หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: การประชุมสุดยอดโบราณคดีโลกเมืองอัลอูลาครั้งแรกมีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน  (อ่าน 10 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 18 ก.ย. 23, 13:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

การประชุมสุดยอดโบราณคดีโลกเมืองอัลอูลาครั้งแรก ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คนจาก 39 ประเทศ ร่วมเสวนาบทบาทของโบราณคดีที่มีต่อสังคม


โบราณคดีเป็นเลนส์ที่สามารถขยายอดีตของเรา สะท้อนภาพปัจจุบันของเรา และมองอนาคตของเรา
การมีส่วนร่วมกับคนในชุมชนช่วยให้นักวิจัยเข้าใจถึงมรดกตกทอดของแหล่งมรดกมากขึ้น
ผู้เข้าร่วมการประชุมหารือในหลายประเด็นที่มีความสำคัญ มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อสังคม
ในวันเปิดการประชุมสุดยอดโบราณคดีโลกเมืองอัลอูลา (AlUla World Archaeology Summit) เหล่าผู้เข้าร่วมการประชุมได้เรียนรู้ว่าโบราณคดีมีพลังมหาศาลในการสร้างอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่มนุษยชาติมีร่วมกัน ขณะที่นักโบราณคดีก็ต้องแสวงหาความร่วมมือมากขึ้นและหลีกเลี่ยงอคติทางวัฒนธรรม

การประชุมสุดยอดซึ่งจัดขึ้นโดยราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) สามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 300 คน จาก 39 ประเทศ มาที่เมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย เพื่อร่วมอภิปรายเป็นเวลาสองวันในประเด็นที่หลากหลายเกี่ยวกับบทบาทของโบราณคดีในการพิทักษ์มรดก อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อสังคม

"นักโบราณคดีควรตระหนักถึงอัตลักษณ์ของตนเอง เช่นเดียวกับอัตลักษณ์ของสถานที่ที่ทำการขุดค้นหรือศึกษา" ดร.คาเลด เมลลิติ (Khaled Melliti) นักประวัติศาสตร์และนักวิจัยจากศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส (CNRS) กล่าวในระหว่างการอภิปรายแบบคณะ

ศาสตราจารย์ เอมานูเอล ปาปิ (Emanuelle Papi) ผู้อำนวยการวิทยาลัยโบราณคดีอิตาลีแห่งกรุงเอเธนส์ (Italian School of Archaeology at Athens) กล่าวเสริมว่า "โบราณคดีทุกยุคสมัย คือโบราณคดีร่วมสมัย ผู้คนต่างมองอดีตด้วยมุมมองของยุคสมัยตนเอง"

เขายกตัวอย่างว่า ในยุคสมัยหนึ่งของอิตาลี ความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิโรมันเคยเป็นรากฐานสำคัญที่กำหนดอัตลักษณ์ของชาติ แต่ในการขุดค้นซากปรักหักพังยุคโรมัน นักโบราณคดีสมัยนั้นกลับไม่แยแสโบราณวัตถุจากยุคกลาง ยุคไบแซนไทน์ และยุคเรอเนซองส์

ในทำนองเดียวกัน ดร.คาเลด เมลลิติ กล่าวเสริมว่า นับตั้งแต่ที่ตูนิเซียหวนคืนสู่การปกครองโดยประชาชน หลังการปฏิวัติในปี 2553-2554 มุมมองต่อมรดกทางโบราณคดีของประเทศก็เปลี่ยนไป โดยหลังจากการปฏิวัติสิ้นสุดลง เขากล่าวว่า "เราได้ค้นพบหลักฐานการดำรงอยู่ของสาธารณรัฐใต้ผืนแผ่นดินตูนิเซีย"

ข้อความเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ที่ต้องการจุดประกายบทสนทนาใหม่ ๆ ที่ไปไกลกว่ากรอบความคิดของผู้เชี่ยวชาญ และเดินตามเส้นทางที่เชื่อมโยงโบราณคดีกับชุมชนในวงกว้างขึ้น

อันที่จริงแล้ว การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับชุมชนในท้องถิ่น ถือเป็นอีกวิธีการหนึ่งสำหรับนักโบราณคดีในการป้องกันไม่ให้มุมมองของตนเองบดบังมรดกตกทอดจากอดีต

อ่านต่อเพิ่มเติม https://www.thaipr.net/general/3383953

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม