### Magazine Review : อยุธยา ลุยกินกุ้งเผา ขึ้นกระเช้าไปวัด กรุงเก่าใกล้กรุงใหม่

สวัสดีครับทุกท่าน

วันอาทิตย์เบื่อๆ เบื่อห้าง เบื่อดูหนัง สักเก้าโมง ระหว่างที่คิดว่าวันนี้จะทำอะไรดี

ทันใดนั้นเอง เห็นโฆษณาตัวหนึ่ง มีกุ้งโผล่เข้ามา ใจมันเลยแว่บไปถึงกุ้งแม่น้ำเผาที่อยุธยาในบัดดล (แม้แว่บแรกจะคิดถึงกุ้งทะเลเผาก่อน อิอิ)

เลยปรึกษาคนข้างๆ ว่า "ไปไหม?"
โดนถามกลับมาว่า "แล้วมีอะไรอีก?"

ก็เลยนึกแว่บมาในบัดดล ว่าเคยเห็นแว่บๆ วัดกลางเกาะกลางน้ำที่อยุธยา จำชื่อไม่ได้ ไม่เคยไปด้วย รู้แต่ว่าอยู่แถวบางปะอิน เลยถามอากู๋ (Google) อย่างเร่งด่วน ได้มาว่าชื่อ "วัดนิเวศธรรมประวัติฯ" เอาละ เข้าทาง

และเคยเห็นรีวิว "หมู่บ้านญี่ปุ่น" มาอีกเช่นกัน ไม่เคยไปอีกเช่นกัน ลองหาเบอร์ดู แล้วโทรถาม ก็ได้รู้ว่าจาก "วัดนิเวศธรรมประวัติฯ" ก็จะอยู่ระหว่างทางเข้า อ.เมือง อยุธยาพอดี

ก็เลย....อ่ะ ไปก็ไป

หลายคนอาจจะเห็นว่าผมเที่ยวเยอะ แต่ป่าวนะ ผมว่าผมยังเที่ยวน้อยกว่าหลายๆคนในห้องนี้อีกตั้งเยอะ แต่ผมอาจจะลงบ่อย เพราะมันช่วงเวลาที่ผมพอจะมีเวลาทำ และผมก็คิดว่าผมทำเร็วประมาณนึง ไม่ได้ทำนานขนาดนั้น คือผมทำคล่องด้วยอดีตหน้าที่การงาน (ตอนนี้เป็น Freelance) และเป็นช่วงเวลาที่ผมเรียน ป.โท อยู่ ผมจะว่างไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน เหมือนแฟนผม เราเลยจะเที่ยวกันเวลาแปลกๆ ไม่ค่อยได้เที่ยวช่วงวันเทศกาลกัน

ผมก็เคยทำงานออฟฟิศ ยุ่งมากกกก นานๆได้สักทริป เคยไปภูเก็ต ต้องไปใส่สูทยืนมองทะเล เศร้ามากกกก พอตอนนี้ไปเต็มเหนี่ยวกับการเที่ยวอีกครั้ง ก็เลยเอาให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ภายภาคหน้าจะมีโอกาสอีกนานขนาดไหน

การเดินทางทำให้ผมเปิดโลกกว้าง เจอประสบการณ์ชีวิต เจอผู้คน เจอแนวคิด เจอชีวิต และหากคุณสังเกตสิ่งต่างรอบตัวที่คุณไป คุณจะได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในชีวิตอีกมากมาย

พล่ามมานาน ไปเที่ยวกันดีกว่าครับ ช่วงนี้เพ้อๆ

นี่คือเส้นทางคร่าวๆของเราครับ

กุ้งเผาเป็นจุดหมาย

ที่เที่ยวเป็นทางผ่าน หุหุ คิดเส้นทางเที่ยวด้วยของกิน

และจริงๆมีแวะไปใน อ.เมืองอยุธยาตอนเย็นด้วย

ไปกันเลยครับ

ผมขับรถไปเส้นทางด่วนอุดรรัถยานะครับ ทางที่ไปทาง ม.ธรรมศาสตร์รังสิต

ไปสุดทางเลย จะเจอทางแยกไปบางไทร กะบางประอิน - สายเอเซีย
ภาพนี้ไม่ได้คิดจะถ่าย เพิ่งมาเห็น คุณเธอลองกล้องพอดี

-------------------------------

อยุธยา รถประทำทางจากกรุงเทพเยอะแยะครับ

รถตู้จากอนุสาวรีย์ก็แยะครับ ใครจะไปเที่ยวเส้นนี้ต้องไปทาง อ.บางปะอินนะครับ

มุ่งหน้ามาตามป้าย อ.บางปะอิน หรือ พระราชวังบางปะอินได้เลยครับ

รอบนี้ไม่มีแผนที่นะ แกะไม่ถูก ตามป้ายมาอย่างเดียว
จากถนนใหญ่ เริ่มเข้าสู่ถนนเล็ก ชุมชน
ลงจากทางด่วนมาไม่เกินครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงลานจอดรถกว้างมาก

และป้าย "วัดนิเวศธรรมประวัติ ราชวรวิหาร"

เสียค่าบริการค่าจอดรถเล็กน้อย ยี่สิบบาทมั้งครับ

ทางเดินไปสู่กระเช้าไปวัดจะพบกับร้านค้าขายอุปกรณ์หลบร้อน อาทิ หมวก ร่ม พัด มากมาย ใครขาดเครื่องมือให้เติมด่วนครับ

บ้านเมืองเรามันเมืองร้อนครับ

"วัดนิเวศธรรมประวัติ ราชวรวิหาร"

ที่ตั้งเป็นเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ตรงกับพระราชวังบางปะอิน พระอุโบสดวัดนิเวศธรรมประวัติ คือโบสถ์ฝรั่ง เป็นโบสถ์ฝรั่งแบบเก่าๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปในยุโรปการตกแต่งภายในเป็นแบบฝรั่งแม้แต่ฐานที่ประดิษฐาน พระประธาน คือพระพุทธนฤมลธรรมโมภาส และพระสาวกก็ไม่ได้ทำเป็นฐานชุกชีอย่างในโบสถ์ทั่วไป แต่ทำเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนในโบสถ์คริสต์ ช่องหน้าต่างที่เจาะไว้ก็เป็นหน้าต่างโค้ง ที่ฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าพระประธานจะเห็นภาพประดิษฐ์กระจกสีเขียวเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 งามอย่างชนิดที่ไม่เคยเห็นจากที่ใดเมืองไทย

(ข้อมูลจากอากู๋ครับ)

วิธีไปชมวัด มีวิธีเดียวคือ ขึ้นกระเช้าครับ เป็นจุดเด่นเลย

ทำไมไม่สร้างสะพาน นั่นสิ?

ผมไป Search เจอมาประโยคนึง ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่

สมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงอยากให้คงความเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ไว้ครับ

ทำใจให้มั่น มีสองกระเช้า ข้ามแม่น้ำด้วยใจหวิวๆ ไม่หวาดเสียวหรอกครับ

แต่คนกลัวความสูงคงเสียว ข้ามแม่น้ำไป ชมวิวไป

"คลาสสิคจริง"

พนักงานดูแลกระเช้า ไม่ใช่เด็กวัดที่ไหนนะครับ

เป็นพระสงฆ์ที่จำวัดที่นี่แหล่ะครับ ปิดบริการห้าโมงเย็นนะ

เพียงไม่เกินสองนาที เราก็จะข้ามแม่น้ำมายังอีกฝั่ง

พร้อมแล้วลุยกันเลยดีกว่าครับ

วัดพุทธสไตล์คริสต์ จะเป็นเช่นไร?

โอ๊ะๆ ลืมไป ข้ามแล้วควรทำบุญ ถวายปัจจัยตามศรัทธา

เป็นค่าไฟของกระเช้าที่เราข้ามมาด้วยครับ

ถือเป็น "ค่าเดินทางมาพบบุญ"

เข้ากำแพงวัดมา ก็จะเจออาคารสีต่างๆ โดยเฉพาะสีชมพู และเหลือง
ซึ่งสีชมพูก็เป็นสีประจำพระองค์ของ ร.5 นะครับ

จะเห็นอุโบสถ (ที่เหมือนโบสถ์) อยู่ด้านหลัง

วัดมีบริเวณไม่กว้างมากหรอกครับ

ใครชอบถ่ายรูป ก็หามุมกันไป แต่ท่าทางและชุดก็....สำรวมกันบ้างนะ

ผมขอมุมมืดๆ หุหุ

ดูสิครับ แปลกตาดี วัดพุทธไทย แต่สไตล์ยุโรป

ตื่นเต้นดี มีมุมต่างๆเยอะดี

มีพิพิธภัณฑ์ที่มีตราของ ร.5
และพระพุทธรูปประจำวันเกิดให้ทำบุญครับ

มาถึงแล้วครับ พระอุโบสถ

เห็นมะ สไตล์โบสถ์ยุโรป

เข้าชมข้างในกันเลย สวยงามมากครับ

กำแพงสีชมพูอ่อน คิดถึงโบสถ์ที่จันทบุรีเลยอ่ะ

มีพระสงฆ์ออกมาหาเราหนึ่งรูป หลังจากได้ยินเสียงของเรา

ท่านก็มาพบปะพูดคุยทักทาย และรดน้ำมนต์ให้ครับ

ขอไม่เอารูปท่านลงละกันครับ

สัมผัสบรรยากาศไปเรื่อยๆ อาคารไม่ใหญ่มากครับ เรากำลังรอชมสิ่งที่ว่าสวยที่สุด ซึ่งต้องมองจากภายในโบสถ์นี้เท่านั้น

นี่ครับ ด้านบน เหนือประตู
รูปพระบรมฉายาลักษณ์ ร. 5 ด้วยกระจกสีแบบยุโรป

หาชมได้ที่นี่ที่เดียวครับ

ผมถ่ายไปหลายรูปแหล่ะ แต่มุมมันคล้ายๆกัน

เมื่อชื่นชมเพียงพอ ก็ขอลาพระท่าน แล้วก็ขอไปชมบรรยากาศอีกเล็กน้อย

ไม่ได้มาแค่ถ่ายรูปนะครับ มาสัมผัสบรรยากาศก่อนซะให้พอ

รูปถ่ายที่แท้จริงมันอยู่ในความทรงจำของเราครับ

จะมีอะไรบางอย่างน่าสนใจในวัดด้วย เช่น นาฬิกาแดด หอพระ

ต้องเดินดูรอบๆครับ

เมื่อสัมผัสเรียบร้อย ก็บันทึกความประทับใจ

เตรียมตัวไปลุ้นกระเช้าและเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปครับ

ใครไม่เคยมา ที่นี่น่าสนใจดีนะครับ

เป้าหมายต่อไป "หมู่บ้านญี่ปุ่น"

จากวัดนิเวศธรรมประวัติ มุ่งหน้าเข้า อ.เมือง ก็โทรถามทางจากที่ทำการของหมู่บ้านญี่ปุ่นครับ

ที่นี่มีสามล้อเครื่องด้วย เท่ดี

เอาแผนที่คร่าวๆมาให้ดู ดูที่ลูกศรสีเขียว เส้นทางประมาณนั้นแหล่ะครับ

ไม่ไกล แล้วแถวนี้จริงๆยังมีหมู่บ้านฮอลันดา กะหมู่บ้านโปรตุเกสด้วย แต่ไม่ได้ไป

ค่าเข้าคนละ 40 บาท ถ้าจำไม่ผิด ได้คู่มือหนึ่งเล่ม ไปรับที่โซน Museum

จริงๆที่นี่ ก่อนมาก็รู้ว่าเล็กๆแหล่ะ แต่อยากมาดู

เข้าอาคารไป เจ้าหน้าที่จะพาเราไปชม VTR ก่อน แอร์เย็นเฉียบ

จะเป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ไทยกะญี่ปุ่น

ชม VTR เสร็จ ก็มาชมส่วนนิทรรศการ ก็สวยดีนะ

ถ่ายรูปได้เลยไม่มีปัญหา จริงๆที่นี่คนไม่ค่อยเยอะครับ อาจจะเพราะไม่ใช่เส้นทางหลัก และถ้าไม่มีรถมาก็ไม่สะดวก

ไปชม Display สวยๆ

ก็จะมีทั้งความรู้ต่างๆ มีหลายภาษา มี VTR ด้วย ใครเรียนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นน่ามา

เยี่ยมชมข้างในเรียบร้อย ไปชมข้างนอกกันบ้างนะ

อันนี้เป็นประติมากรรมเรือสำเภาโบราณ

ด้านหลัง จะติดแม่น้ำเจ้าพระยา และมีพื้นที่ของสวนญี่ปุ่น

ที่นีมีเบียร์ Asahi ขาย มีเจ้าหน้าที่ลุงคนนึงเป็นคนญี่ปุ่น ฮาดี

ไปละดีกว่า หิวข้าวแล้วอ่ะ
บ่ายแก่ละ

เราไปที่ตลาดส่งเสริมเกษตรกร บนถนนสายเอเซีย ถนนใหญ่ที่ขึ้นภาคเหนืออ่ะ

ผ่านตัวเมืองมาก่อน พอถึงสายเอเซียให้ออกซ้ายไปทางขึ้นนครสวรรค์ ไม่ใช่ทางกลับกรุงเทพ ขับออกมาสักพักจะเห็นปั๊ม ปตท.อยู่ทางขวา เลยไปหน่อยจะมี U Turn กลับรถแล้วต้องหาทางออกเลนซ้าย ออกคู่ขนาน

กลับรถระวังหน่อยนะ รถเร็ว

เป้าหมายเราอยู่ที่ "ร้านเพื่อนแพรว"

ไม่พูดพร่ำทำเพลงนะ เริ่มเลยดีกว่า

ต้มยำปลาคัง และข้าวผัดปู มาก่อนเลย

อร่อยไม่ไหวจะเคลียร์

ปลาคังเนื้อหวานหนังเยิ้ม รสชาติกลมกล่อมจากน้ำซุป เอ๊ย...ไม่ใช่รายการหมึกแดง

มาแล้วครับ กุ้งเผา ที่นี่จะมีหลายราคาให้เลือก ตามขนาดกุ้ง

ตัวเล็กๆจะไข่เยอะหน่อย แต่หัวไม่เยิ้ม ควรเลือกโลละ 160-180 ขึ้นไป

ถามเค้าว่าอยากกินไข่หรือเนื้อหรืออะไร บอกเค้าไป

ดูกันชัดๆ เยิ้มๆ

ถ่ายได้รูปเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นมือเปื้อนทั้งสองมือและสารรูปดูไม่ได้

ให้ดูรูปเดียวเท่านั้น อันนี้โลละ 180

ลองจินตนาการถึงเนื้อกุ้งหวานๆ อาบด้วยมันจากหัวกุ้งเยิ้มๆ ยิ้มน้ำจิ้มเผ็ดหน่อยๆ วินาทีที่มันเข้าปากน่ะ โอ่ววววววววววว

ไม่บรรยายละ ซัดละ ไปชิมกันเอง

ป.ล. ไว้วันใดที่เทคโนโลยีสามารถส่งรสชาติและกลิ่นได้ จะรีวิวไปให้

กินเสร็จ เรียบร้อย ประมาณบ่ายสี่ ตรงนั้นจะมีปลา น้ำพริก ของที่ระลึกมากมาย

มีคนเอาน้องช้างมาเดินขอให้ซื้ออาหารให้ น่าสงสารจัง

ใครสนใจก็หากันตามความชอบ

ราคาโดยรวมค่อนข้างถูก

และสินค้ายอดนิยมอันดับหนึ่ง

"โรตีสายไหม"

เรียกว่าไม่ซื้อฝาก อย่าบอกว่ามาอยุธยา

อิ่มหนำสำราญ กลับเข้าสู่ตัวเมืองอยุธยาอีกครั้ง

เมื่อเห็นเจดีย์กลางสี่แยกใหญ่ เรามาถึงแล้วอยุธยา

คนที่นี่เรียกว่า "เจดีย์นักเลง" ไม่รู้ทำไม? ใครรู้มาบอกด้วยนะ

มาชมบรรยากาศเมืองประวัติศาสตร์ยามอัสดงกันดีกว่า

รถสาธารณะที่นี่เยอะมาก ใครไม่มีรถ มาตัวตัวเมืองอยุธยาแล้วไม่ต้องห่วง

เพียบ มอไซค์รับจ้าง สามล้อถีบ สองแถว ยันช้าง!!!!!

ตุ๊กๆหัวกบ คันสวยๆก็มี

ชอบคันนี้

ยามอัสดง ณ มุมเจดีย์ทั้งสาม

สำหรับท่านที่เคยไปอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยามาแล้วนะครับ

จริงๆแล้วถ้าไม่รีบร้อน ลองเปลี่ยนบรรยากาศขับวนไปในตัวเมือง ไปเรื่อยๆ ไม่หลงหรอกครับ ยังไงก็จะออกมาเจอเส้นใหญ่สักเส้น จริงๆแล้วมีโบราณสถานเล็กๆ แปลกๆ อีกเยอะครับ แต่เราชอบไปแต่ตรงพื้นที่หลัก ผมก็ลองขับเล่น ก็ไปเจอที่ไม่เคยเห็นอีกตั้งหลายอัน

รูปนี้ หวังว่าทุกท่านคงตอบกันได้นะครับ ว่าที่ไหน?

รูปเรือทานอาหารค่ำล่องเจ้าพระยา น่าสนใจสำหรับท่านที่อยากสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่ายามเย็น

สำหรับผมเตรียมกลับละครับ

หนึ่งวัน ง่ายๆ ใกล้กรุง

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน