การลงทุนหลายปีจะช่วยขับเคลื่อนโซลูชันที่ใช้ระบบคลาวด์เป็นอย่างแรกในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
เอสเอเอส อินโนเวทีฟ (SAS INNOVATE) -- เอสเอเอส (SAS) บริษัทชั้นนำด้านการวิเคราะห์ เตรียมลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 ปี ข้างหน้า เพื่อพัฒนาโซลูชันการวิเคราะห์ขั้นสูงเพิ่มเติม โดยมุ่งเป้าไปที่ความต้องการอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในภาคการธนาคาร ภาครัฐบาล การประกันภัย การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก การผลิต พลังงาน และอื่น ๆ โดยเอสเอเอสมีเป้าหมายที่มุ่งเน้นมานานหลายทศวรรษ เพื่อพัฒนาและจัดหาโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับความท้าทายของแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมนี้และเวลาในการประเมินมูลค่าอย่างรวดเร็วที่โซลูชันเหล่านี้มอบให้ คือความแตกต่างที่สำคัญของเอสเอเอส
โซลูชันอุตสาหกรรมทั้งหมดจะทำงานบน SAS(R) Viya(R) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเอไอและการวิเคราะห์แบบคู่ขนานขนาดใหญ่บนระบบคลาวด์
"ธุรกิจเผชิญกับความท้าทายมากมาย ตั้งแต่ภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและห่วงโซ่อุปทานที่ตึงเครียด ไปจนถึงการขาดแคลนแรงงานและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ" คุณจิม กู๊ดไนท์ (Jim Goodnight) ซีอีโอของเอสเอเอส กล่าว "ข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์ที่เน้นไปที่อุตสาหกรรมนั้น ทำให้องค์กรที่มีความยืดหยุ่นค้นพบโอกาสในความท้าทายเหล่านี้ได้"
"เอสเอเอสจะใช้การลงทุนครั้งนี้สนับสนุนบริษัทต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เอไอ การเรียนรู้ของเครื่อง และการวิเคราะห์ขั้นสูง เพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกง จัดการความเสี่ยง ให้บริการลูกค้าและประชาชนให้ดียิ่งขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย เรายังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม พร้อมกับส่งมอบการวิเคราะห์ที่ดีที่สุดของตลาด"
นวัตกรรมวิจัยและพัฒนา + ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม = การวิเคราะห์สำหรับผู้คน
การลงทุนหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐประกอบด้วยการวิจัยและการพัฒนาโดยตรง ทีมงานสายธุรกิจที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรม และความพยายามทางการตลาดของอุตสาหกรรม โดยจะให้ทุนแก่งานสร้างสรรค์ของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักสถิติ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของเอสเอเอส ซึ่งทำงานร่วมกับที่ปรึกษา วิศวกรระบบ และนักการตลาดที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเฉพาะทาง
การลงทุนนี้สอดคล้องกับเทรนด์การวิเคราะห์ข้อมูลที่เข้าถึงและใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการให้พลังของการวิเคราะห์ขั้นสูงอยู่ในมือของผู้คนที่มีประสบการณ์และมีบทบาทหน้าที่ที่หลากหลายมากขึ้นนั้นจะทำให้องค์กรและสังคมได้ประโยชน์ นี่คือสิ่งที่เอสเอเอสเรียกว่าการวิเคราะห์สำหรับทุกคน และทุก ๆ ที่
ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ ได้ยอมรับการวิเคราะห์เอไอ การเรียนรู้ของเครื่อง คอมพิวเตอร์วิทัศน์ และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) หรือ IoT อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่านั้น บุคลากรทุกระดับสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการวิเคราะห์ผ่านตัวเลือกแบบใช้โค้ดน้อย หรือไม่ใช้โค้ด เช่น โซลูชันที่ทำงานบน SAS Viya
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและนักสถิติสามารถใช้โซลูชันอุตสาหกรรมของเอสเอเอสได้ ซึ่งได้รับประโยชน์จากเอไอ การเรียนรู้ของเครื่อง และการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพอื่น ๆ และที่สำคัญก็คือ นักวิเคราะห์ธุรกิจสามารถตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงได้ดีขึ้น นักสร้างผังเมืองสามารถปรับปรุงการสาธารณสุขและความปลอดภัย บุคลากรทางการแพทย์สามารถปรับปรุงการดูแลผู้ป่วย และพนักงานหน้างานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในสายการผลิต
โซลูชันอุตสาหกรรมเอสเอเอสล่าสุด
เอสเอเอสได้นำเสนอโซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีหลากหลายและกว้างขวางอยู่แล้ว โซลูชันเหล่านี้จะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเอสเอเอสจะพัฒนาโซลูชันใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการเพิ่มเติม
ตัวอย่างล่าสุดของความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของเอสเอเอส ได้แก่
ฝ่าฟันความผันผวนและปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าในภาคบริการทางการเงิน
อุปสรรคต่อเศรษฐกิจในปีที่แล้วทำให้ตลาดทั่วโลกเกิดความปั่นป่วน ซึ่งสกัดการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสร้างสถานการณ์ความเสี่ยงที่ล่อแหลมมากขึ้น ในการช่วยให้ลูกค้าภาคธนาคารและประกันภัยสามารถรับมือกับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้านั้น เอสเอเอสได้เข้าซื้อกิจการคามาคุระ คอร์ป (Kamakura Corp) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการจัดการความเสี่ยงทางการเงินที่ได้รับการยกย่องในด้านความเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการงบดุลการเงินแบบบูรณาการ
การซื้อกิจการดังกล่าวนับเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอสเอเอส ซึ่งได้เพิ่มบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ในด้านการจัดการความเสี่ยงเชิงปริมาณเข้ามาอยู่ในเครือเอสเอเอส นอกจากนี้ยังเป็นการเร่งความก้าวหน้าในชุดโซลูชันความเสี่ยงแบบบูรณาการของเอสเอเอส โดยโซลูชันจัดการสินทรัพย์และหนี้สินของเอสเอเอส (SAS Asset and Liability Management หรือ ALM) ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับ SAS Viya ซึ่งช่วยให้ธนาคารคาดการณ์และลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและงบดุลการเงินที่นำไปสู่การล่มสลายของธนาคารเมื่อไม่นานมานี้ได้
เอสเอเอสยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการตัดสินใจขององค์กร โดยการเชื่อมโยงการทำงานในส่วนต่าง ๆ (เช่น การเริ่มใช้งาน ความเสี่ยงด้านเครดิต การตรวจจับการฉ้อโกง การตลาด) บนสถาปัตยกรรมแบบครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ และใช้ข้อมูลการวิเคราะห์ที่ใช้งานร่วมกัน กำลังช่วยให้บริษัทการเงินปรับปรุงความซับซ้อนในการดำเนินงาน ในขณะที่ให้ผลการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า
ปกป้องเงินของผู้เสียภาษี
ในทุก ๆ ปี รัฐบาลทั่วโลกสูญเสียเงินจำนวนมหาศาล เนื่องจากการหนีภาษีและการเลี่ยงภาษี สิ่งนี้บั่นทอนประสิทธิภาพของรัฐบาลในการให้บริการที่จำเป็นแก่ประชาชน
โซลูชันดูแลการเสียภาษีของเอสเอเอส (SAS Tax Compliance) จะช่วยให้รัฐบาลปกป้องแหล่งรายได้ของตน โดยใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงกับข้อมูลภาษีจำนวนมหาศาล เพื่อตรวจสอบและตรวจจับกรณีที่มีการไม่ปฏิบัติตามและการฉ้อโกงได้โดยอัตโนมัติ
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือหน่วยงานด้านภาษีของรัฐบาลพบการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เปิดโปงการฉ้อโกงภาษีที่เกิดขึ้นใหม่ เร่งการตรวจสอบ และกำจัดคดีเก่า ๆ ออกไป
ราคาประกันแบบพลวัตสำหรับตลาดที่มีปัญหา
สถาบันข้อมูลการประกัน (Insurance Information Institute) ยกให้ปี 2565 เป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่าทศวรรษสำหรับการประกันภัยทรัพย์สินและวินาศภัย (P&C) ผลการสำรวจของเอเอ็ม เบสต์ (AM Best) เผยว่า ภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น พายุเฮอริเคนเอียน ทำให้อุตสาหกรรม P&C ของสหรัฐเพียงแห่งเดียว มีการขาดทุนจากการรับประกันภัยมากถึง 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ บริษัทประกันต้องเพิ่มเบี้ยประกันเพื่อประคับประคองสภาพคล่อง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าในตลาดประกันภัยที่ไม่มั่นคงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ดังนั้นการกำหนดราคาเบี้ยประกันที่รวดเร็ว แม่นยำและเป็นกลาง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อปัญหาที่มีอยู่ และช่วยให้สามารถแข่งขันได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างความสบายใจให้กับผู้บริโภคด้วย
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/it/3335047
