ปฏิเสธไม่ได้ว่าในการที่จะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สักชิ้นหนึ่งนั้นเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่จะใช้เวลานานมากในการตัดสินใจ เพราะนอกจากเราจะต้องมั่นใจถึงความคุ้มค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไปแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องคำนึงถึงให้ดีได้แก่บริการหลังการขาย รวมไปถึงความน่าเชื่อถึงของร้าน
ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งในการที่จะซื้อ
ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีรายละเอียดที่เราควรจะต้องใส่ใจมากมาย ดังนั้นเราจึงอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสิ่งที่ควรทำก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้ากัน เพื่อให้ตัวเองได้ของดีในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ว่าแต่รายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาลองดูกันเลยค่ะ
1.เช็กคุณสมบัติของเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเว็บไซต์ของผู้ผลิต
ขั้นตอนแรกสุดที่เราควรทำก่อนเดินตรงดิ่งไปยังร้านได้แก่การลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราต้องการเพื่อตรวจสอบดูว่า บนหน้าเว็บไซต์มีการระบุคุณสมบัติรวมไปถึงฟังก์ชันการใช้
งานและราคาไว้อย่างไร ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปใช้เป็นเกณฑ์หลักในการเลือกดูสินค้าจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรามองไว้ได้
2.ลองไปดูของจริงที่หน้าร้าน
แน่นอนว่าการเดินไปดูของจริงก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะถึงแม้เราจะสามารถดูข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ได้ แต่การไปเห็นหรือไปสัมผัสย่อมช่วยให้เราเห็นภาพว่าจริง ๆ แล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรากำลังมองหาอยู่นั้นมีขนาดประมาณไหน หรือมีฟังก์ชันการใช้งานอย่างไร
3.ลองเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ ร้าน
การเปรียบเทียบราคาสินค้าที่เราต้องการจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าหลาย ๆ ร้านนั้นเป็นเทคนิคหนึ่งที่จะทำให้เราได้สินค้าที่กำลังมองหาในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด โดยไม่ทำให้เกิดอาการเสียดายในภายหลังว่าทำไมเราถึงไม่เห็นสินค้าชนิดเดียวกันที่ขายถูกกว่า แถมยังมีบริการหลังการขายมากกว่าร้านที่เราซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้
4.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านที่เรามองหาให้ดี
หลังจากได้ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของคุณภาพและราคาแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่เราอยากจะให้ทุกคนใส่ใจกันเป็นพิเศษได้แก่การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านที่เราเลือกไว้ โดยเรื่องนี้ เราสามารถเช็กได้ง่าย ๆ จากกระแสตอบรับของลูกค้าที่เคยใช้บริการมาก่อนหน้าว่าเป็นไปในทิศทางไหน
แต่ทั้งนี้การ ซื้อ
ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเอามาใช้งานแล้วนั้นก็ต้องมีวันที่มันจะหมดอายุการใช้งาน หรือสภาพเสื่อมจนไม่สามารถนำเอามาใช้งานได้ ชิ้นส่วนอุปกรณ์เหล่านั้นจะเป็นอันตรายต่อธรรมชาติได้ เพราะมันไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ ดังนั้นจึงต้องกำจัดขยะเหล่านี้ให้ถูกวิธี อย่างเช่น นำไปรีไซเคิลนำกลับมาใช้ใหม่ หรือไม่ก็ต้องพัฒนาวัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะเอามาใช้ให้สามารถย่อยสลายได้ง่าย เป็นต้นค่ะ