สำหรับสถาณการณ์น้ำท่วม ที่ จ.สุพรรณบุรีนั้น ทางด้าน นายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 1 ได้ลงพื้นที่ ทุ่งรับน้ำผักไห่ ( พื้นที่รับน้ำ ต.จรเข้ใหญ่ ต.โคกคราม ต.องค์รักษ์ ต.ไผ่กองดิน ) และทุ่งรับน้ำบางปลาม้า ที่รับน้ำจากประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา จากแม่น้ำท่าจีน
โดยนายสรชัด ระบุว่า ทั้ง 2 ทุ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ ที่คอยรองรับน้ำในฤดูน้ำหลากมาตลอดทุกปี โดยขณะนี้ระดับน้ำทั้ง 2 ทุ่งขึ้นสูง โดยเฉพาะทุ่งบางปลาม้า ซึ่งถือเป็นทุ่งรับน้ำสุดท้าย หากเกินกำลังทุ่งนี้ จะท่วมทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ก็วิกฤตเกิน 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้แม่น้ำท่าจีนต้องรับน้ำจากเจ้าพระยา เพิ่มเป็น 160 ลบ.ม.ต่อวินาที ในขณะที่น้ำทะเลก็กำลังเริ่มหนุนสูง ทำให้เสี่ยงสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างมาก
ส่วนทางด้านนาย เสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 4 ติดตามการบริหารจัดการน้ำเขื่อนกระเสียว ซึ่งเป็นเขื่อนสำคัญของสุพรรณบุรี และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการชี้วัดว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ โดยจากข้อมูลย้อนหลัง วันที่ 8-9 พบว่า เขื่อนรับน้ำน้อยลง จาก 9 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 5.6 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และระบายน้ำออกจากเขื่อน ที่ 2.8 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ซึ่งถือว่ายังไม่อันตราย ยังไว้วางใจได้อยู่
อย่างไรก็ตามทางด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้กำชับ ส.ส.ในเขตพื้นที่ สุพรรณบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชม. เพื่อแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน และประสานงานความช่วยเหลือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากขณะนี้ อยู่ในกรอบ 180 วัน ก่อนการเลือกตั้ง ทำให้ ส.ส.ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยตรงได้ โดยให้เคร่งครัดในกรอบกฎหมาย และประสานงานกับหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด