หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ไทยลุ้น! พายุหวู่ติ๊บ ถล่มซ้ำพื้นที่น้ำท่วม จ่อแรงเป็นไต้ฝุ่น  (อ่าน 352 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 28 ก.ย. 13, 16:10 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ไทยลุ้น! พายุหวู่ติ๊บ ถล่มซ้ำพื้นที่น้ำท่วม จ่อแรงเป็นไต้ฝุ่น



(28 ก.ย.) สำนักงานเฝ้าระวังไต้ฝุ่นสหรัฐฯ (JTWC) เกาะติดรายงานการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน "หวู่ติ๊บ" (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ กำลังเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก มุ่งหน้าเข้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียดนาม โดยที่การคาดการณ์ว่า พายุโซนร้อนหวู่ติ๊บ จะเพิ่มกำลังความรุนแรงขึ้นเป็น พายุไต้ฝุ่น ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) ก่อนจะขึ้นชายฝั่งในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้

ทางด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะอากาศว่า พายุโซนร้อนหวู่ติ๊บ มีกำลังความลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กม./ชม. เคลื่อนที่ตามทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม. ขณะนี้อยู่ห่างจากเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ไปราวๆ 600 กิโลเมตร คาดว่าพายุลูกนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนทิศทางค่อนไปทางเหนือ จะส่งผลกระทบ ทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ขณะที่สถานการณ์ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้น ในระยะนี้ไว้ด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก JTWC และ กรมอุตุนิยมวิทยา



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 28 ก.ย. 13, 16:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ 28 กันยายน 2556

พระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยกรณีแผ่นดินไหวปากีสถาน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย กรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน

เมื่อวันที่ (27 ก.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย ไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน กรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ความว่า ” ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน กรุงอิสลามาบัด ข้าพเจ้าและพระราชินีเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายในประเทศของท่าน ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริงมายังท่าน และผู้ประสบความสูญเสียจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้”

รายงาน..สถานการณ์น้ำท่วมปราจีนบุรี

ผู้อำนวยการสำนักชลประทานจังหวัดปราจีนบุรี ระบุว่ายังไม่สามารถประเมินมวลน้ำที่ไหลผ่านช่องของคันคลองชลประทานที่ขาดได้ แต่เบื้องต้นมีพื้นที่ 7 ตำบลใน 3 อำเภอจะได้รับผลกระทบ

ถนนคลองชลประทาน ที่กั้นบริเวณหมู่ 3 ด้านบ้านปากแพรก ตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งถูกน้ำกัดเซาะจนขาด ตอนนี้น่าจะมีความยาวมากกว่า 20 เมตร ส่งผลให้น้ำที่เอ่อล้นอยู่แม่น้ำปราจีนบุรี ไหลทะลักผ่านช่องขาดอย่างรวดเร็ว เดิมทีจังหวัดมีแผนที่จะนำกระสอบทรายเข้ามาเสริมแนวคันกั้นน้ำบริเวณนี้ตั้งแต่ช่วงเช้า หลังดินอุ้มน้ำไว้เต็มที่ และมีแนวโน้มจะพังแต่ไม่ทันการ ตอนนี้น้ำได้ทะลักอย่างรวดเร็วเข้าท่วมทุ่งนาข้าวภายใน 3 ชั่วโมง นาข้าวเกือบทั้งหมดจมหายไปกับน้ำ และกำลังล้นเข้าท่วมชุมชนเกาะแดง เป็นจุดแรก ผู้นำชุมชนได้ประกาศเตือนให้ลูกบ้านเร่งอพยพออกมาอยู่ยังที่ปลอดภัย ซึ่งมีการจัดเตรียมไว้ เนื่องจากคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจนหมู่บ้านถูกตัดขาด โดยหมู่บ้านนี้มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 400 ครอบครัว กรมชลประทานคาดการณ์ว่า จะมีพื้นที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 7 ตำบลใน 3 อำเภอประกอบด้วย ตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี ตำบลประจันตคาม, ตำบลเกาะลอย, ตำบลบ้านหอย อำเภอประจันตคาม ตำบลสัมพันธ์ และตำบลบ้านทาม อำเภอศรีมหาโพธิ และตำบลบางบริบูรณ์ อำเภอเมือง

จึงเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมรับกับปริมาณน้ำที่หลากเข้าท่วมจากนี้ไป ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ประเมินภาพรวมของมวลน้ำที่ท่วมขังในจังหวัดปราจีนบุรีตอนนี้ว่า อยู่ที่ 452 ล้านลูกบาศก์เมตร ประกอบกับยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่รับน้ำที่จะเข้ามาเติมที่จังหวัดปราจีนบุรี

นอกจากนี้ยังได้สั่งกำชับให้เฝ้าระวังคันกั้นน้ำในหลายจุดที่ถูกกัดเซาะ และมีแนวโน้มที่จะขาดเหมือนกันที่บ้านปากแพรก เพราะการที่คันคลองขาดจะทำให้ไม่สามารถควบคุมทิศทางการไหลของน้ำได้ ซึ่งจะส่งผลให้ความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 28 ก.ย. 13, 16:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไขประเด็นดัง สั่งรับมือพายุลูกใหม่จ่อถล่ม 35 จังหวัด


กรมอุตุฯเตือนฝนถล่มยาวถึง 1 ต.ค. 35 จังหวัดส่ออ่วม

ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ระหว่าง 17-25 ก.ย. ได้รับผลกระทบ 27 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อน 4.9 แสนครัวเรือน 1.7 ล้านคน บ้านเสียหาย 4 พันหลัง พื้นที่เกษตรเจ๊ง 6.6 แสนไร่ ทร.เร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำช่วยปราจีนบุรี-กทม. ส่วนที่อุบลฯ น้ำป่าพัดคอสะพานขาด พิจิตรน้ำหลากท่วมชุมชนร่มเกล้า ด้านชุมชนกทม.ริมเจ้าพระยาเริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเกือบ 2 ล้านคน ขณะที่พื้นที่การเกษตร บ้านเรือน ถนนหนทาง ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

โดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วม ในการประชุมกระทรวงมหาดไทยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.จนถึงปัจจุบัน เกิดสถานการณ์อุทกภัย รวม 27 จังหวัด 172 อำเภอ 926 ตำบล 6,647 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 499,270 ครัวเรือน 1,798,270 คน บ้านเรือนเสียหาย 4,069 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 659,077 ไร่ ถนน 850 สาย สะพาน 59 แห่ง

ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และยโสธร ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกาญจนบุรี

ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก และฉะเชิงเทรา ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี และชุมพร และยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 25 จังหวัด แยกเป็นน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง 22 จังหวัด น้ำล้นตลิ่ง 3 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสุพรรณบุรี

นายฉัตรชัย กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วม ได้สั่งการนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำชับ ปภ.ประสานการดำเนินงานกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า พร้อมให้บูรณาการการช่วยเหลือ

ข่าวบันเทิงบน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 28 ก.ย. 13, 16:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

‘ปลอดประสพ‘ ยันปีนี้น้ำไม่ท่วมใหญ่ กทม.


(28 ก.ย.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นขณะนี้รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญและติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก อุทกภัยที่เกิดขึ้นนั้น มาจากฝนที่ตกในช่วงท้ายเขื่อน ทำให้การเก็บกักน้ำนั้นกระทำไม่ได้ จึงเกิดปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ขณะนี้ในส่วนของภาคเหนือนั้นหากมีฝนตกเพิ่ม ก็จะไม่มีน้ำป่าไหลลงมาอย่างแน่นอน เนื่องจากในส่วนของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงสามารถกักเก็บน้ำได้อีกกว่า ร้อยละ 50 จึงจะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วม เหมือนในปี 2554 อย่างแน่นอน

ส่วนปัญหาการแก้ไขนั้น ภาคตะวันออกซึ่งยอมรับว่ากระทำได้ยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มและมีการระบายน้ำได้ยาก จึงต้องติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดต่อไป พร้อมยืนยันว่า ในปีนี้ กรุงเทพมหานคร จะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่เหมือนในปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้มีการตั้งคณะทำงาน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 28 ก.ย. 13, 19:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แผ่นดินไหวปากีสถานอีกรอบ 6.8 ริกเตอร์


ดินไหวเขย่าปากีสถานอีกรอบ 6.8 ริกเตอร์ ในภูมิภาคเดียวกับวันอังคารที่ผ่านมา เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้เสียชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวอีกครั้ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของปากีสถาน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริกเตอร์ ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย

รายงานของ สำนักธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) ระบว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ห่างจากเมืองท่า ในนครการาจี ประมาณ 250 กม. แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงเมืองเควตตา เมืองชายแดนระหว่างปากีสถาน และอัฟกานิสถาน ขณะที่ สำนักอุตุนิยมวิทยาของปากีสถาน รายงานว่า แผ่นดินไหววัดได้ 7.2 ริกเตอร์ แต่เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหาย หรือมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด

นายอารีฟ มาห์มูด หัวหน้างานอุตุนิยมวิทยาปากีสถาน กล่าวว่า เป็นความระทึกใจเกี่ยวกับแผ่นดินไหวอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 400 ราย จากเหตุแผ่นดินไหว 7.7 ริกเตอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และมีผู้ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน

ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดเกาะใหม่ในน่านน้ำของปากีสถาน มีความยาวประมาณ 200 เมตร ใกล้กับท่าเรือกวาดาร์ ด้วย
ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 29 ก.ย. 13, 07:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

กรมอุตุฯ เตือน พายุ หวู่ติ๊บ(WUTIP) ฉบับ4


กรมอุตุฯ ประกาศ เตือ พายุ หวู่ติ๊บ ฉบับที่ 4 คาด จะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบน วันที่ 1 ต.ค. กระทบ ตะวันออกภาคอีสานของไทย มีฝนเพิ่ม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (28 ก.ย. 56) พายุโซนร้อน “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 600 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นจะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัว ไปทางเหนือมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะส่งผลกระทบ ทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้น ในระยะนี้ไว้ด้วย

ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 29 ก.ย. 13, 07:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เตือน พายุโซนร้อน หวู่ติ๊บ เคลื่อนตัวพัดเข้าเวียดนาม 1 ต.ค. นี้ กรมชลฯ เร่งพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนพระรามหกเป็นระยะ ๆ เตือน ปชช. ยกของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์

วันนี้ (28 กันยายน 2556) นายภาณุกิจ ดิษพึ่ง ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 10 เผยว่า เนื่องจากพายุโซนร้อน หวู่ติ๊บ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเข้าฝั่งเวียดนามตอนบนในวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ดังนั้น จึงต้องเริ่มระบายน้ำท้ายอ่างเพิ่มขึ้นเป็นระยะ ๆ และจะระบายน้ำสูงสุดในเกณฑ์ 200 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อรวมปริมาณน้ำระหว่างทางที่ไหลลงแม่น้ำป่าสักก่อนถึงหน้าเขื่อนพระรามหกอีกประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร จะทำให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนพระรามหกยู่ในเกณฑ์ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงเย็นของวันที่ 29 กันยายน ซึ่งจะมีระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักท้ายอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น 65 เซนติเมตร ในท้องที่จังหวัดสระบุรี และด้านเขื่อนพระรามหกเพิ่มขึ้นประมาณ 120 ถึง 150 เซนติเมตร ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลากเนื่องจากอิทธิพลดังกล่าว จึงขอให้บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก และประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำ ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นบนที่สูง หรือที่ปลอดภัยจากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะต่อจากนี้ และขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ล่าสุดมีรายงานว่าขณะนี้ สถานการณ์น้ำพื้นที่ด้านตะวันออก จังหวัดนครนายกและจังหวัดลพบุรีบางส่วนเริ่มไม่ค่อยดีนัก โดยในขณะนี้ ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักพุ่งขึ้นเกินร้อยละ 90 ของเขื่อนแล้ว และด้านเขื่อนขุ่นด่านปราการชล ก็ทะลุถึงร้อยละ 99 แล้ว



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 29 ก.ย. 13, 10:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ขณะนี้ ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ พบว่า ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาเมื่อคืนจนถึงช่วงเช้า แต่ไม่หนักมากนัก โดยบริเวณถนนทางเข้าเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ ระดับน้ำที่ท่วมพื้นผิวการจราจร ลดลงเหลือประมาณ 15-20 เซนติเมตร และท่วมถนนเป็นระยะ แต่หากเข้าไปในพื้นที่ ต.ท่าตูม ในส่วนของหมู่บ้านที่อยู่ติดแม่น้ำ ระดับน้ำยังคงท่วมสูงกว่า 2 เมตร

ซึ่งการสัญจรของชาวบ้าน ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เจ้าหนัาที่อาสาสมัคร มูลนิธิจตุรธรรมประทีป จาก จ.ชลบุรี นำรถยนต์ 37 คัน และเจ้าหน้าที่กว่า 150 คน เพื่อนำข้าวสาร อาหารแห้ง เข้าไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วม ต.ท่าตูม จำนวน 5 หมู่บ้าน

ทางด้านของนิคมอุตสาหกรรม 304 หลังจากที่เมื่อคืนมีฝนตกลงมานั้น ส่งผลให้น้ำท่วมบริเวณถนนด้านในนิคมฯ บางจุด แต่เจ้าหน้าที่สามารถระบายน้ำได้เกือบหมดแล้ว พร้อมกันนี้ ทางนิคมฯ ได้วางแนวถุงบิ๊กแบ็กเพื่อป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว

และวันนี้ ในช่วงเวลา 10.30 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการจะเดินทางมาตรวจประตูระบายน้ำท่าแห ที่ อ.ศรีมหาโพธิ

ผอ.ภัยพิบัติ ลั่น ปราจีนฯไม่ท่วมกว่านี้-30ก.ย.อุบลฯอ่วม

น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ขณะนี้ ปราจีนบุรี เป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในประเทศ แต่หลังจากที่คันกั้นน้ำพังลง และมีการผันน้ำออกให้ท่วมทุ่ง ระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ จ.ปราจีนบุรี จะไม่ท่วมหนักไปกว่านี้แล้วแน่นอน มีแต่ทรงตัวกับลดลงไปเรื่อยๆ เพราะน้ำจะไหลลงไปสู่ที่ อ.บางคล้า จ. ฉะเชิงเทรา ซึ่งจะเป็นในลักษณะน้ำท่วมทุ่ง คนริมแม่น้ำได้รับผลกระทบบ้าง

อย่างไรก็ตาม คาดว่า จ.ปราจีนบุรี จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ทุกอย่างจะกลับมาสู่ภาวะปกติ ส่วนการแก้ไขพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากนั้น กำลังดำเนินการตามแผน อีก 3 ปี จะไม่ประสบอุทกภัยหนักเช่นนี้อีกแล้ว

ทั้งนี้ หลังวันที่ 30 กันยายน สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ พายุหวู่ติ๊บ ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนาม ส่งผลกระทบต่อไทย ต้องเฝ้าระวังอย่างยิ่งในพื้นที่อีสาน บริเวณริมน้ำโขง โดยเฉพาะที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จุดที่แม่น้ำชีกับแม่น้ำมูลไหลบรรจบกัน ก่อนจะลงสู่แม่น้ำโขงต่อไป

น้ำท่วมปราจีนบุรี ยังวิกฤติ ขณะศรีสะเกษ หวั่นโดนรอบ 2

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายหลังมีฝนตกหนักติดต่อกัน ล่าสุด หลายพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง มีน้ำท่วมขังสูง อาทิ อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมวลน้ำเหนือที่ไหลลงมาสมทบ ทำให้บางจุดมีปริมาณน้ำสูงกว่า 1 เมตร

ขณะที่มีรายงานว่า มวลน้ำจากลำน้ำชี ที่ไหลมาจาก จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม และ จ.สุรินทร์ ได้ไหลเข้ามาสมทบกับแม่น้ำมูลที่ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลทำให้ลำห้วยเสียว ซึ่งเป็นลำน้ำสาขามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านใน อ.ศิลาลาด วิตกกังวลเกรงว่าน้ำจะเอ่อล้นไหลเข้าท่วมไร่นาและบ้านเรือน จึงเร่งทำคันกั้นน้ำ และช่วยกันเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำใน จ.ศรีสะเกษ นั้น ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากยังคงมีประกาศเตือนและมีฝนตกหนักในพื้นที่อยู่ จึงอาจจะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ที่เคยถูกน้ำท่วมเดิมได้อีกครั้งเป็นรอบที่ 2



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 29 ก.ย. 13, 11:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

นาข้าวปราจีนบุรีถูกน้ำท่วม หลังถนนคันคลองชลประทานขาดเสียหายแสนไร่



ปราจีนบุรี - นาข้าวปราจีนบุรีถูกน้ำท่วม หลังถนนคันคลองชลประทานขาด เสียหายแสนไร่ ล่าสุด ท่วมแล้ว 7 อำเภอ ขณะที่รถไฟปราจีนบุรี-อรัญประเทศ ยังงดเดินรถ

วันนี้ (28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ปราจีนบุรี ว่า ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากถนนชลประทาน หมู่ 3 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ถูกน้ำเซาะอย่างหนักจนขาดกว้างประมาณ 40 เมตร น้ำทะลักอย่างรวดเร็วเข้าทุ่งนา ต.วังดาล นาข้าวจมน้ำนับแสนไร่

นอกจากนี้ ถนนยังถูกน้ำกัดเซาะเสี่ยงขาดอีกจุด ชาวบ้านต้องช่วยกันนำดินมาถมให้แน่นขึ้น สำหรับถนนชลประทานสายดังกล่าว มีความยาวประมาณ 15 กิโลเมตร สร้างด้วยคันดินอัดแน่นกว้าง 6 เมตร ยาวตลอดแม่น้ำปราจีนบุรี ระหว่าง ต.กบินทร์ ไป ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี และ ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ

ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์หนักที่สุด มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ หนักสุดที่ อ.กบินทร์บุรี ชุมชนตลาดเก่าริมแม่น้ำปราจีนบุรี น้ำท่วมสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัว ถูกตัดขาด ตลาดเทศบาลตำบลกบินทร์ และย่านการค้าน้ำท่วมทั้ง 5 ชุมชน สูงเกือบ 2 เมตร

ส่วนพื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลตำบลกบินทร์บุรี น้ำท่วมถนน 304 มวลน้ำจากแควพระปรงที่ไหลลงคลองนางเลง เอ่อล้นถนนตลอดแนวสะพานบ้านนางเลง หมู่ 5 ต.เองเก่า อ.กบินทร์บุรี ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 30 เซนติเมตร ส่วนรถไฟสายปราจีนบุรี-อรัญประเทศ ยังคงหยุดเดินรถชั่วคราวเนื่องจากมีน้ำท่วมราง และล่าสุด น้ำท่วมนิคมอุสาหกรรม 304 แล้ว



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 30 ก.ย. 13, 03:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชาวนาสุโขทัยขู่ปิดทางเข้าออกสนามบิน กดดันเปิดทางน้ำไหลผ่าน



กลุ่มเกษตรกรสุโขทัยสุดทน ขู่ปิดทางเขาออกสนามบินสุโขทัย หากไม่ยอมเปิดทางน้ำไหลผ่าน หลังคันดินของสนามบินทำน้ำท่วมที่นา 4 ตำบล และอีกหลายตำบลต้องแล้วน้ำ เพราะน้ำถูกกั้นไม่ให้ไหลลงมา

วันนี้ (29 กันยายน 2556) นางจำเรียง ศรีสวัสดิ์ พร้อมด้วยชาวนา ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก สุโขทัย ที่ประสบภัยน้ำท่วมนาข้าว กล่าวทั้งน้ำตาขอให้ทางสนามบินสุโขทัย เห็นใจชาวนา ช่วยเปิดทางให้น้ำป่าจากห้วยแม่ท่าแพไหลผ่าน หลังมวลน้ำป่าที่ไหลมาจากห้วยแม่ท่าแพไม่สามารถไหลผ่านได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากติดคันดินของทางสนามบินที่ทำขึ้นมาในบริเวณที่กว้านซื้อที่ของชาวบ้านไป เพื่อป้องกันน้ำท่วมที่ดินของสนามบินสุโขทัย เป็นผลให้น้ำป่าห้วยแม่ท่าแพซึ่งไม่สามารถไหลผ่านลงไปกักเก็บในแหล่งน้ำธรรมชาติได้ ไหลท่วมที่นาของเกษตรกรใน 4 ตำบล ได้แก่ ต.ย่านยาว, ต.ท่าทอง, ต.หนองกลับ และ ต.คลองกระจง จำนวนกว่า 6,000 ไร่ จมน้ำได้รับความเสียหาย

ล่าสุด ทางเกษตรกรแต่ละรายต่างต้องทำแนวกั้นน้ำท่วมนาของตนเอง แต่ระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ขณะที่เกษตรกรอีกหลายตำบลของ อ.สวรรคโลก และ อ.ศรีสำโรง ก็ต้องประสบภัยแล้งจากที่น้ำป่าห้วยแม่ท่าแพ ถูกปิดกั้นจากการเสริมคันดินสูงของทางสนามบิน

ที่ผ่านมาทางกลุ่มเกษตรกรได้ขอเข้าพบกับผู้ทางผู้บริหารของสนามบินสุโขทัยหลายครั้งแล้ว เพื่อขอวิงวอนกับทางเจ้าของสนามบินให้เห็นใจชาวนาที่นาข้าวถูกน้ำท่วม แต่ก็เข้าพบไม่ได้สักครั้ง สำหรับครั้งนี้ ทางกลุ่มเกษตรกรได้ขอให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบลงมาตรวจสอบที่ดินที่ทางสนามบินกว้านซื้อไป ซึ่งประกอบด้วยที่ดินสาธารณะปะปนอยู่หลายร้อยไร่ และตอนนี้ทางกลุ่มเกษตรกรที่ต้องประสบภัยน้ำท่วมนาข้าวและเกษตรกรที่ไม่มีน้ำทำนา ได้นัดหมายเพื่อรวมตัวปิดทางเข้าออกของสนามบินสุโขทัย หากทางสนามบินสุโขทัย ยังไม่เห็นใจชาวนาที่ต้องประสบภัยน้ำท่วมนาข้าวครั้งนี้




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 30 ก.ย. 13, 03:23 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

นายกฯ ตรวจ น้ำท่วมปราจีนบุรี - ศรีสะเกษ อุบล อ่วมรอบ 2


นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางตรวจเยี่ยมบริหารจัดการประตูระบายน้ำกระพ้อใหญ่ และพบปะให้กำลังใจผู้ประสบภัย จ.ปราจีนบุรี ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บ้านไร่ กบินทร์บุรียังหนัก ท่วมสูง2เมตร ส่วน ศรีสะเกษ หวั่นน้ำท่วมรอบ 2

วันนี้ (29 กันยายน 2556) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และคณะรัฐมนตรีบางส่วน เดินทางจากกองบินตำรวจ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการประตูระบายน้ำกระพ้อใหญ่ (ท่าแห) ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จากนั้นจะร่วมหารือแนวทางการแก้ไขและบริหารการจัดการน้ำในพื้นที่อ.กบินทร์บุรี ณ ที่ว่าการอำเภอ พร้อมพบปะให้กำลังใจผู้ประสบภัยและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ด้วย

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่บ้านไร่ หมู่ 10 ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขณะนี้ น้ำได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทุ่งนา ที่อยู่สองข้างทาง กลายเป็นผืนน้ำเดียวกันระดับ ความสูงประมาณ 2 เมตร โดยชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า น้ำท่วมบ้านของตนมาประมาณ 2 วันแล้ว หลังจากน้ำในคลองชลประทาน กัดเซาะถนนในพื้นที่บ้านเกาะแดง ขาดเป็นทางยาว ทำให้น้ำไหลเข้ามาในพื้นที่บ้านไร่ จนเต็มพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงเพียงเล็กร้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ดี สำหรับกำหนดการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจน้ำท่วมที่ จ.ปราจีนบุรี โดยจุดแรก จะมาขึ้นรถจีเอ็มซี ของทางกองทัพบก ที่จัดเตรียมไว้ให้ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ไว้บริเวณบ้านไร่ หมู่ 10 อ.กบินทร์บุรี จากนั้นจะเดินทางไปตรวจน้ำท่วม ที่ ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน จากนั้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจประตูระบายน้ำท่าแห ที่ ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ พร้อมกับแจกถุงยังชีพไปตลอดเส้นทางด้วย ซึ่งขณะนี้ มีชุดล่วงหน้า ซึ่งเป็นทีมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี มาจัดเตรียมสถานที่ รวมถึงรถที่ใช้ในการเดินทางด้วย พร้อมกันนี้ ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมารอรับนายกรัฐมนตรีด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายหลังมีฝนตกหนักติดต่อกัน ล่าสุด หลายพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง มีน้ำท่วมขังสูง อาทิ อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมวลน้ำเหนือที่ไหลลงมาสมทบ ทำให้บางจุดมีปริมาณน้ำสูงกว่า 1 เมตร

ขณะที่มีรายงานว่า มวลน้ำจากลำน้ำชี ที่ไหลมาจาก จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม แล ะจ.สุรินทร์ ได้ไหลเข้ามาสมทบกับแม่น้ำมูลที่ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลทำให้ลำห้วยเสียว ซึ่งเป็นลำน้ำสาขามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านใน อ.ศิลาลาด วิตกกังวลเกรงว่าน้ำจะเอ่อล้นไหลเข้าท่วมไร่นาและบ้านเรือน จึงเร่งทำคันกั้นน้ำ และช่วยกันเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำใน จ.ศรีสะเกษ นั้น ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากยังคงมีประกาศเตือนและมีฝนตกหนักในพื้นที่อยู่ จึงอาจจะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ที่เคยถูกน้ำท่วมเดิมได้อีกครั้งเป็นรอบที่ 2



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 30 ก.ย. 13, 08:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เตือนหวู่ติ๊บเข้าเหนืออีสานฝนหนักมากลมแรง-กทม.70% (ไอเอ็นเอ็น)

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนพายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม วันนี้ (30 กันยายน 2556) ก่อนจะอ่อนกำลังเคลื่อนเข้าสู่ ภาคเหนือ อีสาน ทำให้ฝนหนักมาก ลมแรง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกเพิ่มขึ้น ขณะที่ กทม. ร้อยละ 70 ของพื้นที่

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (30 กันยายน 2556) พายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนามในวันนี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วโดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณ จ.นครพนม และคาดว่าจะสลายตัวบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออก มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบ่ายวันนี้

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ ไว้ด้วย

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครพนม หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบาง แห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 30 ก.ย. 13, 08:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

กรมชลประทาน เร่งพร่องน้ำออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หลังมีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน และจะพร่องน้ำต่อในเขื่อนพระรามหก เตือนประชาชนในบริเวณริมแม่น้ำป่าสัก ขนของขึ้นที่สูง รับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง

วันนี้ (29 กันยายน 2556) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่มีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน จะทำการพร่องน้ำออกสู่แม่น้ำป่าสัก และเขื่อนพระรามหกในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้น 1 เมตร หรือ 1.50 เมตร จึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ขนย้ายของขึ้นที่สูง

โดยสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ขณะนี้ มีปริมาณน้ำในอ่างมากถึง 785 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 93 แล้ว ทำให้จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำออกมากกว่า 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันนี้ (29 กันยายน) โดยน้ำทั้งหมดจะถูกระบายลงสู่แม่น้ำป่าสักและไหลลงมาที่เขื่อนพระรามหก จากนั้นกรมชลประทานจะพร่องน้ำจากเขื่อนพระรามหก ในปริมาณ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้น 1-1.50 เมตร

ทั้งนี้ จึงได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ในเขต อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง และ อ.พระนครศรีอยุธยา ให้เตรียมขนย้ายของขึ้นที่สูง และเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 30 ก.ย. 13, 09:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

หนุ่มช่วยขนของช่วยน้ำท่วมพลัดตกจมหาย (ไอเอ็นเอ็น)

สลด หนุ่มช่วยขนของช่วยน้ำท่วมที่ศรีมหาโพธิ น้ำเชี่ยวแรง พลัดตกจมหายในกระแสน้ำ เร่งค้นหาร่าง

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (29 กันยายน 2556) ได้เกิดเหตุสลดใจขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ ม.2 บ้านดอนตะแบก อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย และทางจังหวัด กำลังขนสิ่งของเพื่อเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้าน ได้มีชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 35 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว มาช่วยขนของ และเกิดพลัดตกลงไปในกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จมหายไปต่อหน้าต่อตาของชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่พยายามเขาช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังรอเรือใหญ่เพื่อค้าหาร่างชายคนดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 30 ก.ย. 13, 14:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ปภ.สรุป น้ำท่วมใน 25 จว. - เสียชีวิต 22 คน (ไอเอ็นเอ็น)

ปภ. สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ณ ปัจจุบัน ใน 25 จังหวัด คนเดือดร้อน 2.7 ล้านคน มีเสียชีวิตแล้ว 22 ราย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานสถานการณ์อุทกภัยในปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ยังคงมีสถานการณ์ใน 25 จังหวัด 217 อำเภอ 1,327 ตำบล 10,704 หมู่บ้าน 790,208 ครัวเรือน 2,721,862 คน อพยพ 4,416 ครัวเรือน 15,254 คน (จ.อุบลราชธานี/จ.ศรีสะเกษ)

ส่วนจังหวัดที่คลี่คลายแล้ว คือ กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา พะเยา แม่ฮ่องสอน โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 22 ราย



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 30 ก.ย. 13, 14:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สุขุมพันธุ์ สั่ง 27 ชุมชนริมเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำท่วม ยันสถานการณ์ไม่เหมือนปี 2554 แต่แนะให้จับตามองปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักที่เพิ่มสูงขึ้น กับมวลน้ำตอนเหนือ

วันนี้ (30 กันยายน 2556) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Sukhumbhandp เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด มีใจความว่า สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะระดับความรุนแรงต่างจากปี 2554 อยู่มาก อย่างไรก็ตาม ทาง กทม. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งให้ 27 ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในภูมิศาสตร์พื้นที่ฟันหลอ เฝ้าระวังสถานการณ์ไว้แล้ว

นอกจากนี้ สถานการณ์ที่น่าจับตาอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระดับน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่มีระดับเพิ่มสูงขึ้น จากร้อยละ 40 เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา มาอยู่ในระดับร้อยละ 70 ในปัจจุบัน เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง ขณะที่เขื่อนภูมิพลกับเขื่อนสิริกิติ์ ยังอยู่ที่ระดับร้อยละ 40 เท่านั้น

สำหรับข้อความทั้งหมดในทวิตเตอร์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีดังนี้

"สถานการณ์น้ำในกทม.ขณะนี้ยังไม่มีอะไรต้องตื่นตระหนกนะครับ แต่กรุงเทพมหานครก็ไม่ประมาท ไม่ได้นิ่งนอนใจครับ โดยเฉพาะ 27 ชุมชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หรือคลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ ที่ยังเป็นพื้นที่ฟันหลออยู่ พื้นที่ที่เราได้สร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมไปแล้ว 77 กม. ยังเหลืออีกประมาณ 700 ม. ที่เป็นฟันหลออยู่ ก็ได้มีคำสั่งไปยังเขตว่าต้องดูแลให้ดี ทั้ง 27 ชุมชน กทม.ได้ส่งคำเตือนไปแล้วครับ และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดครับ

และอีกเรื่องหนึ่งที่เราเป็นห่วงก็คือมวลน้ำที่จะมาจากทางตอนเหนือครับ ซึ่งในขณะนี้มีผลกระทบต่อกรุงเทพฯตะวันออกนอกคันกั้นน้ำค่อนข้างมาก ผมได้ลงพื้นที่กรุงเทพฯตะวันออกเมื่อวันศุกร์ 27 กันยา ที่ผ่านมา ตรงประตูระบายน้ำกระทุ่มเสือปลา คลองประเวศฯ ผมได้สั่งให้ยกประตูน้ำขึ้นสูงขึ้น 1.50 ม. จากเดิมเปิดอยู่ระดับ 1 ม. และให้เปิดประตูอีกบานที่ปิดอยู่เปิดขึ้น 30 ซม. เพื่อระบายน้ำในฝั่งตะวันออกที่บางพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าตรงนี้กรุงเทพมหานครรับมือได้ เพราะว่าน้ำที่ผ่านประตูนี้จะไปลงอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 และลงคลองพระโขนง และลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไปครับ

ถ้ากรุงเทพฯสามารถช่วยระบายน้ำนอกคันกั้นน้ำได้ก็ต้องช่วยระบาย แต่ก็ต้องเข้าใจกันนะครับถ้าฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ เราอาจต้องปรับเปลี่ยนแผน และผมก็ได้ไปดูประตูน้ำประเวศฯ ซึ่งอยู่ในการดูแลของกรมชลประทาน ก็ได้รับการรายงานว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติครับ สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่ใกล้เคียงปี 54 นะครับ ยังผมติดตามอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เข้าใจพี่น้องประชาชนที่ยังรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยอยู่ในขณะนี้ครับ กรุงเทพมหานครดูแลอย่างเต็มที่ครับ แต่ผมก็เป็นห่วงพื้นที่กรุงเทพฯ ตะวันออก ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำมากกว่าครับ เป็นสิ่งที่เราจะต้องแก้ไขในระยะยาว

แต่ที่เราต้องจับตามองดูก็ระดับน้ำในเขื่อนป่าสัก เมื่อวันศุกร์ 27 กันยายน 2556 ขึ้นมา 70% ซึ่งขึ้นมาเยอะมาก เมื่อ 10 วันที่แล้ว 40% เองครับ หมายความว่าฝนตกหนักในภาคกลางนะครับ ไม่ใช่ตอนเหนือ ดังนั้นระดับน้ำในเขื่อนป่าสักจึงสูงขึ้นมามาก แต่ว่าเขื่อนภูมิพลกับเขื่อนสิริกิต์ยังไม่สูงนะครับ เขื่อนภูมิพลก็ 40 กว่า เช่นเดียวกับเขื่อนสิริกิต์ครับ ผมได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่มัสยิดบิดาตุ้ลฮีดายะห์ อยู่ติดกับคลอง 14 เขตหนองจอก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ น้ำท่วมเกือบทุกปี เพราะเป็นพื้นที่ลุ่มมาก เราจึงจำเป็นต้องประสานกับกรมชลประทานซึ่งเป็นเจ้าของประตูระบายน้ำในพื้นที่นี้ ในการดูแลพี่น้องครับ"



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 1 ต.ค. 13, 08:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไต้ฝุ่นหวูติ๊บพัดเรือล่มคร่าชีวิตลูกเรือจีน 74 ราย, ไทย เวียดนาม เตรียมรับน้ำท่วมหนัก


กลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายภาพขณะที่พายุที่เกิดจากอิทธิพลไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ ซัดชายฝั่งที่ชายหาดเมืองซันย่า มณฑลไห่หนัน (ไหหลำ) ในวันนี้(30 ก.ย.2556) (ภาพ รอยเตอร์)

เอเอฟพี/รอยเตอร์--สำนักข่าวซินหวารายงานวันนี้(30 ก.ย.) เรือสัญชาติจีน 3 ลำ ล่มในทะเลจีนใต้ระหว่างที่ปะไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บเมื่อบ่ายวานนี้(29 ก.ย.) รายงานล่าสุดในวันนี้ระบุลูกเรือ 74 คน สูญหาย เวียดนามโยกย้ายประชาชน ราว 70,000 คน หนีน้ำ ขณะที่โฆษกรัฐบาลไทยเตือนน้ำท่วมหนัก

เรือจีน 3 ลำดังกล่าว มีลูกเรือโดยสารไปรวมทั้งหมด 88 คน ได้ล่มขณะเผชิญไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ (Wuthip) ใกล้กับหมู่เกาะพาราเซล ห่างจากชายฝั่งภาคใต้จีน 330 กิโลเมตร ทั้งนี้เรือที่เผชิญไต้ฝุ่นครั้งนี้มีทั้งหมด 5 ลำ รวมลูกเรือที่โดยสารไปด้วย 171 คน

จีนได้ระดมหน่วยกู้ภัยและสืบค้นขนานใหญ่ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ประกอบด้วยเรือรบ 10 ลำ และเครื่องบิน 6 ลำ การกู้ภัยเป็นไปอย่างลำบาก เนื่องจากคลื่นยักษ์และพายุแรง รายงานล่าสุดตอนบ่ายวันนี้(30 ก.ย) หน่วยกู้ภัยได้ช่วยเหลือลูกเรือได้ 14 คน

สำนักงานสมุทรของจีนได้ประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่นโดยปรับเพิ่มระดับความรุนแรงเป็นสีส้ม ซึ่งเป็นระดับสูงอันดับที่สอง จาก 4 ระดับ บริเวณที่จะโดนไต้ฝุ่นจู่โจมได้แก่ มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ไห่หนัน (ไหหลำ) กว่างซี

ทั้งนี้ บริเวณ หมู่เกาะพาราแซล เป็นดินแดนพิพาทกรรมสิทธิ ระหว่าง จีน เวียดนาม และไต้หวัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไต้ฝุ่นอุซางิ ได้กระหน่ำภาคใต้จีน มีประชาชนอย่างน้อย 25 เสียชีวิต ระบบคมนาคมปั่นป่วน ผู้โดยสารเที่ยวบินนับหมื่นติดอยู่ในสนามบินที่ฮ่องกง

ไทย เวียดนาม เตรียมรับมือฝนกระหน่ำหนัก

เป็นที่คาดว่า ไต้ฝุ่นจะทำให้เกิดฝนตกหนักในเวียนดนามวันนี้ หลังจากนั้นก็จะบ่ายหน้ามายังประเทศไทยในวันพรุ่งนี้(1 ต.ค.)

หน่วยควบคุมพายุและน้ำท่วมแห่งเวียดนาม กล่าวว่า ไต้ฝุ่นจะเข้าจู่โจมตอนกลางของประเทศ ระหว่างจังหวัด ห่าติ๋ง (Ha Tinh) และกว๋างจิ (Quang Tri) ในช่วงเย็น 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะนี้เวียดนามได้เตรียมการย้ายประชาชน ราว 70,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายจากไต้ฝุ่น

เจ้าหน้าที่ไทยเตือนว่าจะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่น้ำท่วมภาคอิสาน ทั้งนี้ มีประชาชนที่เสียชีวิตจากน้ำท่วมในปีนี้อย่างน้อย 22 ราย แล้ว

“เราคาดว่าจะเกิดน้ำท่วมหนักกว่านี้” นายธีรัตน์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกกับกลุ่มผู้สื่อข่าวในวันนี้(30 ก.ย.) “และกองทัพได้รับการเรียกร้องให้ระดมทหารออกมาช่วยเหลือโยกย้ายประชาชนที่ติดอยู่ในเขตน้ำท่วม”

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 1 ต.ค. 13, 08:55 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทุกอย่างเป็นไปตามคาด ไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) เคลื่อนเข้าซัดภาคกลางตอนบนเวียดนามหลังเวลา 17 น.เพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ 30 ก.ย.นี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักกินบริเวณกว้างลงไปจนถึงนครโฮจิมินห์ในภาคใต้ ขณะทางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายพันคนออกช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยตลอดบ่ายจนตกถึงยามค่ำคืน

พายุลมแรงทำให้ต้นไม้ถูกถอนรากหรือหักโค่นในหลายตัวเมือง ขณะที่หลายจังหวัดไฟฟ้าดับตั้งแต่เวลาบ่ายประชาชนหลายล้านต้องอยู่ในความมืด รายงานในเบื้องต้นโดยสื่อของทางการแจ้งว่ามีบ้านเรือนของราษฎรนับหมื่นหลังคาในจังหวัดที่พายุเคลื่อนตัวผ่านถูกพัดหลังคาหายไปหรือได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านั่นทางการได้อพยพราษฎรราว 70,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ไปอาศัยในสถานที่หลบภัยช่าวคราว

ไต้ฝุ่นทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่นครด่าหนัง ขึ้นไป จ.กว๋างนาม เถือะเทียนเหว กว๋างจิ กว๋างบี่ง ห่าติ๋ง และ จ.เหงะอาน วัดประมาณน้ำฝนได้ตั้งแต่ 150-300 มิลลิเมตร ทั้งนี้เป็นรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางที่ออกเมื่อเวลา 22.30 น.

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งนี้คาดว่าไต้ฝุ่นได้อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วขณะเคลื่อนเข้าดินแดนลาว ซึ่งคาดว่าจะกลายสภาพเป็นดีเปรสชั่น และมลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในที่สุด .. แต่การณ์กลับตรงข้าม พายุลูกนิ้ทนทายาดกว่าที่คาด..

จนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนวันจันทร์ ภาพต่อเนื่องจากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT ในช่วง 6 ชัวโมงแสดงให้เห็นพายุโซนร้อนลูกใหญ่อาละวาดอยู่เหนือแขวงบอลิคำไซกับแขวงคำม่วนของลาว แผนภูมิของหลายสำนักได้แสดงให้เห็นพายุลูกใหญ่กำลังตรงดิ่งซัดเข้าใจกลางนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว

แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่นของกองทัพเรือสหรัฐ สำนัก Tropical Storm Risk ในกรุงลอนดอน รวมทั้งองค์การอุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่นหรือ JMA (Japan Meteorological Agency) ในกรุงโตเกียวต่างชี้ให้เห็นปลายทางของพายุลูกนี้อยู่ที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากับภาคเหนือของไทยไม่เปลี่ยนแปลง.



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 1 ต.ค. 13, 08:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดตอนกลางเวียดนามในคืนวันอาทิตย์ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เมืองเก่ามรดกโลกโฮยอาน (Hoi An) เกิดน้ำท่วมขัง อุทกภัยยังลามถึง จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) เหนือขึ้นไป และใน จ.เหงะอาน (Nge An) ตอนเช้าวันจันทร์ 30 ก.ย.นี้ มีโรงเรียนนับร้อยแห่งต้องปิดไปโดยอัตโนมัติเนื่องจากน้ำท่วมสูง

นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะไต้ฝุ่นลูกใหญ่ยังอยู่ห่างจากฝั่งออกไปกว่า 300 กิโลเมตร ในหลายพื้นที่ฝนยังตกหนักติดต่อกันมาจนถึงขณะนี้ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

น้ำจากแม่น้ำในเมืองโฮยอาน จ.กว๋างนาม (Quang Nam) ได้เอ่อล้นขึ้นท่วมท้นตัวเมือง และถนนหนทางตั้งแต่ากลางคืน ระดับน้ำ 30-40 ซม. สร้างความยากลำบากให้แก่ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา แต่นักเรียนจำนวนมากก็ยังคงลุยน้ำเพื่อไปเรียนในท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ทางการระดมเรือกว่า 20 ลำ และอากาศยานเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยรุนแรง ซึ่งมีจำนวนมากหลังคาบ้านเรือนถูกพัดหายไป

จังหวัดชายทะเลตั้งแต่นครด่าหนัง ขึ้นไปจนถึง จ.เหงะอาน ต้องเจอคลื่นสูงตั้งแต่ 3-4 เมตร ซัดเข้าฝั่งตลอดคืนที่ผ่านมา ทางการท้องถิ่นต่างๆ กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย โดยคาดว่าจะมีเรือประมงที่เข้าจอดชายฝั่งถูกคลื่นพัดพาหายไป หรือเสียหายจำนวนไม่น้อย

ที่ อ.เลถวี (Le Thuy) จ.กว๋างบี่ง (Quang Binh) มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายราว 220 ครัวเรือน อีกจำนวนมากได้อพยพไปอาศัยในแหล่งหลบภัยชั่วคราวในเช้าวันนี้ ชาวสวนยางกล่าวว่า ต้นยางพาราในสวนยางบนเนินเขาถูกพายุพัดหักโค่นลงเป็นจำนวนมาก

ในเมืองโด่งเฮย (Dong Hoi) เมืองเอกของจังหวัด มีต้นไม้หักโคนลงกีดขวางเส้นทางจราจรเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการจราจรติดขัดไปทั่ว กองบัญชาการทหารจังหวัดได้ระดมพลราว 300 นาย ร่วมกับกำลังตำรวจอีก 150 นาย พร้อมเรือ 35 ลำ เรือเล็กอีกหลายสิบลำ ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบเคราะห์ เตื่อยแจ๋กล่าว

ตอนเช้าวันจันทร์นี้ หวูติ๊บ ยังคงอยู่ห่างจากฝั่ง จ.เหงะอาน ราว 170 กม. ขณะเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 คาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในเวลาประมาณ 17 น.วันนี้

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ได้สั่งการในวันอาทิตย์ให้จังหวัดต่างๆ กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหาร ติดตามช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างทันการณ์ และอย่างไม่มีเงื่อนไข เตื่อยแจ๋กล่าว.
.



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 1 ต.ค. 13, 09:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

(1 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทำให้ถนนบางสายมีน้ำท่วม ซึ่งบางจุดท่วมสูงถึง 1 เมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกร้านอาหารมุมอร่อย ถนนพัทยาสาย 3 พัทยาเหนือ, ถนนสุขุมวิท ทั้งฝั่งขาเข้าขาออก บริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวงพัทยาไปจนถึงใต้สะพานลอยปากทางเข้าถนนพัทยาใต้

นอกจากนี้ในตัวเมืองพัทยาตามตรอกซอกซอยต่างๆ ยังมีน้ำท่วมอีกหลายจุด ทั้งซอยบัวขาว, ซอยเออาร์, ถนนเลียบชายหาดพัทยา, ถนนพัทยาใต้ บริเวณหน้าตึกคอม เป็นต้น ทำให้การจราจรเกิดติดขัด รถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประชาชนบางคันที่ขับฝ่ากระแสน้ำ เกิดอาการเครื่องสะดุด และดับกลางคันจนได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ, หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา และอาสาสมัคร ต้องช่วยกันทำงานอย่างหนัก ทั้งระบายการจราจรให้คล่องตัวและระบายน้ำที่ท่วมขังอยู่ กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง พอฝนหยุดน้ำที่ท่วมอยู่ได้ลดระดับลง จนเข้าสู่สภาวะปกติในที่สุด

(ขอบคุณที่มาจาก ข่าวสดออนไลน์)

ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!!

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม