เคยสำรวจตัวเองบ้างหรือเปล่าคะ ว่ารู้จักโคเลสเตอรอลมากน้อยแค่ไหน
ข้อ ก. ได้ยินมานาน พร้อมๆ กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
ข้อ ข. ได้ยินบ่อยๆ จากปากคุณหมอ เพราะสุขภาพเริ่มมีปัญหา…
ไม่ว่าเป็นข้อไหน ถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มทำความเข้าใจกับโคเลสเตอรอล เพื่อดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกันดีกว่า…
โคเลสเตอรอล (Cholesterol) เป็นไขมันที่ร่างกายใช้ในการสร้างเยื่อบุเซลล์ เป็นฉนวนหุ้มเส้นประสาท และใช้สร้างฮอร์โมนที่สำคัญ ซึ่งร่างกายรับโคเลสเตอรอลมาจาก 2 ทาง คือ
1. จากอาหารที่มาจากสัตว์ที่มีโคเลสเตอรอลมาก เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง และสัตว์ที่มีกระดอง
2. ร่างกายสร้างขึ้นเองที่ตับ เมื่อได้รับโคเลสเตอรอลจากอาหารมากพอ การสังเคราะห์จากตับจะลดลง แต่ถ้าได้รับน้อยเกินไปตับก็จะสร้างขึ้นมาเอง และตับจะส่งโคเลสเตอรอลรวมกับกรดไขมัน และไลโพโปรตีน(Lipoprotein) ซึ่งมีความหนาแน่นต่ำมาก เมื่อไลโพโปรตีนส่งกรดไขมันไปให้เนื้อเยื่อไขมันแล้วจะมีความหนาแน่นมากขึ้น
เราแบ่งโคเลสเตอรอลตามความหนาแน่นของไลโพโปรตีน เป็น 2 ชนิด ชนิดแรก Low Density Lipoprotein Cholesterol หรือเรียกสั้นๆ ว่า LDL Cholesterol เป็น “โคเลสเตอรอลตัวร้าย” เพราะเมื่อมีมากจะสะสมในผนังหลอดเลือดแดง โดยมีไขมันที่คอยเสริมการทำงานของ LDL Cholesterol คือ ไตรกลีเซอไรด์ ที่จะขัดขวางการทำงานของ HDL Cholesterol ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลตัวดี ในคนปกติค่าปกติของ LDL Cholesterol ไม่ควรเกิน 160 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และไม่เกิน 130 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในผู้ป่วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
อีกชนิดคือ High Density Lipoprotein Cholesterol หรือเรียกสั้นๆ ว่า HDL Cholesterol เป็น “โคเลสเตอรอลตัวดี” ที่อุดมไปด้วยฟอสโฟไลปิด ช่วยเก็บกวาดคราบไขมันที่ LDL Cholesterol ทิ้งไว้และสะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดกลับคืนมาที่ตับแล้วขับออกทางน้ำดีส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะถูกขับออกทางอุจจาระพร้อมกับใยอาหาร HDL Cholesterol จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน แต่ข่าวดี ! ร่างกายสร้างขึ้นเองได้ ในผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะมีปริมาณที่สูงขึ้น ซึ่งค่าปกติของ HDL Cholesterol ไม่ควรเกินกว่า 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ตรงนี้ต้องอ่านกันให้ดีๆ นะคะ จะได้ดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี…เมื่ออายุมากขึ้นทำให้ผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัวขึ้น ไร้ความยืดหยุ่น และเมื่อมีคราบไขมันซึ่งส่วนใหญ่เป็นโคเลสเตอรอลมาเกาะติดที่ผนังด้านใน จะทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบลง เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ทำให้เลือดไหลผ่านยาก และเกิดเป็นก้อนอุดตัน เป็นสาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด (Coronary Heart Disease)
จากการศึกษาประชากรทั่วโลก พบว่าผู้ใหญ่ที่มีระดับโคเลสเตอรอลรวมในเลือดเกินกว่า 260 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจขาดเลือดสูงกว่าคนที่มีระดับเลือดน้อยกว่า 220 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ประมาณ 3-5 เท่า ผู้ที่มีระดับโคเลสเตอรอลรวมในเลือดสูง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการมีระดับ LDL Cholesterol สูง
เห็นไม๊คะว่าโคเลสเตอรอล เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สุขภาพของเรามีปัญหา ถึงจะเป็นสารอาหารที่ร้ายกาจแต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะรับมือ ถ้าคุณรู้จักวิธีป้องกัน ซึ่งในท้ายนี้ได้รวบรวมแนวทางปฏิบัติดีๆ เพื่อให้ชีวิตห่างไกลจากโคเลสเตอรอล
1. เลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เลือกใช้น้ำมันที่กรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ที่มีกรดไลโนเลอิค และอัลฟาไลโนเลอิค ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็น ซึ่งช่วยลดระดับ LDL Cholesterol และไตรกลีเซอไรด์ และยังช่วยเพิ่มระดับ HDL Cholesterol ที่เป็นโคเลสเตอรอลดีในเลือด
2. จำกัดปริมาณโคเลสเตอรอล ไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัม
3. คำนวนอาหารในแต่ละวัน ที่ให้พลังงานเพียงพอ และรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 3 วัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับ HDL Cholesterol
รู้จักกันทุกด้านแล้วนะคะ เจ้าตัวร้ายโคเลสเตอรอล รวมทั้งวิธีการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากมัน แต่หากรู้แล้วกลับไม่นำไปใช้ ก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ถ้าอยากมีสุขภาพดีเต็ม 100% ต้องไม่ใช่แค่อ่าน แต่ต้องลงมือทำเดี๊ยวนี้เลย…รีบ
แต่งตัวไปออกจ๊อกกิ้ง หรือเดินไปซื้อน้ำมันถั่วเหลืองดีๆ สักขวด !
