา อายุ 35 ปี คนขับรถกระบะตู้ทึบคันเกิดเหตุ ซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อย เผยอ้างว่าตนได้ไปส่งของให้กับนายจ้างที่ ต.บ้านเก่า และอยู่ระหว่างกลับไปยังบริษัทเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีฝนตกลงมาและในขณะนั้นตนเห็นมีรถที่วิ่งช้ากว่าจึงได้เร่งเครื่องเพื่อจะแซงแต่รถเกิดเสียหลักเพราะถนนลื่นหมุนไปชนเข้ากับเสาไฟฟ้าและร้านขายของข้างทางเสียหายดังกล่าวทางด้านนางสาวภัทรานิษฐ์ เศรษฐหิรัญ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขายของชำได้เปิดเผยด้วยอากาตกใจว่าตนนั้นได้ยืนอยู่หน้าร้านเพื่อที่จะเอาผ้าใบคลุมของเนื่องจากฝนตกและได้มีลูกค้าเข้ามาซื้อของจึงได้หันหลังไปหยิบของให้กับลูกค้าแต่จู่ๆได้ยินเสียงรถเบรกอย่างดังและเมื่อหันกลับมาพบรถคันดังกล่าวเข้ามาชนที่ร้านแล้ว ตนตกใจกลัวมาก คิดว่าตัวเองไม่รอดแล้วและได้มีเพื่อนบ้านที่เห็นว่าตนนั้นยืนอยู่ข้างนอกจึงรีบวิ่งมาดูและตะโกนเรียกคิดว่าถูกรถชน แต่เมื่อเพื่อนบ้านมาเห็นก็โล่งใจที่ยังปลอดภัยดีเพราะยืนอยู่ในร้าน
นางภัทรานิษฐ์ ยังกล่าวอีกว่าถ้าเกิดลูกค้าไม่เข้ามาซื้อของตนคงตายไปแล้วแน่ๆ ตนอยากจะฝากถึงคนที่ขับรถในขณะที่ฝนตกอยากให้ลดความเร็วลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำที่ขังอยู่หน้าร้านได้กระเด็นเข้ามาภายในร้านและถนนเส้นนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งส่วนในเรื่องทางคดีนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้วได้ให้คนขับไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนที่จะมีการเรียกประกันรถมาตกลงค่าเสียหายอีกครั้ง