นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะให้ผู้มีอาชีพอิสระ ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน เช่น พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวสามารถขอกู้เงินซื้อบ้านได้ โดยไม่ต้องไปเสียค่าเช่าที่พอๆกับค่าผ่อนบ้าน ซึ่งคนกลุ่มนี้รัฐบาลต้องเข้าไปดูแลด้วย โดยขณะนี้ยังเป็นโจทย์ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งองค์กรด้านการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
“ผมอยากเห็นคนที่มีอาชีพอิสระมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้าน คนที่ไม่มีสลิปเงินเดือนไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนจนไม่มีเงินและไม่ได้แปลว่าเขาจะผ่อนบ้านไม่ได้ ตรงข้ามคนที่มีเงินเดือนบางรายยังผ่อนบ้านได้ไม่ครบตามกำหนดด้วยซ้ำ ส่วนเงื่อนไขอาจขอให้ใช้เงินดาวน์มากขึ้นกว่าปกติ แล้วขอผ่อนหรือจะใช้แนวทางผ่อนปรนได้หรือไม่ ต้องไปหาคำตอบมา ส่วน ธปท.ต้องเปลี่ยนเกณฑ์การจัดชั้นหนี้ด้วยหรือไม่นั้น ผมไม่กล้าพูดถึงเขาเดี๋ยวโดนอีก”
ด้านนายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์ดูแลการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านของระบบธนาคารพาณิชย์นั้น ธปท.ไม่เคยห้ามไม่ให้คนที่ไม่มีสลิปเงินเดือนกู้ซื้อบ้าน หรือไม่เคยมีข้อกำหนดว่าคนที่กู้ซื้อบ้านได้ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร เพราะการพิจารณาปล่อยกู้หรือไม่เป็นรายละเอียดที่ธนาคารพาณิชย์ผู้ให้กู้จะตัดสินใจเอง ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารมักดูสลิปเงินเดือนประกอบ เพราะเป็นการดูหลักประกัน ดูศักยภาพในการชำระหนี้ของลูกค้า “ธปท.ไม่เคยห้าม ไม่เคยมีกฎเกณฑ์ ซึ่งคนที่ไม่มีสลิปเงินเดือนกู้ซื้อบ้านได้ เพราะนอกจากสลิปเงินเดือนแล้วสามารถดูสินทรัพย์อื่น เช่น กระแสเงินทุนหมุนเวียนแล้วแต่ธนาคาร แต่ต้องยอมรับว่าธนาคารส่วนใหญ่ต้องการสลิปเงินเดือน เพราะเป็นการดูหลักประกัน”
ขณะที่นายกิตติรัตน์ยังกล่าวถึงปัญหาราคาสินค้าแพงว่า ถ้าไปดูรายการสินค้าที่แพง พบว่าถูกกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ว่าแพงกว่าเมื่อสองเดือนที่แล้ว ในสินค้าบางรายการ เช่น มะนาวแพง มันแพงอย่างนี้ทุกปี ขณะที่สินค้าบางชนิดไม่แพง เช่น ไข่ไก่และเนื้อไก่ ต้องดูภาพรวมเพราะสินค้าที่แพงขึ้นก็มี ที่ไม่แพงก็มี และต้องดูด้วยว่าราคาสินค้าที่แพงเพราะราคาน้ำมันแพงหรือไม่ เพราะวันนี้น้ำมันดิบอยู่ที่บาร์เรลละ 140 เหรียญสหรัฐฯแล้ว
“รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลราคาสินค้าให้ถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ต้องดูด้วยว่าอยู่ในภาวะอะไร ไม่มีรัฐบาลไหนอยากเห็นสินค้าราคาแพง แต่ผมเชื่อว่าเราดูแลให้คนมีรายได้ดีขึ้น”