หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: กฎหมายน่ารู้ ก่อนคิดมี ชู้!  (อ่าน 2361 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 22 พ.ค. 13, 13:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

กฎหมายน่ารู้ ก่อนคิดมี ชู้!




ความรักบันดาลความสุขให้ทุกคนเท่าๆ กัน แต่บางครั้งความรักก็นำพาความวุ่นวายและปัญหาต่างๆ มาสู่ชีวิตของเราได้ หากไม่เข้าใจกันหรือไม่ซื่อสัตย์ต่อชีวิตคู่ของตัวเอง ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ปัญหาต่างๆ ก็ต้องใช้กฎหมายเข้ามาช่วยเหลือ ไม่เว้นแม้กระทั่งการคบ ชู้

คุณตุ๊ก-วิมลเลขา ศิริวรรณราชัย พิธีกรร่วมรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง (ช่วงกฎหมาย) และทนายความประจำสำนักงานทนายดารา ได้อธิบายกฎหมายเกี่ยวกับ “ชู้” ให้ฟังอย่างละเอียดว่า



ปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าผู้ชายไปมีกิ๊กหรือมีชู้ แล้วผู้หญิงที่เป็นเมียหลวงจะเรียกร้องสิทธิได้อย่างเดียว เพราะถ้าผู้หญิงมีชู้หรือไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น สามีที่จดทะเบียนสมรสก็มีสิทธิเรียกร้องจากภรรยาได้เช่นเดียวกัน (แต่ถ้าคุณไม่จดทะเบียนสมรสก็หมดสิทธินะจ๊ะ) ซึ่ง สิทธิในการเรียกร้องจากศาลมีอยู่ 2 แบบ คือ

1. ค่าทดแทน เราสามารถเรียกร้องฝ่ายชู้และคนของเราเองได้ ในกรณีที่คนนั้นๆ ต้องแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีหรือภรรยาของคนอื่น เขาก็ถูกเรียกร้องสิทธินี้ได้ หรือมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา เช่น รูปถ่าย มีพยานบุคคลไปเห็นว่าเขาอยู่กินร่วมกัน มีสถานการณ์ที่จะสันนิษฐานว่ามีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนในเชิงชู้สาวทาง เพศหรือเปล่า ถ้ามีก็ฟ้องได้ ขณะเดียวกันคนที่เป็น ภรรยาหลวงหรือสามี ก็ต้องไม่ได้แสดงพฤติกรรมในลักษณะให้อภัยหรือรู้เห็นเป็นใจ ถ้าคุณให้อภัยเมื่อไหร่ ค่าทดแทนที่คุณจะเรียกร้องได้นี่หมดสิทธิไปเลย และการเรียกร้องค่าทดแทน จะพิจารณาเกียรติยศและชื่อเสียของฝ่ายที่เสียหาย เช่น เมียหลวง เป็นคนมีชื่อเสียงในสังคมมาก การเรียกร้องค่าทดแทนก็สูงตามไปด้วย รวมทั้งพิจารณาจากสินสมรสที่อีกฝ่ายได้ไปแล้วด้วย แต่ถ้าคุณมีหลักฐานไม่ใช่ชัดเจนเพียงพอ แล้วไปฟ้องร้องเขา หากศาลยกฟ้องว่าไม่มีหลักฐานชัดพอว่าเขาเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีเรา เราก็อาจถูกเขาฟ้องกลับได้ในฐานะหมิ่นประมาท เนื่องจากทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงได้เช่นเดียวกัน

2. ค่าเลี้ยงชีพ นอกจากเรื่องการแบ่งสินสมรสกันแล้ว ถ้าเกิดหย่าไปแล้วทำให้อีกฝ่ายยากจนลง เขาสามารถมาเรียกค่าเลี้ยงชีพได้ โดยศาลจะพิจารณาจากฐานะ สมมุติว่าผู้หญิงรวยมาก หย่าไปก็ไม่ได้ลำบากอะไร ตรงนี้ค่าเลี้ยงชีพก็อาจได้น้อยหรือไม่ได้เลย เพราะดูที่ความสามารถและฐานะของคู่สมรสด้วย



ทะเบียนสมรสกับสิทธิของลูก

1. ถ้าพ่อแม่ไม่จดทะเบียนสมรส ลูกที่เกิดจะไม่ใช่ลูกโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้สิทธิอะไรจากพ่อเลย เพราะถือเป็น ‘บุตรนอกสมรส’หรือ ‘บุตรไม่ชอบด้วยกฎหมาย’ (แต่ลูกจะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของแม่เสมอ เนื่องจากฝ่ายหญิงเป็นคนอุ้มท้องและเป็นผู้ให้กำเนิด ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 ว่า เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้สมรสกับชาย ให้ถือว่าเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายหญิง) แต่ถ้าอยากจะให้ลูก เป็น “บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย” ซึ่งเด็กจะได้รับสิทธิ 2 ประการ คือสิทธิในการที่พ่อต้องอุปการะเลี้ยงดูลูก และสิทธิเป็นทายาทคือได้มรดกเมื่อพ่อตาย ทำได้ 3 วิธี คือ 1.พ่อแม่จดทะเบียนสมรสกันภายหลัง 2.พ่อทำการจดทะเบียนรับเด็กเป็นลูก หรือ 3.ศาลมีคำสั่งพิพากษาว่าเด็กเป็นลูก แต่ถ้าทำไม่ได้สักทางเลย ก็ยังมีทางที่เด็กคนนี้จะได้รับสิทธิอยู่ แต่วิธีนี้จะได้สิทธิแค่เพียงประการเดียวคือ พฤติการณ์ต้องเข้าลักษณะว่าพ่อรับรองลูกโดยพฤตินัยแล้ว เช่น การที่ฝ่ายชายให้เด็กใช้นามสกุล ส่งเสียเลี้ยงดู ให้เรียนหนังสือหรือบอกกับชาวบ้านว่าเด็กเป็นลูกของตัว แต่เด็กจะเข้าสู่ฐานะเป็น ‘ผู้สืบสันดาน’ คือได้รับมรดกเมื่อพ่อตายเท่านั้น แต่ไม่ได้สิทธิเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดู

2. ถ้าพ่อแม่จดทะเบียนสมรส ลูกจะได้รับการคุ้มครอง ลูกที่เกิดมาโดยชอบด้วยกฎหมายของพ่อแม่ จะมีสิทธิมากมายในฐานะบุตร เช่น พ่อแม่มีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูส่งเสียให้ลูกได้เล่าเรียนมีการศึกษา หรือถ้าใครมาทำให้สามีหรือภรรยาถึงแก่ความตาย เช่น คนอื่นขับรถโดยประมาทมาชน เป็นเหตุให้สามีหรือภรรยาถึงแก่ความตาย คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่รวมทั้งลูก ก็มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากการขาดไร้อุปการะได้ เพราะหน้าที่ในการอุปการะนี้เป็นหน้าที่ที่คู่สมรสหรือพ่อ-แม่-ลูกที่ต้อง ปฏิบัติต่อกัน แต่คนนอกมาเป็นต้นเหตุให้การอุปการะนั้นหายไป



ทะเบียนสมรสกับชีวิตคู่
ทะเบียนสมรสไม่ใช่แค่ แผ่นกระดาษที่มีไว้ประกาศความเป็นเจ้าของ หรือมีไว้เพื่อประคองกอดให้สะใจเล่นๆ หรือเพื่อให้กฎหมายรองรับสถานะเท่านั้น แต่ทะเบียนสมรสมีค่ามากกว่านั้น…เพราะทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานทางกฎหมายที่ ทำให้สามีภรรยาได้ทั้งสิทธิและหน้าที่ต่อกันในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง การจัดการงานบ้านงานเรือน การอบรมเลี้ยงดูลูก และสิทธิที่จะอ้างความเป็นสามีหรือภรรยาไปยันกับคนนอก เช่น การเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด หากว่ามีใครมาทำสามีหรือภรรยาเราตาย โดยเราสามารถอ้างได้ว่าทำให้เราขาดไร้ผู้อุปการะ หรือสิทธิรับมรดกหากเราอายุยืนกว่าคู่สมรสเรา และการป้องกันคนนอกมายุ่งเกี่ยวกับคู่ชีวิตของเรา



มีสติและหนักแน่น
“ในฐานะคนเป็นหลวงไม่ ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา ก็ขอให้มีสติ บางอย่างเราก็ต้องหนักแน่น บางทีฟังเสียงนกเสียงกามากไป มันทำให้เราลังเลและจินตนาการมากไปว่าคนของเรามีชู้จริงๆ ก็เกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ถ้าเช็คข้อมูลไม่ดี ไปฟ้องร้องแล้วเราก็มีสิทธิที่จะบาดเจ็บได้เหมือนกัน หรือถ้าคุยกันได้ในครอบครัวก็อย่าเพิ่งหย่ากันเลย จนกว่าเราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ เพราะทะเบียนสมรสมันให้สิทธิคุ้มครองคนทั้งคู่เยอะมาก”



ที่มา : http://variety.teenee.com/foodforbrain/52867.html
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 พ.ค. 13, 13:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*073


Jesus loves you and so do I.
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  ชู้ กฎหมาย 

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม