ข้อมูลจากการประชุมนานาชาติของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ประจำปี 2565
การเข้ารักษาใน ICU อาจทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นเท่าตัว
ผลวิจัยต่าง ๆ ที่นำเสนอในการประชุมนานาชาติของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ประจำปี 2565 หรือ Alzheimer's Association International Conference(R) (AAIC(R)) 2022 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองซานดิเอโกและออนไลน์ เผยให้เห็นข้อมูลเจาะลึกใหม่ ๆ เกี่ยวกับปัจจัยที่อาจช่วยคาดการณ์ เพิ่มโอกาส หรือป้องกันผลกระทบที่โรคโควิด-19 และการระบาดใหญ่มีต่อความจำและทักษะการคิด
ข้อค้นพบสำคัญที่ราย
งานในการประชุม AAIC 2022 มีทั้ง
การวิจัยจากอาร์เจนตินาพบว่า การสูญเสียการรับกลิ่นเป็นเวลานานอาจเป็นสิ่งที่บ่งชี้ปัญหาด้านการรู้คิดและการทำกิจวัตรได้ดีกว่าความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในระยะเบื้องต้นการเข้ารับการรักษาในหน่วยดูแลผู้ป่วยหนักอาจทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากการศึกษาของศูนย์โรคอัลไซเมอร์รัช (Rush Alzheimer's Disease Center) ที่ชิคาโกในระหว่างที่เกิดการแพร่ระบาด เพศหญิง ผู้ที่ไม่ได้ทำงาน และสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจที่น้อยกว่า มีโอกาสที่จะพบอาการทางการรู้คิดมากกว่า ในการวิจัยกลุ่มใหญ่จากประเทศแถบลาตินอเมริกา 9 ประเทศผลการศึกษาอาสาสมัครกลุ่มเดียวกันในลาตินอเมริกาพบว่า ประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตในทางที่ดีขณะเกิดโรคระบาด (เช่น ได้ใช้เวลาดี ๆ กับเพื่อนและครอบครัวมากขึ้น หรือใช้เวลากับธรรมชาติมากขึ้น) ช่วยลดผลเสียที่การแพร่ระบาดมีต่อความจำและทักษะการคิด
"โควิด-19 ทำให้คนนับล้านทั่วโลกป่วยและเสียชีวิต และสำหรับบางคนแล้ว ผลการวิจัยใหม่บ่งชี้ว่า โรคนี้มีผลกระทบระยะยาวต่อความจำและการคิดด้วยเช่นกัน" ดร.เฮเธอร์ เอ็ม สไนเดอร์ (Heather M. Snyder) รองประธานฝ่ายการแพทย์และวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ กล่าว "ไวรัสนี้น่าจะอยู่กับเราไปอีกนาน การหาปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกันอาการทางการรู้คิดจะช่วยรักษาและป้องกันไม่ให้อาการลองโควิด (long COVID) ลุกลามต่อไปได้"
การสูญเสียการรับกลิ่นเป็นเวลานานบ่งชี้ปัญหาด้านการรู้คิดได้ดีกว่าความรุนแรงของโรคโควิด-19
นักวิจัยในอาร์เจนตินาที่ทำงานร่วมกับกลุ่มพันธมิตรว่าด้วยผลกระทบทางด้านประสาทจิตเวชเรื้อรังจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Association Consortium on Chronic Neuropsychiatric Sequelae of SARS-CoV-2 Infection) ได้ติดตามอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่อายุ 55-95 ปีที่มีโอกาสสัมผัสกับโรคโควิด-19 จำนวน 766 คนเป็นเวลา 1 ปี และได้ดำเนินการทดสอบทางกายภาพ การรู้คิด และประสาทจิตเวชหลายครั้ง โดยในการวิจัยกลุ่มนี้ มีอาสาสมัครที่ติดเชื้อเป็นสัดส่วน 88.4% ขณะที่อีก 11.6% อยู่ในกลุ่มควบคุม
ผลการประเมินทางคลินิกได้แสดงให้เห็นความบกพร่องด้านความจำในอาสาสมัครที่ติดเชื้อเป็นสัดส่วนสองในสาม ซึ่งครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้มีอาการรุนแรง ขณะที่การทดสอบการรู้คิดในอาสาสมัครอีกกลุ่มหนึ่งแบ่งผู้ที่มีสมรรถนะลดลงได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
11.7% มีความบกพร่องด้านความจำเพียงอย่างเดียว8.3% มีความบกพร่องเรื่องสมาธิและการบริหารจัดการตนเอง11.6% พบความบกพร่องหลายส่วน (ทั้งความจำ การเรียนรู้ สมาธิ และการบริหารจัดการตนเอง)
ผลการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า การสูญเสียการรับกลิ่นเป็นเวลานานเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ปัญหาด้านการรู้คิดได้ ขณะที่ความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในระยะเบื้องต้นทำไม่ได้
ดร.กาเบรียลลา กอนซาเลซ-เอลแมน (Gabriela Gonzalez-Aleman), LCP ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งอาร์เจนตินา (Pontificia Universidad Catolica Argentina) กรุงบัวโนสไอเรส กล่าวว่า "ยิ่งเรามีข้อมูลบอกสาเหตุหรืออย่างน้อยก็คาดการณ์ได้ว่าใครจะมีปัญหาด้านการรู้คิดระยะยาวจากการติดเชื้อโควิด-19 มากเท่าใด เราก็จะติดตามและเริ่มพัฒนาวิธีป้องกันได้ดีเท่านั้น"
การเข้ารับการรักษาในหน่วยดูแลผู้ป่วยหนักอาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมมากขึ้น
นักวิจัยจากศูนย์โรคอัลไซเมอร์รัช (RADC) ในเครือระบบสุขภาพมหาวิทยาลัยรัช (Rush University System for Health) เมืองชิคาโก ได้ใช้ข้อมูลจากการวิจัยผู้สูงอายุที่ไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อมรวม 5 โครงการ (n=3,822) เพื่อสังเกตอาการขณะรักษาในหน่วยดูแลผู้ป่วยหนัก (ICU) ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่ามีความสัมพันธ์กับภาวะรู้คิดบกพร่องในผู้สูงอายุ แต่มีการวิจัยไม่มากนักที่ประเมินว่าทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นหรือไม่
นักวิจัยได้ดูบันทึกข้อเรียกร้องในระบบเมดิแคร์ตั้งแต่ปี 2534 ถึงปี 2561 (ก่อนเกิดการระบาดใหญ่) และได้ตรวจเช็คดูอาการโรคอัลไซเมอร์และโรคสมองเสื่อมทุกประเภททุกปี โดยใช้แบบประเมินการรู้คิดตามมาตรฐาน โดยจากการติดตามผลเฉลี่ย 7.8 ปีพบว่า อาสาสมัคร 1,991 คน (52%) เข้ารับการรักษาใน ICU อย่างน้อย 1 ครั้ง, 1,031 คน (27%) เคยเข้ารับการรักษาใน ICU ก่อนร่วมการวิจัย และ 961 คน (25%) เข้ารับการรักษาใน ICU ขณะร่วมการวิจัย
นักวิจัยพบว่า เมื่อประเมินตามอายุ เพศ การศึกษา และเชื้อชาติแล้ว การเข้ารับการรักษาใน ICU มีความสัมพันธ์กับการที่มีโอกาสเป็นภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้น 63% และมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมทุกประเภทเพิ่มขึ้น 71% ส่วนในแบบจำลองที่ประเมินตามปัจจัยสุขภาพอื่น ๆ เช่น ปัจจัยเสี่ยงและโรคด้านหลอดเลือด อาการทางการแพทย์เรื้อรังอื่น ๆ และความผิดปกติในการทำกิจวัตรแล้ว ความสัมพันธ์ที่ว่านี้ยิ่งสูงขึ้น โดยการเข้ารับการรักษาใน ICU มีความสัมพันธ์กับการที่มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้น 110% และมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมทุกประเภทเพิ่มขึ้น 120%
"เราพบว่า การเข้ารับการรักษาใน ICU ทำให้ผู้สูงอายุเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นเท่าตัว" ดร.ไบรอัน ดี เจมส์ (Bryan D. James) นักระบาดวิทยาประจำศูนย์ RADC กล่าว "ข้อค้นพบเหล่านี้อาจมีนัยสำคัญเมื่อประเมินจากการที่ผู้สูงอายุมีอัตราเข้ารับการรักษาใน ICU สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่มีผู้เข้ารับการรักษาใน ICU เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงโควิด-19 ระบาด การทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการเข้ารับการรักษาใน ICU กับการก่อตัวของโรคสมองเสื่อมได้เข้ามามีความสำคัญมากยิ่งกว่าที่เคย"
ดร.เจมส์ เสริมว่า "จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อค้นพบเหล่านี้และขยายความปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อม ยกตัวอย่างเช่น ภาวะเจ็บป่วยวิกฤตเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือไม่ หรือขั้นตอนที่ปรับเปลี่ยนได้ขณะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมมากขึ้นหรือไม่"
ประสบการณ์ดี ๆ ในชีวิตเพียงครั้งเดียวในช่วงการแพร่ระบาด อาจเป็นเครื่องป้องกันอาการทางการรู้คิดได้
นักวิจัยจากประเทศต่าง ๆ ทั่วอเมริกากลางและอเมริกาใต้ และในสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันประเมินว่า ปัจจัยทางสังคมประชากรและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในชีวิตที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการระบาดใหญ่ มีความสัมพันธ์กับอาการด้านการรู้คิดหรือไม่ รวมถึงปัญหาเรื่องความจำ สมาธิ และทักษะการคิดอื่น ๆ ในการระบาดใหญ่ช่วงแรก ๆ