เรื่องล่าสุดของหมวด
เขื่อนลำแชะโคราช พิกัดเที่ยวธรรมชาติ วิวสวย คนไม่ค่อยรู้จัก
เปิดภาพประวัติศาสตร์! การขุดค้นพบเขาคลังนอกอุทยานฯ ศรีเทพ ก่อนจะกลายเป็นมรดกโลก
5 อาร์ตทอยสุดป๊อปจาก POP MART เมื่อของเล่นไม่ใช่ของเด็กเล่นอีกต่อไป
สวยขั้นสุด! น้ำตกชาติตระการ ธรรมชาติสุดอลังการในช่วงหน้าฝน
เกาะปันหยี ดินแดนลอยน้ำกลางทะเล Unseen Thailand ที่สักครั้งในชีวิตต้องไปชม
เปิดภาพห้องรับรองผู้โดยสารชั้นหนึ่ง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เปิดให้บริการแล้ววันนี้!
ประกาศผล 50 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก 2023 โรงแรมไทยติดลิสต์มาถึง 4 อันดับ!
ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา เช็กอินเที่ยวพัทยา กับชุดบิกินีที่ทำเอาแฟนคลับซูมกันตาแตก!
ขาวทะลุจอ! รวมภาพปันปัน สุทัตตา กับบิกินีตัวจิ๋ว เที่ยวเกาะยาวน้อย
จัดโปรเพื่อคนไทย! "อนันตรา เกาะยาวใหญ่" รีสอร์ทหรูใหม่ล่าสุดบนเกาะยาวใหญ่ เริ่มต้นแค่หลักพัน
13 ที่พักกาญจนบุรี 2566 ติดริมแม่น้ำ พร้อมข้อมูลการเดินทางแบบละเอียด
Hotel Tide Phuket กำแบงค์พัน 2 ใบ ไปพักผ่อนสุดฟินริมทะเลแบบสบายกระเป๋า
BEARHOUSE ร้านขนมและชานม “ไข่มุกโมจิ” เจ้าแรกของเมืองไทย บุกไอคอนสยาม
Let’s be beautiful @Plantiful คาเฟ่อาหาร Plant-Based ที่คัดสรรทุกเมนูเพื่อสายรักสุขภาพ
CRAZE MAMA ร้านอาหารไทย ที่ได้ใจคนรักมาม่าไปเต็มๆ
รีวิว Teppan France Kanda จะเป็นอย่างไรเมื่อเชฟกระทะเหล็กมาทำอาหารให้กินตรงหน้า!
กระหึ่มโลก! ผัดกะเพราไทยคว้าอันดับ 1 อาหารประเภทผัดที่ดีที่สุดในโลก
“สังขยาจิ๋ว” เมนูใหม่คิวยาวจากปั้นลี่เบเกอรี่ (Panlee Bakery)
เรื่องต้องรู้ก่อนไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง
เที่ยวเวียดนาม เมืองไหนดี รวม 12 เมืองน่าเที่ยว เหนือจรดใต้
5 อันดับ เรือผีสิง ที่เฮี้ยนสุดในประวัติศาสตร์
ทำความรู้จัก Lake Como สถานที่จัดงานแต่ง หมาก-คิมเบอร์ลี่ ที่อิตาลี
เช็กให้ดีก่อนเที่ยว! สถานทูตเตือนเที่ยวเมียนมาร์ควรมีเงิน 1,000 ดอลลาร์ เพราะอาจมีสุ่มตรวจ
ตามรอย บอย-ปกรณ์ ไปกับโฆษณาชิ้นใหม่จากการท่องเที่ยวไต้หวัน
หน้า: 1 2 ทั้งหมด
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
สวัสดีครับ เืืพื่อนๆ พี่ๆ น้องทุกคน ขอเปิดกระทู้รีวิวใหม่ต่อจาก หลังจากที่รีวิวครั้งที่แล้วผมได้ไปเที่ยววังเวียง ขออ้างอิงกระทู้ก่อนหน้านี้ โดยเข้าไปดูได้ที่เว็ปลิงค์ http://webboard.travel.sanook.com/forum/?topic=3662882.......หากเพื่อนๆท่านใด มีประสบการณ์เดินทางดีๆ หรือต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนำมาแบ่งปันกันได้ทาง facebook ของผมได้ที่ https://www.facebook.com/khundenbackpacker ...................เวลาเกือบ 11 โมง ผมก็ออกจากที่พัก มาที่ขนส่งวังเวียง เพื่อมาซื้อตั๋วรถเดินทางต่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ นั้นคือ เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง โดยได้ซื้อตั๋วเป็นรถโดยสารแอร์ครับ ราคาอยู่100000 กีบเลยครับ ครั้งตอนที่นั่งจากเวียงจันทร์มาวังเวียงผมนั่งหวานเย็นมา แต่ครั้งนี้ได้นั่งหรูหน่อย เพราะการเดินทางไปหลวงพระบาง นั้นต้องวนภูเขาหลายลูกเลยกว่า่จะถึงครับ ระยะทางจากวังเวียงไปหลวงพระบางประมาณ 230 กิโล แต่ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงเลยครับ ลองนึกดูครับว่าเส้นทางจะขนาดใหน ...หากเพื่อนๆท่านใด มีประสบการณ์เดินทางดีๆ หรือต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนำมาแบ่งปันกันได้ทาง facebook ของผมได้ที่ https://www.facebook.com/khundenbackpacker
สำนักงานขนส่งวังเวียง มีเที่ยวรถให้เลือกหลายเที่ยวครับ แต่ที่ขนส่งค่อนข้างเงียบมากครับ ไม่วุ่นวาย
มีรถให้เลือกหลายเที่ยวแต่ไปได้แค่ 2 ที่เท่านั้น คือไม่ไปเวียงจันทร์ ก็หลวงพระบางครับ ตามเวลาที่แจ้งไว้ครับ
รถโดยสารที่ผมนั่งมาด้วยครับ สีฟ้าสดใสมากครับ รถค่อนข้างดีอยู่ครับ
เวลา 11.30 เกือบครึ่งได้ รถก็ออกจากขนส่งวังเวียง ตลอดการเดินทาง ต้องบอกเลยครับ ว่าถนนหนทางประเทศลาว ไม่เจริญเหมือนบ้านเรา บ้างก็ลูกรัง บ้างก็ลาดยาง แต่ถนนค่อนข้างแคบและไม่ค่อยมีกันทางครับ นั่งไปเสียวๆ สุด แต่บรรยากาศ ก็ดีๆสุดเหมือนกัน ไม่ค่อยมีรถวิ่งสวนกันมากนักครับ
แต่ไม่ต้องห่วงครับ หากนั่งรถโดยสารแบบผม คนขับจอดรถบ่อยมาก เพราะเห็นใจเค้าจริง วนภูเขาหลายลูกขึ้นลง ต้องเหนื่อยแ่น่ครับ ผมเลยได้เก็บบรรยากาศตามท้องทุ่งนาข้างทางครับ
นั่งรถออกมาได้เกือบ 6 ชัวโมงก็ใกล้ถึงหลวงพระบาง รถหยุดตรงข้างทาง ผมเลยเดินลงมาถ่ายที่เนินเขา มองเห็นแม่น้ำโขง ดีใจสุดๆเลยครับ เพราะใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว
ในที่สุดก็ถึงหลวงพระบางแล้วครับ เวลา 6 โมงเย็นเกือบครึ่งได้ ก็เลยนั่งสามล้อมาลง ณ ที่พัก ดีนะครับที่เอาแผนที่และจดชือที่พักที่ได้จองไว้แล้ว คนที่หลวงพระบางเลยรู้ ส่งผมมาถูกที่ ผมจองห้องพักไว้เขตเมืองเก่าหลวงพระบาง บรรยากาศดีมาก เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย
ชาวบ้านที่หลวงพระบาง กำลังใส่บาตรข้าวเหนียวครับ
ผมปั่นจักรยานออกมาไม่ไกลมากนัก ก็มาถึงจุดศูนย์กลางย่านหน้าวัดเขาพระภูสีและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหลวงพระบาง
มาถึงตลาดทั้งที่ หาของกิน เลยขอจัดเบาสักชามครับ เป็นข้าวซอยทานกับหมูสับทรงเครือง ทานกับใบสะระแหน่ อร่อยมากครับ สดชื่นชุ่มคอมากๆเลย แต่อาหารที่บ้านเค้าจะไม่จัดจ้านเหมือนบ้านเรานะครับ แต่ปรุงให้จัดได้
ทานอาหารเช้าเสร็จ เดินออกจากตลาดมาหน่อยก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหลวงพระบางครับ ตรงนี้ถือเป็นจุดศูนย์กลางของหลวงพระบางเลยครับ
ทานอาหารเสร็จอย่างนี้ไม่ไกลนัก เลยขอขึ้นไปชมวิวเมืองหลวงพระบางยามเช้าดีกว่าครับ ขึ้นไปที่วัดเขาพระภูสีหลวงพระบาง กับบันใด 300 กว่าขึ้น
เดินมาอย่างเหนื่อยก็ถึงแล้วครับ ยอดเขาวัดพระภูสี หากใครต้องขึ้นมานะครับ เพราะวิวทิวทัศน์สวยมาก
มองเห็นวิวทิวทัศน์และความเป็นธรรมชาติของเมืองหลวงพระบาง มีแม่น้ำโขงไหลผ่าน
มองเห็นบ้านและชุมชนของเมืองหลวงพระบาง สวยงามมากครับ
อีกมุมเดินมาหน่อยก็จะมองเห็นแม่น้ำคานไหลไปบรรจบกันที่แม่น้ำโขงครับ
ผมนั่งชมวิวและถ่ายรูปอยู่ที่นี้นานพอสมควร เพราะอากาศเย็นไม่ร้อนและเพลิดเพลินอยุ่กับบรรยากาศที่นี้ ก่อนเดินลงจากเขาพระภูสี จะเห็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
มองเห็นหลังคาวัดอันสวยงามเป็นศิลปะล้านช้าง กับท้องฟ้าวันนี้ แจ่้มใสมากครับ
เตรียมปั่นจักรยานลัดเลาะชมเมืองหลวงพระบางต่อครับ
ปั่นไปกราบพระที่วัดชินครับ ใกล้ๆวัดเขาพระภูสี ไม่ต้องห่วงนะครับหากจะชมวัด เพราะวัดทีหลวงพระบางมีเยอะมากครับ
ชมอาคารบ้านเรือนเก่าๆ ที่หลวงพระบางที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้และมีปรับปรุงบ้างตามกาลเวลา แต่ยังคงเค้าดูอยู่ครับ
บ้านเรือนเก่าๆ ยังมีให้เห็นทั่วไปในเขตเมืองเก่าหลวงพระบางครับ ชอบหลวงพระบางตรงนี้แหละครับ แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มีเปลี่ยนบ้างแต่ค่อยเป็นค่อยไป เดินอย่างช้า ดูคนที่นี้เค้าไม่ค่อยรีบร้อนกันนะครับ ทำให้มาที่นี้รู้สึกใจเย็นขึ้นเยอะเลยครับ
ปั่นจักรยานมาเรื่อยๆ ก็ถึงแล้วครับ วัดเชียงทอง มีป้ายบอกด้วยครับ เป็นวัดที่อยู่ใกล้ๆแม่น้ำโขงเลยครับ บรรยากาศดีมาก
วัดที่ผมเคยเห็นแต่ในโฆษณา ทีวี หรือแม้แต่ในนิตยสารท่องเที่ยวก็จะต้องมีวัดนี้อยู่ เป็นวัดที่บ่งบอกว่านี้ผมมาถึงหลวงพระบางแล้วจริงๆครับ ...เรามารู้จักวัดเชียงทองกันครับ ศิลปะล้านช้าง สวยงามมาก.........ประวัติวัดเชียงทอง วัดเชียงทอง ถือเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมล้านช้าง ณ เมืองพระบาง มีหลังคาซ้อน 3 ชั้น รูปทรงหลังคาผายกว้างออกเรียกว่าหลังคาปีกนก ทั้งภายในและภายนอกสิม(อุโบสถ)ล้วนมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นลายรดน้ำลงรักปิดทองเป็นเรื่องราวนิทานพื้นบ้านและเรื่องเกี่ยวกับศาสนา และหากเดินมาทางด้านหลังสิมก็จะเห็นลวดลายประดับกระจกสีเป็นรูปต้นไม้ใหญ่ มีนกและสัตว์นานาชนิด ซึ่งต้นไม้นั้นก็คือต้นทอง หรือต้นงิ้ว ที่พระเจ้าศรีสว่างวัฒนาได้โปรดฯ ให้ช่างทำไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึง ชื่อเชียงทอง หมายความถึง ป่าต้นทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ดั้งเดิมบริเวณนี้นั่นเอง
มาถึงวัดเชียงทองทั้งที ต้องไปใหว้พระให้เป็นสิริมงคลก่อนนะครับ
วัดเชียงทองสวยงามจริงๆ ใคร หากมาหลวงพระบางแล้ว เพื่อนๆอย่าลืมมาแวะไหว้พระที่นี้นะครับ
ไม่ไกลนักก่อนกลับไปที่พัก วัดเชียงทองอยู่ใกล้ๆ แม่น้ำโขงไหลผ่าน มีท่าเรืออยู่ใกล้ๆวัดด้วยครับ
เวลาเกือบ 11 โมงผมก็เดินทางเข้าที่พัก เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่โรงแรมให้หารถโดยสารเดินทางไปเที่ยวที่น้ำตกกวางสีครับ พอดีช่วงนั้นวันหยุดเยอะเลยได้แชร์ค่ารถกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปน้ำตก เลยไม่ต้องเหมารถแพงครับ บรรยากาศน้ำตกกวางสี มีน้ำไหลตลอดทั้งปีครับ สวยงามมากๆครับ
มารู้จักน้ำตกกวางสีกันครับ ชือของน้ำตกกวางสี หมายถึง กวางหนุ่มที่เขาเพิ่งเริ่มงอก (ภาษาไทยเรียกกวางซีหรือกวางเขาซี) น้ำตกวางสีเป็นน้ำตกหินปูน สายน้ำทิ้งตัวจากหน้าผาสูงกว่า 70 เมตร สู่แอ่งน้ำกว้างเบื้องล่าง ทำให้เกิดละอองฝอยของไอน้ำพุ่งกระจายทั่วบริเวณ โดยบริเวณด้านล่างน้ำตกจะมีสะพานและเส้นทางให้เดินในชมมุมต่างๆ ตลอดจนมีที่นั่งให้ชมทิวทัศน์และพักผ่อนหย่อนใจ น้ำตกกวางสีมีน้ำไหลตลอดปี อากาศเย็นสบาย แต่ช่วงที่สวยที่สุดคือ ปลายฝนต้นหนาว เพราะน้ำจะใส ป่าจะเขียว อนุญาตให้เล่นน้ำได้เป็นบางจุดตามป้ายเตือนไว้เท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากใกล้ชิดน้ำตกก็มีทางเดินด้านข้างให้เลาะไปยังชั้นบน ซึ่งควรระมัดระวังในการเดินเพราะจะเป็นเส้นทางที่ลื่นชันเพื่อนๆท่านใดมาหลวงพระบาง แวะมาเที่ยวได้ครับ
หลังจากที่ผมได้ไปชื่นชมอยู่กับน้ำตกกวางสี เวลาเกือบ 5 โมงเย็นก็เดินทางกลับหลวงพระบางครับ ตกประมาณ 1 ทุ่มก็ได้เวลาหาอะไรทานแล้วครับ วันนี้เลยจัดเต็มก่อนเดินทางกลับ เพราะนอนเป็นคิืนสุดท้ายแล้ว ไปเดินตลาดมืด
วันนี้ขอทานอาหารบุฟเฟ่ต์ไม่อั้นตักได้แค่รอบเดียว ราคา 1000 กีับครับ เลือกทานได้เลยครับ น่ากินทั้งนั้นครับ
จัดเต็มก่อนกลับครับ บุฟเฟ่ต์ผมตักมาแล้วเยอะจริงๆครับ ส่วนใหญ่เยอะกับข้าวครับ ตักได้แค่รอบเดียวจริงๆครับ ลองไปทานดูครับ อร่อยไม่อร่อยก็ค่อยว่ากันเลือกได้หลายร้านเลย
หลังจากทานอาหารบุฟเฟ่ต์ฉบับหลวงพระบางเสร็จ ผมก็เดินไปชมของที่ระลึกที่หลวงพระบางต่อ เพื่อซื้อให้เพื่อนๆที่ทำงานครับ กะซื้อไปหลายอันเลยครับ น่ารักดี
หลังจากที่วันที่ 22 ต.ค.55 ผมเดินทางเที่ยวทั้งวัน กลับมาผมก็มานั่งเขียนบันทึกการเดินทางใส่สมุดโน๊ตต่อของผม ก่อนจะนอนให้เต็มอิ่ม เตรียมเดินทางกลับ .....เช้าวันที่ 23 ต.ค.55 ผมรีบตื่นตั้งแต่เช้า อาบน้ำทำภารกิจให้เสร็จ เก็บของใส่กระเป๋าเป้ เตรียมเดินทางกลับ โดยผม check out ออกจากที่พักประมาณ 7.30 ได้ต้องมาทีี่ขนส่งหลวงพระบางให้ทันตั่วรถ เสียค่าใช้จ่ายไป 130000 กีบครับ รถออกเวลา 8.00 โมงเช้า
เวลา 8.00 ของวันที่ 23 ต.ค.55 คนขับรถบีบแตร่แจ้งให้ทราบว่ารถจะออกแล้วผุ้โดยสารทุกคนเตรียมตัวขึ้นรถ ผมนำเป้ใส่รถไว้ เตรียมตัวเดินทางระยะไกลอีกครั้ง กับการขับรถวนบนภูเขาสลับไปมาอีกครั้ง ครั้งนี้ต้องบอกเลยครับว่านานมากๆครับ ระยะทางจากหลวงพระบางไปเวียงจันทร์แค่ 370 กิโลเมตร แต่รถออกจากหลวงพระบาง 8 โมงเช้า ถึงเวียงจันทร์ 2 ทุ่ม แสดงว่าเดินทาง 12 ชั่วโมงเต็มเลยครับ ....พอถึงเวียงจันทร์ผมก็แชร์ค่ารถกับคนไทย ที่ติดรถมาด้วยกันเช่าไปด่าน เพื่อข้ามมาฝั่งไทยให้ทันก่อนด่านปิด และเดินทางต่อไปที่ขนส่งจังหวัดอุดรให้ทันเที่ยวรถรอบสุดท้าย 5 ทุ่มครึ่ง เพือเดินทางกลับกรุงเทพอย่างปลอดภัยครับ ขอบพระคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ติดตามการเดินทางลุยเดี่ยวของผมครั้งนี้ ....ากเพื่อนๆท่านใด มีประสบการณ์เดินทางดีๆ หรือต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนำมาแบ่งปันกันได้ทาง facebook ของผมได้ที่ https://www.facebook.com/khundenbackpacker ------------------------------------------------------
สวยจัง
น่าไปเที่ยวจัง
ภาพวิวสวยมาก ขอบคุณที่เอามาแชร์ อยากไปบ้างแต่กำลังทรัพย์ไม่อำนวย ขอติดตามผลงานของ จขกท ต่อไป
ทำไม ตั๋วรถ เป็นปี 2011 หว่า????
อยากสอบถามค่าใช้จ่าย คน/ทิป สนใจครับแล้วจะมาขอรายระเอียดอีกครับ
1กีบ เท่ากะกี่บาทค่ะจะบอกว่าโง่ก็ได้มะรู้เบยจิงๆ
ตอนนี้ 266 กีบเป็น 1 บาทไทยค่ะ ถ้าจะจ่ายเป็นเงินบาทต้องเอา 260 หารเท่านั้นค่ะ แต่ถ้ามีเศษก็ต้องปัดขึ้น เช่น 150,000 กีบ/260 = 576 บาทก็จะปัดเป็น 580 บาท อะไรทำนองนี้ สินค้าพื้นบ้านของลาวถูกมากค่ะ แต่ถ้าอันไหนจะต้องมาซื้อจากไทยหรือที่อื่นๆ แล้วเอาไปขาย เราว่าแพงนะถ้าเทียบกับบ้านเรา
ถ้าจะไปเที่ยวสักต้นเดือน ก.ค. สภาพอากาศจะได้มั้ยคะ และไปแบบสาวๆ2คนจะอันตรายมั้ยคะ
ผมจะเดินทางไปวันที่ 4-7 ก.ค.นี้ เริ่มต้นที่ อุดรธานี เส้นทางคงสวยงาม ชุ่มช่ำ อยากไปให้ถึงหลวงพระบาง
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี