กรุงเทพฯ อีก 10 ปี จะอยู่กันอย่างไร?

ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับ ต้องถามตัวเองกันแล้วจะอยู่อย่างไร?

ประเด็นที่ 1 จราจร
ถามพี่แท็กซ๊ี่ พี่วิน ปีนี้รถติด รถมากขึ้นจนสังเกตุและรู้สึกได้
รถไฟฟ้า หลอกตัวเองทั้งนั้น คนมีรถก็ขับรถวันยังค่ำ
และรถมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน คนเพิ่มขึ้นทุกวัน
แล้ว คุณรถไฟฟ้าสายต่างๆ ก็ไม่ได้เชื่อต่อกันแบบบูรณาการณ์จริงๆ
คนที่เคยขึ้นรถเม ยังไงก็ต้องขึ้นรถเม เพราะ รถไฟฟ้ามันหลายต่อ
ยกเว้น คนจะมีที่ทำงานแบบรถเมสายเดียวถึง หรือ รถไๆฟฟ้าสายเดียวถึง (แล้วใครมันจะมีงานแบบนั้นทุกคน)
โอเค มันช่วยได้ในระดับหนึ่งครับ
แต่เหมือน ปัญหา มันไป 10 ระดับ แล้ว เรากำลังเริ่มแก้ปัญหาที่ 1-2
และ ปัญหามันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแน่นอน เรื่องน้ำมันไม่ต้องห่วง
เพราะ ราคาแค่ไหน คนมีรถมันก็จะขับอะ นักการเมือง นายทุนน้ำมันก็รวยไป ก็กูจะขึ้นอะ
อีก 10 ปีข้างหน้า น้ำมันลิตรละ 100 - 200 ร้อย คนไทยขับได้ครับ เชื่อผมไหม

ประเด็นที่ 2 ค่าครองชีพ
ประเทศไทยสมัยหนึ่งต้องการให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลุงทุน
จึงต้องทำให้ ค่าแรงถูก ก็คือการที่ต้องกดค่าครองชีพให้ถูก
แต่ปัจจุบันกำแพงนั้นกำลังพังไปแล้วครับ ค่าแรงขึ้น ค่าครองชีพขึ้น
ผมยอมรับนะ ต้องขึ้นไม่งั้นคนใช้แรงงานอยู่ไม่ได้
แต่การที่ขึ้นแบบไม่ได้มีการศึกษาผลกระทบมาก่อน ซวยแล้วครับ
ใครกินข้าวมื้อละ 35 บาท แล้วอิ่มบ้าง มันยังมีอยู่ครับ ตามร้านเล็กแม่ค้าทั่วไป
แต่ไม่นานหรอกครับ ก็ต้องขึ้น ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิต ที่อยู่ในดงออฟฟิตในย่านตัวเมือง
มื้อนึงไม่ต่ำกว่า 50 แน่ๆ น้ำ ข้าว แค่ค่ารถเดินทางไปทำงานถ้าไกลบ้านก็ ราคา เท่ากับ
ค่าอาหารโดยประมาณ แล้วอีก 10 ปี ปวส ปวช เงินอาจเพิ่งเป็น 15,000 แต่ค่าครองชีพมันไปไกลแล้ว
จะอยู่กินยังไงครับ แม้ปริญญาตรีอาจจะ 20,000 ก็ตาม

ประเด็นที่ 3 เรื่องมลพิษ
ไม่ต้องอธิบายมาก คลองเน่า แม่น้ำเน่า อากาศเป็นพิษ ใครทำเรื่องนี้จริงๆ จังๆ บ้าง
มั่วแต่เพลิดเพลินภูมิใจว่า กรุงเทพฯ เมืองหน้าเที่ยว เฮ้อ
อยากจะบอกว่า คนที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ เพราะ คนน่ารักยิ้มแย้ม สถานที่เก่าแก่เยอะ มีมรดกเยอะ
แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ถามจริงๆ เราพูดได้เต็มปากหรอ ว่าตอนนี้เราเป็นสยามเมืองยิ้ม ผมเห็นคนทุกข์ทั้งนั้น
อีกหน่อย AEC เพื่อนบ้านแซงแน่ครับ อีกหน่อยมันก็ยิ่งเน่า แล้วไปดูงานที่เกาหลีกันอะ กี่คณะแล้ว
จะทำบ้างไหม บอกหน่อยเถอะ
อีก 10 ปี ไม่อยากคิดเลย

ประเด็นที่ 4 การเมือง
เดี๊๋ยวก็ประท้วง เดี๊ยวก็มีระเบิด ขนาดฝ่ายชนะเป็นรัฐบาลแล้วยังไม่เลิกชุมนุม
จะเอาอะไรวะ ครับเนี่ย ปวดเหม่งจริงๆ ครับ เดี๋ยวก็รำลึกโน้นนี่นั้น ปิดถนน ชุมนุม
และรำลึกเงียบๆ ไม่ได้ด้วย ต้องโวยวายให้ออกสื่่อ
ไม่จบหรอกครับ คดี พวกนักการเมืองที่เป็นระเบิดวเลาในชั้นศาลมีอีก เป็น สิบๆ ลูก
ศาลก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ตามกระบวนการ ตัดสินเสร็จก็ประท้วง ไม่เข้าใจอะคับ เพื่ออะไร
อีก 10 ปี ก็็ไม่จบ

ประเด็นที่ 5 ปัญหาครอบครัว และ ความแออัด
ปัญหานี้มันส่งผลมาจาก ปัญหาค่าครองชีพ และ แรงกดดันทางสังคม
คนทั่วสารทิศอพยพเข้ามากรุงเทพฯ เชื่อไหมครับ ทุกคนมาหาโอกาส
แต่ส่วนมาก และ เพิ่มมากขึ้นคือ มาแบบหาโอกาศสแบบไมไ่ด้วางแผน
คนจน ที่น่าสงสารจำนวนมาก มาเพราะ จะมาขุดทอง จะร่ำรวยกลับบ้าน
แล้วสุดท้ายก็ติดแง็ก ถ้ามีลูก หาเช้ากินค่ำก็ลำบาก กลับบ้านก็ไม่รู้จะทำอะไรไม่มีงาน
ก็ความเจริญมันเป็นแบบนี้ หัวโตตัวลีบ ทั้งๆ ที่จริงๆแล้ว งานต่างจังหวัดตอนนี้ ก็มีเยอะนะครับ

สมมุติว่ามาจาก อีสาน มาขาย หมูปิ้ง ได้เงิน 20,000 ตัดต้นทุน โดนเทศกิจเรียกเก็บบ้าง เช่าบ้าน ค่าน้ำไฟ ค่ากินอยู่ ของใช้ในบ้าน ค่าส่งเสียลูกเรียน และ ค่าครองชีพ ก็พอไม่น่าจะพอนะครับ เปรียบเทียบ กับ ถ้าอยู่บ้านเกิด เงินเดือน 10,000 ต้นๆ น่าจะอยู๋และมีความสุขกว่า แค่ไใไ่ด้ค่านิยมว่ามาจาก ดรุงเทพฯ แค่นั้นเอง

ต้องยอมรับครับ มันยังเป็นค่านิยมอยู่ พอวัยรุ่นหน่อย เด็กๆ ส่วนมากก็อยากเข้ากรุง เหมือน คนกรุงก็ส่งลูกไปเรียนอังกฤษ ไปอยู่ในที่ๆ เจริญกว่า เป็นหน้าตา เป็นความหวังของพ่อแม่ อยากให้ลูกได้รับอะไรดีๆ แต่มันดีจริงๆหรือครับ เข้ามายัดกันอยู่ในเมืองหลวงที่แออัด ขนาดนี้ ใช้ทางเลือกจริงๆ หรือ ตอนนี้การศึกษาเราก็พยายามที่จะกระจายออกต่างจังหวัด เช่น วิทยาลัย จากมหาลัยในกรุงเทพฯก็ แตกหน่อสาขาไปเยอะ เพราะกระจายความรู้แถมยังมี โควต้า ให้กับเด็กท้องถิ่นอีก คุณภาพมันเหมือนกันแหละครับ อาจารย์ส่วนมากก็มาจากกรุงเทพฯ ทั้งนั้น

ปัญหายาเสพติด การพนัน พับ คาราโอเกะ -> ท้องก่อนแต่ง อาชญากรรม ขโมย ทำร้ายร่างกาย เอดส์
แทบไม่ต้องพูดมากปัญหาทุกอย่างเกิดจากกิเลสของมนุษย์

ที่หนักใจที่สุดคือ ตำรวจ จะจัดการกับปัญหาพวกนี้อย่างจริงจัง หรือ เป็นคนสนับสนุนให้เกิดปัญหา (เพราะมีข่าวตลอดว่าอยู่้เบื้องหลังตามหน้าหนังสือพิมพ์) ผมไมไ่ด้ว่าตำรวจนะครับ ผมเชื่อตำรวจดีๆ มีครับ

ที่มา: http://www.oknation.net/blog/juab77/2012/10/15/entry-1

ผมคิดว่า เราต้องเริ่มเปลี่ยนตัวเราเองก่อน เป็นอันดับแรกนะครับ

มนุษย์เรา นี่ก็เก่งมากนะ ในเรื่องของการปรับสภาพการอยู่รอดของสังคม

ถ้าเริ่มมั่นใจว่า ตัวเราเองเริ่มแข็งแกร่ง ยืนได้อย่างมั่นคง แข็งแรง

ก็ให้คุณลองๆ มอง คนที่อยู่ในรอบข้างดู ว่า ใคร เดือดร้อนอะไร อย่างไรบ้าง

แล้วเรา พอจะหยิบยื่นความช่วยเหลือ ให้แก่เขาได้หรือไม่ อย่างไร

ผมไม่ได้หมายถึงเรื่อง เงินนะ

แต่หมายถึง แนวทางของวิธีคิด วิธีปฏิบัติตน ให้ปรับตัวและอยู่ให้รอด ให้ได้ ในสังคมปัจจุบัน

และต้องไม่เอาเปรียบผู้อื่นด้วยครับ

q*021

สะกดคำไทยผิด เยอะหลายจุดเลย

เรื่องเหล่านี้ เป็นปัญหาก็จริง แต่ก็ดูเหมือนไม่น่าห่วงเท่าไหร่ เพราะคนย่อมปรับตัวเองไปตามสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอดได้เสมอ ไม่เกินวิสัย กรุงเทพฯเมื่อร้อยปี ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ทั้งประชากรและสภาพแวดล้อม แต่ก็ปรับตัวอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่า เพราะเกินวิสัยคน คือภัยธรรมชาติที่หนักขึ้นทุกปี ระยะหลังไม่ได้มีวี่แววว่าจะลดลงเลย ปริมาณฝนจากพายุต่างๆเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่กรุงเทพเองกลับทรุดลงทุกปี นี่ต่างหากที่น่าห่วงกว่าว่า 10 ปีข้างหน้าจะอยู่ยังไง

ผมเกิด กทม. อยู่ กทม.มา 49ปี อยากไปอยู่ต่างจังหวัดมานานแล้ว
ไม่ทราบว่าคนต่างจังหวัด จะอยากไปอยู่ กทม.ทำไมกัน q*031

คุณเป็นใคร รัฐบาลและผู้ว่ากทม.ยังไม่คิดเลย สำหรับประชาชนถ้าอยู่ไม่ได้ก็ต้องย้ายไปกระมัง

ไม่ต้องห่วงหรอกคุณ คนเราปรับตัวตามสภาพแวดล้อมอยู่แล้ว ก็ในเมื่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเราไม่เคยทำอะไรเลยแล้วพวกเราจะไปทำอะไรเค้าได้ ทำได้ก็แค่ปล่อยเลยตามเลย ถ้ามันจะวุ่นวายยุ่งเหยิงก็อยู่กันได้ เชื่อสิอยู่ได้อยู่ไม่ได้ก็ตายก็แค่นั้น (นี่แหล่ะนะคุณภาพชีวิตคนไทย)

อีก 10ปี คงลำบากน่าดูเลยเนอะไม่อยากอยู่แล้วกรุงเทพอ่ะวุ่นวาย

ประเด็นที่ 6 น้ำท่วมกรุงเทพฯ ทุก1 ปี พื้นดินทรุด 10 มม.

10 ปีที่แล้ว ก็มีคนคิดเหมือนคุณ

มกราคม 2556 คือ การติดสินใจเกี่ยวกับกรุงเทพฯของเราอีกครั้ง เลือกผู้ว่าฯให้ดีๆ เลือกคนที่รู้ปัญหาของคนกรุงเทพฯอย่างจริงจัง และมีวิธีแก้ไข อย่าแค่คำโฆษณาบนแผ่นป้าย สุดท้ายฝนฟ้าพายุก็ต้องมาเปิดหูเปิดตาทุกคนว่ามีแต่พวกดีแต่พูดหรือไม่ก็ดีแต่โม้ พอประชาชนจะรู้ทันก็รีบจับมือสงบศึกปิดหูปิดตาต่อไป
จราจร เป็นเพราะรัฐบาลและตำรวจจราจร ไม่สนใจ เห็นชัดๆกับตาตัวเอง เอาเป็นว่าไม่บอกว่าตรงไหนและควรแก้ยังไง จะไปบอกว่าผู้ว่าฯที่จะมาสู่สนามเลือกตั้ง ถ้าถูกใจจะไปขอเข้าทีม
ค่าครองชีพ อันนี้เป็นความผิดของรัฐบาลปูที่หาเสียงแบบประชานิยม ผู้ว่าฯแก้ไม่ได้หรอก นอกจากเปลี่ยนนายกฯ นโยบายจะเปลี่ยน จงเปลี่ยนก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นอย่างกรีซ สเปน
มลพิษ อันนี้ความผิดผู้ว่าฯกทม โดยตรง
การเมือง ถ้ารัฐบาลใช้อำนาจมิชอบ ไม่ให้ประท้วงเตือนสติ จะให้มันเดินผิดทิศผิดทางเหรอ
ครอบครัวและความแออัด ไม่มีใครสนใจหรอก เพราะพวกเขาไม่เคยมาเดินกับพวกเรา เลือกเสร็จก็ไปมีความสุขอยู่ในรัฐสภา บินฟรี เที่ยวฟรี ช่างหัวคุณพวกโง่ที่คอยรักษาประชาธิปไตยยิ่งชีพ

ย้ายกระทรวง (ส่วนราชการ) ออกต่างจังหวัด กระจายให้ทั่วประเทศ คนก็กระจายกันอยู่แล้ว (ส่วนราชการมีรถกันทั้งนั้น)

ผมปลดแอ่ก จากกรุงเทพมา 2 ปีแล้วครับ ทรมารเหลือเกินอยู่กรุงเทพ ผมมาทำงานที่ต่างจังหวัดและใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ผมมีความสุขกว่าอยู่กรุงเทพเยอะ

น่าจะถามว่า ที่ผ่านมาน่ะ อยู่กันมาได้ยังไง? ในเมื่อทนมาได้ซะขนาดนี้ ก็จงทนต่อไปกับ กทม. เมืองศิวิลัย.. q*073

อ้างจาก: MEOZA ที่ 16 ต.ค. 12, 09:17 น

ดีใจกับคุณด้วย

เวลานี้พี่นับวันรออีก 5-6 เดือนก็เผ่นไปอยู่ ตจว.เหมือนกัน

มีธุระกิจเล็กใกล้ๆบ้าน ที่สำคัญไม่มีปัญหาต่างที่ จขกท.พูดถึง

หรือถ้ามีก็นิดหน่อย

ขอลาก่อน กทม.อาจจะมาเที่ยวบ้าง

แต่ให้มาอยู่ขอลาขาดจร้าาาาาา

I'm from suburban never want to live in BKK and never want to capitalism to do come to my home town

คิดมากเกินไปหรือเปล่า เดี๋ยวก็เป็นโรคจิตรหลอนหลอกน๊ะ และคิดในทางอกุศลด้วยแล้ว รถวังสมองเสื่อมเร็ว สมองเราเปลียบเสมือนคอมพิวเตอร์ใส่ข้อมูลไปมากๆๆอะไรก็ไม่รู้ ไวลงไวรัสมั่วไปหมดพอมันเต็มก็จะเออเรอร์ เดือดร้อนโรงพยาบาลศรีธัญญาอีกด้วย q*072

ตอนนี้คุญเจ้าของกระทู้อยู่ที่ไหน

กรุงเทพ น่า เทียวครับ ไม่ใช่"หน้า"เที่ยว

q*0739ต่อไปในอนาคตคงจะต้องทำวีซ่าให้คนเข้ากรุงเทพฯ กันแล้ว q*073

ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ประเทศไทย หลากหลาย นี่ยังไม่รวม ปัญหาจาก ต่างด้าว อีกอะ - แต่คนไทยปรับตัวได้ ตลอด

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน