'ADVANC'ตั้งหลักสัญญาสัมปทาน ขอทำงานสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้น...
โดย เกสสุดา ฤทธิมาศ หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
"ปัญหา ในปีนี้ไม่ถือว่าหนักหนาอะไร เพราะเราเป็นบริษัทขนาดใหญ่ และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์มีธรรมาภิบาลที่ดีอยู่แล้ว เราจึงไม่ตื่นเต้นอะไร และมองว่าเรื่องทั้งหมดเป็นปัญหาทางการเมือง ซึ่งเราเอาสมองมาคิดบริหารงาน สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นดีที่สุด ภายใต้เงื่อนไขสัญญาสัมปทานทุกประการ"
ปัญหาสัญญาสัมปทานของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC จะ มีบทสรุปอย่างไรนั้นยังเป็นหนังม้วนยาวที่ยังต้องรอดูกันต่อไปและ ในยามที่มรสุมรอบด้าน "วิเชียร เมฆตระการ" หัวหน้าคณะผู้บริหารค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ของไทยกลับมองว่าเป็นปัญหาทางการ เมือง อยู่นอกเหนือกำลังที่บริษัทจะควบคุมได้ และยืนยันหนักแน่นตลอดมาว่า ADVANC ทำถูกต้องตามระเบียบและเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานทุกอย่าง
และยืนกรานว่าหากการแก้ไขสัญญาสัมปทานทั้งในส่วนของการลดสัดส่วนรายได้ที่ให้แก่ TOT และการละส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการระบบพรีเพด (ระบบเติมเงิน) จาก 25-30% เป็น 20% นั้นผิดคงต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งทาง TOT ต้องยื่นเรื่องให้ทางอนุญาโตตุลาการตัดสิน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะต้องใช้เวลาพอสมควร
"ไม่ ต้องคิดต่อว่าผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร เพราะมันเปลืองสมอง และเราไม่สามารถที่จะกำหนดหรือคาดการณ์อนาคตได้ แต่เรารู้ว่าเราทำอะไร ทำตามเงื่อนไขและสัญญาสัมปทานครบถ้วนก็ถือว่าเพียงพอ ซึ่งก็พร้อมที่จะให้การตรวจสอบ"
ADVANC จด ทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีธรรมาภิบาลที่ดี และยึดหลักความโปร่งใส ทั้งนี้เชื่อว่าระบบการบริหารจัดการที่ดี รวมทั้งการมีคณะกรรมการ และผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่มีกลไกการควบคุม และการถ่วงดุลอำนาจ เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ การเคารพในสิทธิความเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้น และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่ม มูลค่าและผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาวเป็นหลัก
นอก จากนี้ยังมีการมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทุนทางปัญญา รวมทั้งสร้างสรรค์วัฒนธรรมหรือค่านิยมในการทำงานเพื่อให้องค์กรเป็นสถานที่ ทำงานที่มีความสุข เกิดการเรียนรู้สร้างความสำเร็จ แก่พนักงานอันจะช่วยทำให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการได้สอดคล้องกับกลยุทธ์และ ทิศทางขององค์กรปัจุบันมี พนักงานมากกว่า 6,130 คน
"ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมานอกเหนือไปจากความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภาย ใต้ธรรมาภิบาลที่ดี อันตั้งอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใส ชัดเจนเป็นธรรม และตรวจสอบได้ เรายังให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการคืนผลประโยชน์แก่สังคมไทยในรูปแบบต่างๆ ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบต่อสังคม เช่นการให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาจากภัยแล้ง ภัยหนาว น้ำท่วม และยังให้การสนับสนุนโครงการสายใจไทยตลอดมา"
วิเชียร เล่า ถึงภาพรวมธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไทยว่า ปัจจุบันการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ใกล้ถึงจุดอิ่มตัว เข้ามาทุกวัน แต่ความคาดหวังการพัฒนาระบบเทคโนโลยีไปยังยุคที่ 3 ยังดูเลือนลางเต็มทีเพราะการเปิดประมูลไลเซนส์ 3G บนคลื่น 2.1 GHz ยังไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร แม้ว่าทางคณะกรรมการ กทช.ชุดใหม่จะครบองค์ประชุมแล้ว และมีแผนเร่งดำเนินการให้เปิดประมูลในปีนี้ก็ตาม
อย่าง ไรก็ตามบริษัทมีการเตรียมความพร้อมในการประมูลไว้ แต่ไม่มากเหมือนปีก่อนที่มีทั้งการเตรียมเงินลงทุน การขอเครดิตจากแบงก์ หรือเตรียมออกหุ้นกู้ ซึ่งปีนี้เรามีประสบการณ์จากปีก่อนเลยไม่มีอะไรมาก และเงินลงทุนก็มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเอง
ล่าสุดได้รายงานตัวเลขผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2553 มีกำไรสุทธิ 4,972 ล้านบาทและรายได้ 26,964.60 ล้านบาทจากต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง รวมทั้งจำนวนผู้ใช้บริการรวม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29.5 ล้านคน กอดเก้าอี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ของประเทศ
"ที่สำคัญยังมีเงินสดในมือสูงถึง 35,685 ล้านบาท จึงเป็นที่น่าจับตาว่า ADVANC จะมีเชอร์ไพรซ์โดยการจ่ายปันผลพิเศษอีกรอบ และทางผู้บริหารยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีหรือไม่มี แต่วงการประเมินว่าหากการประมูลไลเซนส์ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ยังไม่เกิดมีลุ้นสูงที่จะจ่ายปันผล แต่อาจจะไม่สูงถึง 5 บาทเหมือนปีที่ผ่านมา จึงเป็นประเด็นที่ต้องจับตากันต่อไป"
ตลอดระยะเวลา 17 ปี ที่ผ่านมา นอกเหนือไปจากความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้ธรรมาภิบาลที่ดี อันตั้งอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใส ชัดเจนเป็นธรรม และตรวจสอบได้ เรายังให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการคืนผลประโยชน์แก่สังคมไทยในรูปแบบต่างๆ ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาจากภัยแล้ง ภัยหนาว น้ำท่วมและยังให้การสนับสนุนโครงการสายใจไทย ตลอดมา