ถ้าใครเคยดูขบวนการพยัคฆ์ร้ายหรือ Mission Impossible ทางทีวีเมื่อหลายปีก่อนซึ่งเป็นหนังซีรี่ย์มีออกมาอย่างน้อย 2-3 เวอร์ชั่น จะเห็นได้ว่าสาระสำคัญของหนังอยู่ที่ขบวนการฯ จะต้องขัดขวางการทำลายล้างมนุษยชาติของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอเมริกันหรือจารกรรมทั้งตัวบุคคล, ข้อมูลหรือสิ่งของให้แก่รัฐบาลฯ ซึ่งจะต้องไปปฏิบัติการตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ความคลาสสิคของหนังทีวีและภาพยนต์อยู่ที่
1. เริ่มต้นเรื่องหัวหน้าทีมจะต้องไปรับงานจากรัฐบาลผ่านเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันและจะพูดทุกครั้งว่าหากรับงานนี้แล้วทางทีมเกิดถูกจับได้ รัฐบาลจะไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นและเครื่องมือดังกลาวจะทำลายตัวเองภายใน 5 วินาทีแล้วก็มีควันลอยออกมาจากเครื่องนั้น ในภาพยนต์ภาค 1 ใช้เครื่องเล่นทีวีบนเครื่องบินโดยสาร, ภาค 2 ใช้แว่นตา, ภาค 3 ใช้ฟิล์มถ่ายภาพ(ถ้าผิดก็ขออภัย) และภาค 4 ใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะแต่ดันโปเกไม่ยอมทำลายตัวเองเสียนี่ อีธานทำอย่างไรไปดูกันเอาเอง
2. การทำงานเป็นทีมของลูกทีมทั้งหนุ่ม ๆ และสาวสวย แต่ในทีวีนั้นจะต้องมีลูกทีมที่เป็นหนุ่มผิวดำอยู่คนหนึ่งทุกตอนทุกเวอร์ชั่นในขณะที่ภาพยนต์ไม่มีในบางภาคและบทที่มีก็ต่างกับในทีวีด้วย ส่วนที่ขาดไม่ได้ของทุกตอนก็คือการทำหน้ากากปลอมตัวของอีธาน ฮั้นท์ แต่ในภาพยนต์ภาค 4 นี้ไม่มีโดยตัวละครอ้างว่าทำไม่ทันการที่คนร้ายกำลังมา พวกเราก็เลยไม่ได้เห็น Special Effect การปลอมหน้าในภาคนี้
สำหรับภาพยนต์ที่ทอม ครูซ เล่นแล้วเห็นจะมีก็แต่ภาค 2 ที่ใกล้เคียงกับธีมของหนังทีวีมากที่สุดแม้อีธานจะมารับบทเป็นหัวหน้าทีมก็ตาม ภาค 1 เป็นการหักมุมกับบทของหัวหน้าทีมที่เล่นเป็นคนดีมาโดยตลอดทางทีวีแต่กลายมาเป็นตัวร้ายที่สุดในภาพยนต์ ภาคนี้ทำใจลำบากอยู่พักหนึ่ง ภาค 3 รับไม่ได้กับอีธานที่แต่งงานแล้วซึ่งผิดวิสัยของคนที่ทำงานทางด้านนี้ เนื้อหาก็อ่อนมาก ห่วยที่สุดใน 4 ภาคนี้เลย ส่วนภาค 4 ที่กำลังฉายอยู่นี้เนื้อหาอ่อนพอ ๆ กับภาค 3 โดยที่ผู้ร้ายเป็นผู้ชำนาญทางด้านอาวุธที่จะสร้างสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่บทถูกซ่อนไว้ให้เห็นแต่ฉากอีธานคอยตามล่าหาผู้ร้ายอยู่ตลอด ฉากสำคัญมาโผล่เอาที่ต้องชกต่อยกับอีธานในอาคารจอดรถไฮเทคซึ่งไม่น่าเชื่อว่าอีธานเกือบตายทั้งที่ผู้ร้ายน่าจะเก่งทางด้านวิชาการมากกว่าการต่อสู้ ส่วนอีธานนั้นในภาค 4 นี้ถ้าไม่โชคช่วยก็น่าจะตายไม่รู้กี่ครั้งแล้ว มีฝีมือก็ตอนขับรถปีนป่ายเท่านั้นเอง การต่อสู้ทั้ง 4 ภาคนั้นภาค 2 ถือว่าอีธานเก่งมากที่สุดซึ่งอาจเป็นเพราะได้ผู้กำกับบู๊ลิ้มจอห์นวูนั่นเอง อย่างไรก็ตามภาค 4 อาศัยว่ามีฉากใหญ่หลายฉากถ่ายทำในหลายประเทศ มีใช้ CG เพียบ มุขตลกแทรกให้ขำเป็นช่วง ๆ ทำให้ภาคนี้ดูเพลินกว่า 3 ภาคแรก
S! Movie