เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณา คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม‘นโยบายคุกกี้’ และ ‘นโยบายความเป็นส่วนตัว’
ข่าวล่าสุดของหมวด
ผัวฝากอุทาหรณ์ แม่ลูกอ่อนหวิดลาโลก เครียดถูกโปรไฟล์หนุ่มหล่อหลอกโอน 7 หมื่น
ตามรวบถึงบ้าน หนุ่มใช้มีดฟัน-ไม้ทุบพ่อตัวเองจนตายคาที่นอน เอาศพไปทิ้งข้างทาง
มนต์รักล็อกล้อ! สาวร้องสื่อ ตำรวจตีสนิทจนหลงรัก โดนยืมเงินกว่า 1 ล้าน ไม่ได้คืน
เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย โจรขึ้นบ้าน คนโทรแจ้งให้เจ้าของบ้านรู้คือโจร อาสาดูบ้านให้
บ่อนพนันกลางกรุง ชั้นใต้ดินตึกย่านรัชดาฯ รวบ 52 นักเล่นบาคาร่า เงินของกลาง 4.3 ล้าน
รวบคาบ้าน! "ป๋าปิง แวร์วูฟ" หัวหน้าแก๊งนักเลง ไล่ฟันคนไม่เลือกหน้า-โพสต์ขู่ยิง
ส่องด่วนก่อนหมดแผง! ทะเบียนรถนายกฯ บิ๊กตู่ เยือนเชียงใหม่ หลังเคยให้โชคมาแล้ว
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงพื้นที่โรงเรียนหอวัง หลังเด็กนักเรียนถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์
ประยุทธ์เยือนเชียงใหม่ เจอกลุ่มไม่สนับสนุน ชูป้ายประท้วงหน้าศูนย์ประชุมนานาชาติ
กราบ หรือ ไม่กราบ? ส่องความเห็นหลัง ม.อุบลราชธานี ยกเลิกหมอบกราบ
"ชวน" เข้า รพ.รามาธิบดี มีไข้-หนาวสั่น อาจต้องแอดมิท เบื้องต้นอาการไม่น่าห่วง
ชัชชาติ แจงปมเคาะค่ารถไฟฟ้าสีเขียว 59 บาท แก้ปัญหาระยะสั้น อย่าเข้าใจคลาดเคลื่อน
"วี วิโอเลต" เคลื่อนไหวคอนเฟิร์มสัมพันธ์ "เก้า จิรายุ" ถูกจับตาเป็นคู่รักเลิกเงียบ
"จอย รินลณี" ปลูกสวนผักเองที่บ้าน เรียบง่ายแต่สดชื่นมีความสุข
"ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา" กล่าวอาลัยถึงคุณพ่อทั้งน้ำตา ถึงวันนี้เข้าใจทุกอย่างที่พ่อทำแล้ว
"โอเด็ต" หวิดช็อก! ถูกหามเข้าห้องฉุกเฉินด่วน เล่าอุทาหรณ์ซื้อยามาทานเอง
"กอล์ฟ เบญจพล" จมูกใหม่เป๊ะเวอร์ เปิดใจครั้งแรก ผลลัพธ์ 1 เดือน หล่อขึ้นกว่าเดิมมาก
"ทาทา ยัง" อัปเดตอาการ ติดโควิดต้องเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบ แฟนๆส่งกำลังใจล้น
ซึ้งใจมาก! พนักงานร้านดังทำมา 27 ปี ไม่เคยลา-มาสาย โชว์ถุงของขวัญจากบริษัท
โมร็อกโก ชี้ค้ามนุษย์ข้ามชาติ อยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงขณะผู้อพยพหนีข้ามด่าน
แผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน เขย่ารัฐบาลตาลิบัน
ตุรกีไม่ขวางฟินแลนด์-สวีเดนแล้ว เปิดทางเข้าร่วมนาโต
ซีอีโอบริษัทหลักล้านล้านบาท ลาออกเพราะอยากกลับบ้านไปนั่งเปื่อยริมทะเล
หาจนเจอ! ไวรัลสาวบิกินี่ขี่มอเตอร์ไซค์ สุดท้ายเจอตัวแล้ว เผยสาเหตุขี่ท่ายากเพราะอะไร
ช่างสักแฉ "เน็ตไอดอลชายรุ่นใหญ่" จ้างไปสักที่บ้าน ตื้อรับงานเอ็น-ขอมีอะไรด้วย
NSDF ร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดโครงการ Grow Together
เสรีเกินไป๊! คลิปว่อน ตั้งโต๊ะมวนกัญชาขายริมถนนข้าวสาร แถมบอก "ชอบรัฐบาลก็เรื่องนี้ล่ะ"
ปังมาก! "ครูอิ๋ง" ครูสาวคนสวย แรปสอนภาษาอังกฤษ คลิปยอดวิวถล่มทลาย
ปล่อยมาแล้ว! เลขเด็ด เจ๊ฟองเบียร์ งวดนี้ 1/7/65 เลข 2 ตัว เลข 3 ตัว
เช็กด่วน! ฝนกระหน่ำจังหวัดไหนบ้าง กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพายุดีเปรสชัน 30 มิ.ย.-2 ก.ค.
นับถือหัวใจ หนุ่มกู้ภัยมัดศพติดหลัง ขี่จยย.ออกจากป่า เหตุรถตู้พยาบาลเข้าไม่ได้
ขอเบนซ์ได้เบนซ์ ขนกลองยาวแก้บน "หลวงพ่อผอม" คอหวยจ้องทะเบียนตาเขม็ง
ชาวสวนยางช้ำ ราคาน้ำยางลด ตกต่ำสุดในรอบปี สวนทางค่าครองชีพแพง
แท็กซี่เมาโซจู ขับชนตำรวจ โดนรวบยังอาละวาด ค้นรถพบอุปกรณ์เสพกัญชา
แม่ขอความเป็นธรรม ลูกชายวัย 16 ถูกสิบล้อเหยียบจนต้องตัดขา คู่กรณีเงียบหาย
เจ้าของแทบล้ม วันเดียวควายตายปริศนา 5 ตัว เงินละลายกว่า 3 แสนชั่วข้ามคืน
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
ไทย-เยอรมนี พร้อมจับมือ ขับเคลื่อนกลไกการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดปัญหาโลกร้อนเมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมกับโครงการด้านนโยบาย ภายใต้แผนงานความร่วมมือไทย – เยอรมัน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) จัดการประชุมสัมมนากลไกการเงินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “Thailand Climate Finance Conference: From International to Domestic Mechanism” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางการเงินและการลงทุนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบกลไกทางการเงินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนเกี่ยวกับความท้าทาย ช่องว่างและโอกาสในการพัฒนาธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำรวมทั้งความต้องการขอรับการสนับสนุนในการพัฒนาและการลงทุนในเทคโนโลยีที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำผ่านการประชุมเชิงปฏิบัติการเชิงลึก การประชุมครั้งนี้ เปิดเวทีให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนแนวคิดการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย โดยในช่วงการเสวนาได้รับเกียรติจากผู้แทนหน่วยงานที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนกลไกการเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วย กองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (สผ.) ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP) และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน สื่อมวลชน และองค์กรอิสระกว่า 200 คน โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวปาฐกถาพิเศษและเน้นย้ำว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสและช่องว่างสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการสร้างงานจากเศรษฐกิจสีเขียวอีกมาก ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles – EVs) อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมการผลิตโดย reuse หรือ recycle วัตถุดิบ อุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรมเกษตร เช่น การปลูกข้าวปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ การผลิตโปรตีนทางเลือก และการผลิตอาหารสัตว์ที่ดีต่อระบบย่อยอาหารของสัตว์และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ เป็นต้นทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา ยังกล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวในทุกภาคส่วนและทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนการลงทุนให้สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจสีเขียว สร้างมูลค่าเพิ่มและความเข้มแข็งในการแข่งขันทั้งในโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี การศึกษา กระบวนการผลิตสินค้า และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เรายังต้องการการสนับสนุนจากต่างประเทศอีกมากทั้งในด้านการเงิน การลงทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาศักยภาพ โดยเฉพาะในเทคโนโลยีระดับสูงที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำหรือลดก๊าซเรือนกระจก และทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชนและประชาสังคมควรตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ก่อนที่เราจะไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้เลยทางด้านสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานประสานงานกลางของประเทศภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ และการเข้าถึงกลไกทางการเงินเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศต่อประชาคมโลกในการมุ่งบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ.2065 การประชุมครั้งนี้ จึงมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบกลไกทางการเงินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนเกี่ยวกับความท้าทายในการพัฒนาธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และความต้องการรับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้สามารถแข่งขันและพัฒนาธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำได้ด้านนายฮานส์ อูลริช ซูดเบค อุปทูตและหัวหน้าแผนกเศรษฐกิจประจำสถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ ซึ่งได้ให้เกียรติมากล่าวต้อนรับ ได้แสดงให้เห็นว่า นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญในการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของโลก การทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินควบคู่กัน ไม่ใช่แค่ประเทศไทยกับเยอรมนี ที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนานถึง 160 ปี แต่ยังหมายรวมถึงสหภาพยุโรป และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนด้วยที่ต้องร่วมกันจัดการวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต้องการทิศทางที่ชัดเจนจากนโยบายสาธารณะที่สนับสนุนศักยภาพที่แท้จริงของภาคเอกชนและภาคประชาชนดังนั้น การพูดถึงเรื่อง Climate Finance จึงมิใช่เพียงแค่เรื่องงบประมาณจากภาครัฐเท่านั้น แต่ควรเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการออกแบบนโยบายและแรงจูงใจที่เหมาะสม เพื่อเป็นตัวเร่งให้เกิดการปรับการลงทุนของภาคเอกชน อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม#สิ่งแวดล้อม #กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอบคุณที่มา https://web.facebook.com/mnreTH/posts/271537465154811,https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3232285
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี