ข่าว
ดูดวง-ตรวจหวย
ไลฟ์สไตล์
บันเทิงครบรส
ความรู้รอบตัว
ค้นหา ตรวจหวย ข่าว อีเมล์ ดูทีวีออนไลน์ ฟังเพลงออนไลน์ คลาสสิฟายด์ ริงโทน เกมส์ ดูทั้งหมด »
ป๋มคร้าบบบ
ติดตามอ่านตอนต่อไปอยู่นะคร้าบบบบบบบบบบบบบ......................
กำลังหาเวลาช่วงพระอาทิตย์ ยังไม่ตกดินเข้ามาเล่าแต่ว่า มะทันสักทีนุง
นกจราบอกห้ายทำมายน้องโอมม่ายเล่าซักทีนะเพาะน้องกรัวผี555+
ตามน้องโอมข้าวมาง่า
ทุกคนงั้นมี่จะเล่าให้ฟังบ้างนะเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนมี่เรียนอยู่ ปวส. ปี 2 ที่อยุธยาน่ะใกล้จบแล้ว ช่วงนั้นเป็นวันหยุดช่วงปีใหม่ เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งที่เรียนอยู่แผนกช่างยนต์ ปวช.ปี 2 ชื่อน้องเบียร์ (ได้ร่วมงานโรงเรียนด้วยกันบ่อยเพราะน้องเขาหน้าตาดี เลยได้ถือป้ายบ่อยๆ มี่เป็นกรรมการทีมน่ะ) เขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เพราะที่บ้านเขาจัดงานปีใหม่ แล้วลุงของน้องเขาเอาปืนมาเล่น แล้วปืนลั่นลูกกระสุนไปทะลุหัวน้องเขาตายคาที่เลยนะ (ลงข่าวหนังสือพิมพ์ด้วยนะ) หลังจากน้องเขาเสียไปได้สามวัน เย็นวันที่ 4 มี่ได้มีโอกาสไปไหว้ศพน้องเขา ตอนบ่ายๆอ่ะ เพราะบ้านมี่อยู่ไกลไง เลยไม่ได้ไปฟังพระสวด พอคุยกับแม่ของน้องเขาได้นิดหน่อย มี่เลยขอตัวกลับและเพื่อนของน้องเขาก็จะกลับพร้อมมี่เลย ตอนจะกลับมี่ก็พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า "เบียร์ พี่จะกลับแล้วนะ ไปส่งพี่หน่อยสิ" และก็ขี้นรถไป บนรถทั้งหมดจะมีอยู่ 5 คน มีมี่เป็นผู้หญิงคนเดียว ขากลับน้องเขาขอแวะไปเอาเงินที่้บ้านไปเติมน้ำมันรถ เลยให้พวกมี่แวะที่บ้านเช่าของน้องเบียร์ก่อน (เช่าไว้ก่อนน้องเขาจะเสียน่ะ) มี่นั่งอยู่หน้าบ้าน แต่อีกสามคนเข้าไปในบ้าน พอผ่านไปสักพักหนึ่ง สามคนนั้นวิ่งหน้าตื่นออกมาแล้วดึงมือมี่วิ่งตาม ออกไปรอเพื่อนอีกคนที่ปากซอยบ้าน มี่ก็ถามว่ามีอะไรกันเหรอ พวกเขาก็ตอบมาทีละคนว่า "ตอนที่พวกเขาเข้าไปข้างในบ้าน เขาแยกไปคนละที่ คนแรกเข้าไปนอนเล่นในห้องนอน อีกคนเข้าห้องน้ำ อีกคนอยู่ในครัว ทั้งสามคนเห็นคนที่ใส่ชุดสีเขียวทั้งชุด (ชุดช่างที่โรงเรียนจะเป็นสีเขียวทั้งชุด) เดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน" พอมี่ได้ยินดังนั้นมี่ขนลุกเลย เพราะมี่เพิ่งสังเกตุเห็นรุ่นน้องมี่แต่งตัวเป็นเสื้อสีขาว กางเกงสีเขียว มี่ถามเขาว่าแต่งแบบนี้อยู่แล้วหรือเพิ่งมาเปลี่ยน สามคนนั้นบอกกับมี่ว่า ใส่ชุดนี้ออกมาจากโรงเรียนตั้งแต่เย็นแล้ว เอาเสื้อช็อปไว้ที่โรงเรียนมี่ได้ยินแล้วอึ้ง เพราะมี่เห็นคนใส่ชุดสีเขียวทั้งชุดเดินออกมาดูมี่ แต่มี่เห็นแต่ข้างหลัง พอรุ่นน้องอีกคนที่เข้าไปเอาเงินมา มี่รีบให้เขาไปส่งมี่ที่ท่ารถจะกลับบ้าน พอลงรถ มี่ก็พูดออกมาดังๆนะ ว่้า "น้องเบียร์ ส่งพี่แค่นี้พอนะ กลับไปพร้อมพวกมันนะ " พอวันรุ่งขึ้นพวกสี่คนนั้นมาเล่าให้มี่ฟังว่า ต้องย้อนกลับไปส่งเบียร์ที่วัดอีกอ่ะ เพราะได้กลิ่นธูปไปตลอดทางเลย
วันนี้เอาเรื่องเดียวก่อนนะ วันหน้าจะมาเล่าอีก มีอีกหลายเรื่องเลย
น่ากลัวคับแต่ชอบอ่าน อิอิขอบคุณที่แบ่งปันคับ
ค่ะ ชื่อต่ายนะคะอิอิ พี่โอมเล่าได้น่ากัวมากกกกกกกกกกกกกกนั่งอ่านไป ขนลุกไปอ้อ แล้วมีเรื่องจะเล่าหั้ยฟังค่ะพอดีว่าตอนที่อ่านนะคะ เน็ตหลุดค่ะ แล้วมันก็มา แล้วมันก็หลุดไปค่ะ นานมากกกกกกกก!ต่ายเลยว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ต่ายเลยลองพูดในใจค่ะ เผื่อฟลุ๊ค พอต่ายลืมตาเน็ตวิ่งทันทีค่ะต่ายชักเชื่อซะแล้วค่ะ น่ากัววว แล้วพอต่ายเลิกอ่านแล้วเดินไปตรงคอมเครื่องแม่อ่ะค่ะขาต่ายเย็นมาก ซักพักต่ายขยับขาไม่ได้ค่ะ เหมือมีมือคนมาจับไว้ ต่ายว่าต่างคงคิดมาก แต่ ต่ายรู้สึกจริงๆนะคะแล้วเมื่อเช้าที่ผ่านมาเนี่ย ต่ายนั่งอ่านอยู่คนเดียวค่ะ อยู่ๆลมก็พัดผ่านแขนต่ายไป เนี่ยดูซิ!ขนาดพิมพ์ยังพัดเลยง่ะไปก่อนนะคะ แล้วจะเข้ามาบ่อยๆ^^
ใครมีเรื่องจริงที่เจอผีมาแชร์กันนะฮะ.....พี่บัสก็มีแต่ม่ายกล้าเล่าฮะมันพึ่งเกิด ไว้หายขวัญเสียค่อยมาเล่ามั่ง เล่ามาอีกนะ รออ่านค้าบบบบบ
ไปก่อนคร้าบบบบบบบทุกคนไว้มาใหม่
อา ทั้งต่ายทั้งมีมี่เล่าแต่เรื่องน่ากลัวอะ
โอมยังไม่เข้ามาอ่านเหรอ ไม่เห็นเม้นต์ให้มี่เลยอ่ะมีแต่บัสมาเม้นอ่ะ สงสัยโอมจากัวววววววว
ขอเล่าเรื่องต่อไปละกันนะเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนมี่เรียนจบใหม่ๆ มีอาชีพคือ ตกงาน (ยังแอบมีมุขอีกนะ)มี่ได้แวะไปหาเพื่อนที่หอพักแถวคลองประชาชื่น ใกล้ๆกับ ม. ธุรกิจบันฑิตน่ะ คืนนั้นมี่ค้างที่นั่นเพราะขี้เีกียจกลับอ่ะ พอตกค่ำไม่มีอะไรทำกัน เลยนั่งเล่นผีถ้วยแก้วกัน มี่กับเพื่อนๆ ก็นั่งเล่นกันและเรียกวิญญาณที่อยู่แถวนั้นมา พวกเราก็ถามกันไปตามปกติเรื่อยๆ แต่พอจะเชิญวิญญาณกลับดันไม่ยอมกลับซะงั้น พวกเราเลยใช้วิธีที่ไม่ควรใช้ คือ ปล่อยมือกันเลย (เคยได้ยินว่าถ้าปล่อยมือก่อนที่ถ้วยจะไปถึงที่ที่กำหนดให้ผีออกจากถ้วยแก้ว ผีจะไม่ยอมไปไหน จะอยู่บริเวณนั้น) และพวกเราเริ่มกลัวก็เลยเลิกเล่น เปลี่ยนไปเล่นไพ่แทน มี่เลยเดินไปเข้าห้องน้ำ (เป็นห้องน้ำรวม)พอเดินกลับมามี่เห็นคนนั่งที่โต๊ะหินอ่อน หน้าห้อง (ไฟค่อนข้างสลัวๆ) เห็นเป็นผู้หญิงผมยาว นั่งก้มหน้าอยู่ มี่ไม่ได้สนใจ นึกว่าเป็นคนห้องอื่น สักพักหนึ่ง เพื่อนมี่มาเคาะห้อง มี่เดินไปเปิดประตู และหันไปมองที่โต๊ะม้าหิน ปรากฏว่าไม่มีแล้ว เพื่อนมี่ก็เข้ามาในห้อง และถามทุกคนว่า แฟนใครนั่งอยู่หน้าห้อง ทำไมไม่เรียกเข้ามา มี่บอกว่าไม่มี เืพื่อนบอกว่ามี เลยออกไปมองกันทั้งคู่ เพื่อนก็บอกว่านั้งอยู่ตรงโต๊ะม้าหินไงตนนี้ก็นั่งอยู่ มี่บอกว่าไม่เห็นมีเลย ทุกคนก็ออกมาดู ก็ไม่เห็นมี และพอเพื่อนมี่หันไปมองอีกที ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นหันมามอง และหายไปกับตาเพื่อนมี่เลยน่ะ (มันเล่าอย่างนั้นนะ) เพื่อนมี่มันยืนอ้าปากค้างเลยอ่ะพวกเราทุกคนเลยต้องเอาธูปไปจุดขอขมา และไหว้เจ้าที่เจ้าทางกันใหญ่เลยอ่ะ ตั้งแต่นั้นมานะ ไม่เล่นอีกเลยผีถ้วยแก้ว
ต่ออีกเรื่องนึงนะเรื่องนี้เกิดขึ้นที่หอพักของเพื่อนที่เิดิม หลังจากเรื่องแรกสักประมาณเดือนกว่าๆ มี่ำก็ไปหาเพื่อนอีกในวันหยุด (ยังมีอาชีพตกงานอยู่) วันนั้นไมู่รู้มี่นึกยังไง เอาจักรยานมาปั่นเล่น ตอนกลางคืน เวลาประมาณสองทุ่มน่ะ คงเป็นเพราะเซ็งอ่ะ เพราะทะเลาะกับแฟนด้วย ปั่นไปๆ มาๆ เล่นอยู่แถวในหอจนเบื่อเลยปั่นออกไปข้างนอก ไปทางหมู่บ้านคน มืดก็มืด เปลี่ยวก็เปลี่ยว แต่ด้วยอารมณ์โมโหและเซ็งมั้งเลยปั่นไปได้เรื่อยๆ จนไปถึงทางแยก ที่เรียกว่า ทางสามแพร่งอ่ะ แล้วตรงนั้นจะมีศาลตั้งอยู่ และเป็นป่ารกๆมี่เห็นแล้วนึกกลัว ไม่ไ้ด้กลัวผีนะ แต่เห็นมันเปลี่ยวและมีป่าด้วย เลยกลัวว่าจะมีพวกขึ้ยาอยู่ เลยหันหัวรถและปั่นจักรยานกลับ รีบปั่นใหญ่เลยนะ แต่ปั่นยังไงมันก็ไม่ค่อยไปอ่ะ มันหนักๆ เหมือนกับมีคนซ้อนท้ายรถอยู่มี่ปั่นจนเหงื่อตกเลยอ่ะ จนเกือบจะถึงหอพักแล้วนะ เจอเพื่อนกับแฟนยืนอยู่ข้างหน้าทางเข้าหอ ความที่เรางอนอยู่ไง เลยแกล้งทำเป็นไม่มอง และเพื่อนส่งสัญญาณบอกให้ปั่นจักรยานเข้าไปที่หอเลย เราก็เลยไม่ได้จอดรถคุย พยายามปั่นเข้าไปที่หอ พอเข้าเขตหอพักได้ จักรยานที่เราใช้แรงปั่นเพราะหนักเหมือนมีคนซ้อนท้ายกลับวิ่งได้เร็วเหมือนกับคนที่ซ้อนท้ายกระโดดหนี ความแรงจากที่เราเร่งปั่น และแรงจากอะไรสักอย่างที่ผลักรถทำให้เราคุมรถไม่ได้อ่ะ ไปชนกับกำแพงจังๆเลย เพื่อนๆ กับแฟนวิ่งเข้ามาดูกันใหญ่เลยอ่ะ เราก็ตกใจนะ ว่าทำไมเมื่อกี้มันรถมันแรงจังอ่ะ แฟนเราบอกว่า จะไม่แรงได้ไงล่ะ เพราะเมื่อกี้มีคนซ้อนท้ายจักรยานเรามา และพอเข้าเขตของหอพักน่ะ เขาเข้าไม่ได้ เขาเลยโดดลงจากรถที่เราปั่นอ่ะ เรางี้ขนลุกเลยอ่ะ รีบขึ้นไปนอนเลย โดยไม่ได้นึกถึงผีตนนั้นอีกอ่ะ นึกว่าเรื่องมันจะจบแค่นั้น ที่ไหนได้ พอรุ่งเช้า พี่เจ้าของหอพักมาบอกกับพวกเราว่า มีผีมาเข้าฝันแกว่ามีคนพาผีมาจากทางสามแพร่ง แล้วไปพาไปส่ง เขากลับไม่ได้ ให้พาเขาไปส่งด้วย พวกเรางี้ขนลุกเลยอ่ะ โดยเฉพาะมี่นะ มี่ต้องเป็นคนพาผีไปส่ง มี่นั่งร้องให้เลยอ่ะ มันทำใจไม่ได้ คืนนั้นมี่ต้องพาผีไปส่งนะ ตอนไปส่งมี่ก็เรียกเขาซ้อนท้ายจักรยานนะ มี่รู้สึกได้เลยอ่ะ ว่ารถหนักขึ้น มี่ไม่ค่อยมีแรงปั่นเพราะกลัว แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ เอ้ยผีบอกกับผีว่า ทำตัวเบาๆ หน่อยสิ มันหนักปั่นไม่ไหว พอพูดจบรถก็เบาขึ้นมากเลยอ่ะ มี่ก็รีบปั่นเลยนะ พอถึงที่หมายแล้วมี่บอกกับผีตนนั้นว่า ถึงแล้ว ลงสิ เราส่งแค่นี้แหละ แล้วไม่ต้องตามไปอีกนะ พรุ่งนี้จะใส่บาตรไปให้นะ จะเอาอะไรก็บอกไปก่อนนะ บ๊ายบาย แล้วเราก็รีบปั่นแบบไม่คิดชีวิตเลยอ่ะ พอรุ่งเช้าพี่เจ้าของหอเขามาบอกว่า ที่ผีตามมาด้วย ไม่ได้จะทำร้ายหรืออะไรหรอกนะ เพราะตอนที่เราปั่นไปถึงทางสามแพร่งอ่ะ มีพวกขี้ยามันอยู่แถวนั้น มันเห็นเรามันจะเข้ามาฉุดเรา แต่พอมันเห็นมีคนซ้อนท้ายมาด้วย มันเลยไม่กล้า เราฟังงี้ขนลุกเลยอ่ะ ถ้าไม่ได้ผีตนนั้น ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน เช้าวันนั้นเราเลยไปใส่บาตรให้เขา และก็จำใส่หัวเอาไว้เลยว่าไม่ไปที่เปลี่ยวๆอีก
ต่ายเห็นว่ามันเงียบๆเลยมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง... วันนั้นต่ายกับพี่สาว ขับรถออกไปซื้อของกัน ทางมันเปลี่ยวว แล้วตรงปากทางที่จะทะลุไปถนน ฝั่งตรงข้ามมันมีศาลาอยู่ เป็นศาลาที่เก่ามากแล้วแหละ พอดีว่าเรามันพวกชอบอ่านเรื่องผี ก่อนออกจากบ้านน่ะเรากับพี่สาวอ่านเรื่องผีที่เพื่อนของพี่สาวเอามาให้ เรื่อง'วิญญาณไม่ยอมตาย' และแล้วเราก็ขับรถทะลุมาจนถึงปากทาง ต่ายเป็นคนซ้อนค่ะ ทั้งมืดทั้งเปลี่ยว รถผ่านไม่กี่คัน เราสองคนพี่น้องรวมใจกันมองไปที่ศาลาค่ะ เห็นคนคนนึงซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพศใด อยู่ตรงศาลา แล้วข้างหลังมันเป็นป่า มีหญ้าขึ้นรกมาก เราจึงคิดว่ามันคงไม่มีอะไรหรอก พอขับรถไปสักพัก พี่สาวเราก็หันหน้าไปข้างหลัง เราคิดว่าพี่หันไปมองรถ แต่มันไม่มีรถผ่านเลยนะ แล้วพี่สาวก็บอกเราว่า"ต่าย หันไปดูคนที่อยู่ตรงศาลาดิ หายไปไหนแล้วอ่ะ"เราก็หันไปมอง แล้วเขาก็หายไปจริงๆ พี่เราก็ไม่รอช้าใส่เกียร์สุนัขโกยยยแนบบ แล้วยิ่งขากลับเนี่ยซิ เสียงเพลงดังมาจากไหนไม่รู้ เสียงเพลงดังมาก แต่ต่ายดันได้ยินคนเดียว ซะงั้นน่ะ ถามพี่สาวพี่สาวมันก็ไม่ได้ยิน และอีกครั้งนึงวันลอยกระทงตรงศาลาที่เดิม แทบบ้าตาย พี่ชายต่ายพูดขึ้นมาว่า "ทำไมตรงศาลามันหน้ากลัวจัง" ต่ายหันกลับปมอง เห็นเป็นผู้หญิงใส่ชุดขาวแขนยาว ผมยาวยืนอยู่ ต่ายแทบช็อคเลยอ่ะ กลับมาบ้านรีบจุดธูปบอกปู่เลย อย่าให้เขาเข้ามานะ แล้วรีบนอนเลย อยู่ไม่ได้ 555+หลับตาปี๋เลยhttps://radio.sanook.com/music/player/ถ้าเธอมีจริง-Feat.Girly-Berry/130223/
ถ้าอ่านแล้วนอนไม่หลับ สวดมนต์จะช่วยได้http://www.learningthama.blogspot.com/
สวัสดีครับทุกคน ผมขอเข้ามาอ่านด้วยคนนะครับ
ใครมีเรื่องอะไรเด็ดๆนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ รอเวลาเดี่ยวน้องโอมว่างงานน้อยลงก็คงจะได้อ่านเรื่องผีกันต่อครับ อดใจรอกันหน่อยครับผม
สวัสดีแฟนๆบ้านศุกร์ฯ ทุกๆคนเจ้าคะ....โอมต้องขออภัยเจ้าคะมะได้เข้ามาเล่าเรื่องผีซะนาน...เพราะยุ่งกับภารกิจประจำเจ้าคะ....พอว่างก็มืดค่ำซะทุกครั้งไปตามที่บอกต้องว่างจริงๆช่วงกลางวันมะงั้น...มะเล่าเจ้าคะ
โอ้โห~~~~มะได้มาซะนาน...แฟนบ้าผีเพียบเรย...ดีจัยจัง...ผู้ชื่นชอบเล่าเรื่องผีเหมือนกัน ใครมีประสบการณ์ก็เล่าแชร์กันฟังนะเจ้าคะ..เล่าไว้เจ้าคะโอมถึงจะไม่ได้เม้นทุกวันแต่ก็เข้ามาอ่านทุกวันเจ้าคะ มะได้ทิ้งบ้านศุกร์ไปไหนคร่า...
จะพิมพ์ว่าแฟนบ้านผี แต่ตก บ.ใบไม้คะ ขออภัยยังแรงคร่า...เด๊ว...แย่
อุ้ยมะใช่ บ. แต่เปนตัว น. หนู เจ้าคะ เบลอ เจง เจง แระ....ขอบคุณเพื่อนๆที่มาเล่าเรื่องผีให้ฟังทุกๆคนเลยนะคะโอมอ่านจบแระ...ทั้งน่ากลัวธรรมดา-----ไปจนถึงมาก---ถึงมากที่สุดเจ้าคะ------------
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเจ้าคะ....อ่านแระอย่าลืมเม้นมะง้านนอนมะหลับนะขอเตือน
ราตรีสวัสดิ์นะเจ้าคะ
น้องโอมฮะทู้นี้ฮะมีแฟนบ้านศุกร์คิดถึงฮะhttp://forum.sanook.com/forum/?topic=2993561ตั้งแต่พี่บัสทำลิงค์เป็นเล่นใหญ่เลยอะ น้องโอมสอนฮะ หนุกดีอะ....
พี่บัสม่ายเคยเจอพี่แต่มีเรื่องแปลกๆมาเล่าม่ายรู้เรียกว่าเจอผีปล่าวนะ ตอนงานคุณยายน้องโอมเสียพี่บัสอยู่ร้านคนเดียวนะ เพราะทุกคนไปช่วยงานศพกันหมด ความจริงมีพี่อีกคนอยู่กลางวันแต่ตอนดึกพี่บัสอยู่คนเดียว ทั้งที่กลางวันมีลูกค้าคนแยะ ก็เลยมีคนทำงานหลายคน กลางคืนน่าจะมีหลายคนนะ เพราะกลัวผี อย่างน้อยสุดจะมีสามคน ตอนดึก ม่ายรวมยามนะ แต่วันนั้นพี่บัสอยู่คนเดียวเลย ส่วนยามอยู่ตรงไหนม่ายรู้ อยู่ๆพี่บัสได้กลิ่นธูปลอยมาเป็นพักๆ พี่บัสก็นึกว่ายามจุดธูปไว้เจ้าที่กะดึกอะ พี่บัสก็ม่ายสนใจอะไร สักพักได้ยินเสียงดังตะคอก ปกติคุณยายน้องจะดุมากๆ(กับคนที่ม่ายมีระเบียบ)ม่ายชอบให้ใครเอาอาหารมากินในร้าน เพราะจะแยกครัวไว้แล้วแต่วันนั้นม่ายมีใครอยู่พี่บัสเลยถือโอกาสเอามานั่งกินในร้านวันนั้นพี่บัสไปซื่อฮอทดอทมาจากเซเว่นกำลังกัดอยู่เพลินๆได้ยินเสียงดังตะคอก พี่บัสก็สะดุ้งมองไปด้านบนเป็นกระจกดำ ตรงนั้นคนที่นั่งถ้าม่ายใช่เฮียก็ต้องเป็นน้องโอมอะคนอื่ม่ายมีสิทธิ ม่ายมีใครกล้านั่งแน่ แต่พี่บัสเห็นเงาคนนั่งอยู่ พี่บัสตกใจแต่ก็ยังคิดว่าโจร ม่ายน่านะเพราะมียามอะ ด้านหลังก็ร็อตไวเลอร์ 5 ตัว นะ ตอนนั้นขนาดพี่บัสม่ายได้คิดเรื่องผีขนลุกโชนเลยวิ่งไปเรียกยาม บอกให้พี่ยามเปิดดู เพราะล๊อคกุนเจด้านนอก แต่พี่ยามบอกม่ายเห็นใครสักคนเลยลองส่องไฟฉายเปิดไฟด้านนอกก็ไม่มีใคร สักพักพวกหมาทั้ง5ตัวก็รวมตัวกันหอนทั้งๆที่มันม่ายเคยหอนเท่านั้นแระไฟที่ติดอยู่ดับพรึบทั้งห้องทำไงก็ม่ายติด สุดท้ายทั้งพี่บัสและยามต้องจุดธูปขอขมาคุณยาย ขนลุกไปทำงานก่อนฮะ คุณยายฮะบัสขอโทษที่ม่ายรักษากฏของคุณยายฮะ
ไม่มีใครเอ่ยถึงเลย ว่างๆๆก็มาแระเรื่องเราหมดแล้วแหละจะเอาเรื่องเพื่อนมาเล่าแทนนะ และขอภัยที่ไม่ได้มาเล่าด้วยเรื่องมีอยู่ว่าน้าของเพื่อนเราเส้นเลือดในสมองแตก แ ต่ส่ง โรงพยาบาลไม่ทันเลย ตาย แล้วน้าเพือนเราก็มาหา เพื่อนเราแต่เป็งผีนะ มาเล่นหยอกล้อเหมือนที่เคยเล่นกันน้าหลาน ตอนยังเป็นคนอยู๋เพื่อนเราตกใจวิ่งติดเกียร หมาเลย ทีนี้เพื่อนเราก็ไม่บอกใคร แล้วอีกคนนึงเพื่อนเราได้ยินเสียงคนเดินขึ้นลงบันได้ ตึก ตึก ตึกๆๆๆทั้งคืน ทีนี้น้าเพื่อนเราชอบกินไก่อะ แล้วเพื่อนเราได้ยินเสียง ถุงก็อบ แก๊บๆๆๆ อยู่ในห้องน้า (ที่เหลือว่าเปงยังไงจำไม่ได้อีกแล้วต้องไปถามเพื่อนก่อนนะ)จากนั้นเพื่อนเราก็ ตามพระมาไล่ผีน้า ตอนแรกเตียงมันยุบอยู่ พอพระบอกว่า ไปกับข้าเดี๋ยวนี้จากนั้นเตียงก็เด้งเลยอ่า น่ากลัวๆมากๆๆๆๆ วันหลังจะมาเล่าอีกน้า
ทักทายค่ะ หายไปไหนกันหมดเนี่ย เงียบเลย เล่าเรื่องให้ฟังดีกว่า....วันนั้นเป็นวันเข้าค่ายค่ะ เข้าค่ายลูกเสือ...ม1-ม3 ที่ต่างจังหวัด ที่ค่าย....(ขอไม่เอ่ย) วันที่เดินทางมาถึง ค่ายนั้นเงียบมากๆ เราก็ไม่สังเกตเห็นความปรกติอะไรเลย วันแรกก็ต้องเดินทางไกลค่ะ เดินประมาณ20กิโลได้ ปกติจะไม่เดินทางไกลวันแรก แต่เพราะครูเห็นว่ามาออกค่ายต่างจังหวัดกลัวนักเรียนนอนไม่หลับเลยให้เดินให้เหนื่อย เหตุการณ์มันก็ปรกติมาถึงตอนกลางคืน ที่เป็นเวลานอน ที่นอนมันจะเหมือนเล้าไก่ค่ะ เป็น2ชั้น ชั้นล่างเป็นปูนเหมือนที่นั่งของพระค่ะตรงกลางเป็นทางเดิน ชั้นบนเป็นไม้ ทุกคนได้ยินเสียงเอี๊ยดๆเหมือนมีคนอยู่ข้างบน ครูบอกว่าเสียงมอดค่ะ เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรกันเลยค่ะ (ต่ายไม่ได้เจอกับตัวค่ะ เพื่อนมันเจอ)กลางดึกคืนนั้น มีผู้หญิงมาเดินรอบๆที่นอนของพวกเราค่ะ ใสชุดสีดำ เป็นกระโปรงสีดำยาวๆ ประตูด้านหน้าด้านหลัง ล็อคหมดเลยค่ะ แต่เพื่อนมันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นมานั่งอยู่ปลายเท้ามันแล้วหวีผม เพื่อนอีกคนก็บอกว่าเค้าปีนบันไดขึ้นไปชั้นบน แล้วมันก็ได้ยินเสียงคนไกวเปล กล่อมลูก ไม่คิดกันเลยค่ะว่าจะได้เจอวันแรก โรงนอนที่นั้นมีอยู่4โรงนอน ตั้งเรียงกันแบบนี้*โรงนอนที่1* *โรงนอนที่2**โรงนอนที่3* *โรงนอนที่4* *ห้องโถงที่ใช้ทำกิจกรรม*พวกต่าย นอนโรงนอนที่3 ชายนอนโรงนอนที่2โรงนอนที่4ก็ผู้หญิง แต่โรงนอนที่1ไม่มีใครนอนแถมล็อคตายด้วย ไม่มีใครเข้าไปเพราะเขาไม่เปิดให้ใช้ ทำไมไม่รู้...พวกเราเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ครูฟังครูบอกว่าครูก็เฝ้าอยู่ทั้งคืนทำไมไม่เห็น คืนที่2เราก็เจอกันอีก ต่ายรู้สึกแค่ว่ามีคนอยู่ข้างในนั้นอีกหลายคน ไม่ใช่แค่พวกเราที่มาเข้าค่าย ต่ายมีอะไรบางอย่าง ที่จะสัมผัสได้ว่ามีวิญญาณอยู่ตรงไหนบ้าง แต่มันก็ใช้ได้บางครั้ง บางครั้งก็ใช้ไม่ได้ จะเห็นแค่หางตาเท่านั้น ไม่เคยเห็นเป็นตัวๆ แต่คืนนั้นต่ายสัมผัสได้จริงๆเลยเตือนเพื่อนข้างๆว่า ถ้าได้ยินเสียงอะไรห้ามลืมตาเด็ดขาด!เพราะเพื่อนต่ายขี้ตกใจ กลัวมันช็อค คืนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็ไปสำรวจที่โรงนอนผูชายแล้วก็กลับมาที่โรงนอนของผู้หญิง หลายๆคนที่ตื่นขึ้นมากลางดึกก็เห็นจนสามารถยืนยันได้ว่า เจอผีเจ้าที่เข้าให้แล้วขากลับ ต่ายหลับตา อยู่ดีๆก็เห็นภาพค่ายที่ไปเข้า เป็นค่ายร้าง บ่อน้ำก็เน่า เถาวัลย์ก็เลื้อยไปทั่ว รกร้างมากๆ ครูเล่าให้ฟังว่าคนที่ขายของอยู่ในนั้นไม่ได้ประจำอยู่ในนั้น แต่จะกลับบ้านทุกวัน ครูบอกว่าที่นั้นเกือบจะกลายเป็นค่ายร้างไปแล้วเพราะไม่มีใครมาดูแล แล้วเพื่อนต่ายมันก็พากันนั่งวิจารณ์เรื่องนี้ เพื่อนต่ายคนนึง มันบอกว่า ผู้หญิงที่เห็นน่าจะถูกฆ่าข่มขืนแล้วเอาศพมาไว้ในค่ายนี้ แล้วเอาไปไว้ในโรงนอนที่1ที่ไม่เปิดให้ใช้ ผู้หญิงคนนั้นเลยวนเวียนอยู่ที่ค่ายนี้ไม่ยอมไปไหน เพราะไม่ญาติมาอันเชิญวิญญาณ ป.ล.ที่ต่ายบอกว่าหลับตาแล้วเห็น เพื่อนคนอื่นๆก็เห็นเหมือนกันค่ะแหะๆ เล่าเองน่ากลัวเอง ไม่น่าเลย ขอให้วิญญาณผู้หญิงคนนั้นไปสู่สุขคติด้วยเถอะ
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี