ASTVผู้จัดการรายวัน – ณ เวลานี้น่าจะพูดได้เต็มปากเต็มคำแล้วว่า “มุ้ย”
ธีรศิลป์ แดงดา คือนักเตะของ อัลเมเรีย แห่งศึก ลา ลีกา สเปน หลังจรดปากกายืมตัว 1 ปีมีผลตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมออปชันซื้อขาด ซึ่งแน่นอนว่าทุกสายตาต่างจับจ้องว่าเส้นทางของพ่อค้าแข้งที่โยกจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะไปได้ไกลแค่ไหนบนแผ่นดินยุโรป ทว่าเรื่องส่วนตัวก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน แต่เนื่องด้วยบุคลิกเงียบขรึมของเจ้าตัว ทำให้ค่อนข้างเข้าถึงยาก ถึงกระนั้นก็ตามตอนนี้ 4 ห้องหัวใจนั้นไม่มีพื้นที่ว่างให้ใครเข้ามาจับจองแล้ว

ธีรศิลป์ เพิ่งลงช่วย เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดสุดท้าย ทว่าก็ต้านไม่ไหวบุกพ่าย เมลเบิร์น วิคตอรี 1-2 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้ก็ต้องใจจดจ่อเพื่อช่วย “กิเลนผยอง” เปิดฤดูกาล 2014 ของถ้วย โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ระหว่างวันที่ 22-23 ก.พ.นี้
ซึ่งก่อนออกเดินทางไป อัลเมเรีย “มุ้ย” คงต้องฟิตตัวเองให้พร้อมที่สุดทั้งในและนอกสนาม รวมถึงเรื่องหัวใจที่คบหา “น้องบีบี” ภูษิตตา พลรักษ์ อดีตสาว “ยูไนเต็ด ดีว่า” ของสโมสรมาเป็นเวลา 4 ปีเต็มพอดี โดยฝ่ายหญิงกล่าวถึงพรหมลิขิตที่ชักนำมาเจอกันว่า “ตอนนั้นหนูเป็น ยูไนเต็ด ดีว่า ประมาณปี 2010 ซึ่งก็มีหนุ่มๆ เข้ามาจีบหลายคนรวมถึง มุ้ย ด้วย เค้าไม่ได้มาจีบตรงๆ นะ โดยให้เพื่อนในทีมมาเป็นพ่อสื่อให้ในเฟซบุ๊ค เราก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า ธีรศิลป์ คือใครจึงเข้าไปดูรูป ส่วนตัวไม่ชอบผู้ชายผิวเข้ม ก็คุยกันไปเรื่อยๆ ส่วนเพื่อนก็เริ่มเชียร์ บอกว่าเขาเป็นคนดี เท่ เก่ง และตอนนั้นเราอยู่ในช่วงอกหัก ก็มีเริ่มใจอ่อนบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรอยู่ดี”
อย่างไรก็ตาม สาวสวยที่ปัจจุบันทำ
งานธนาคารกสิกรไทย เผยถึงเหตุการณ์ที่ตกหลุมรักศูนย์หน้า “กิเลนผยอง” ว่า “บังเอิญช่วงนั้นเป็นตาแดง สภาพตอนนั้นคือโทรมมาก ไม่ได้
แต่งหน้า ทำผม แล้วพิมพ์คุยกับ มุ้ย ผ่าน
โทรศัพท์มือถือบอกให้ซื้อยามาให้ ใจจริงก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะสนใจจริงจัง เราก็รู้ดีว่าเขาเป็นนัก
ฟุตบอลทีมชาติไทย อีกทั้งก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์แชตกันเฉยๆ แต่เขาขับรถมาหารับไปหาหมอ ตอนนั้นยังงงๆ เหมือนกัน ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษ และให้เกียรติเราทำให้เขาชนะใจในจุดนั้น จึงเริ่มแลกเบอร์โทรศัพท์และคบหากันเรื่อยมา”
นอกจากนี้อดีต “ยูไนเต็ด ดีว่า” ยังเผยอีกว่า ธีรศิลป์ ยังสามารถฝ่านด่านอรหันต์อย่างคุณ
แม่ไปได้เรียบร้อยแล้ว “แรกๆ
แม่บอกไม่ชอบเลยนักฟุตบอลคนนี้ ไม่ใช่ด้วยหน้าตานะ แต่เป็นเพราะกลัวว่าเขาจะเจ้าชู้ เพราะเราก็คิดว่าคนที่เป็นนักเตะซูเปอร์สตาร์ของประเทศ ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนรุมล้อม โดยเฉพาะผู้หญิง กลัวว่าจะทิ้งเรา แต่เขาก็ทำให้แม่เปลี่ยนใจได้ด้วยความสม่ำเสมอ หมั่นคอยเดินทางไปเยี่ยมบ่อยๆ จนหลังๆ กลายเป็นแม่รักมุ้ยมากกว่าลูกสาวแล้ว”
“ส่วนเรื่องครอบครัวของ มุ้ย เองก็รับรู้แล้วว่าเราคบกัน เพราะเขาพาเข้าไปรู้จักกับพ่อแม่มาแล้ว ทำให้รู้สึกสบายใจที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้การคบหากันครั้งนี้ ขณะที่เรื่องของอนาคตยังไม่ได้มีแผนอะไรไว้ว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ เพราะทั้งเขาและเราต่างก็มีภาระกิจหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบอยู่ทั้งคู่” บีบี เผย

แม้จะต้องฝึกปรือฝีเท้าเพื่อยิงประตูในสนามให้คมกริบ แต่ “มุ้ย” ก็ยังเจียดหาเวลามาทำโรแมนติกช่วงวันเกิดปีที่ผ่านมา “บีบี ไปทานข้าวกับเพื่อนเพราะตรงกับช่วงที่ มุ้ย ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมทีมชาติ แต่เขาโทรศัพท์มาเร่งให้รีบกลับ เราก็โมโหที่ไม่มีเวลาให้แล้วยังจะมาบังคับอีก แต่ก็ไม่ได้สนใจ พอกลับถึงคอนโดเขาเดินถือเค้กมาให้ ซึ่งเป็นเค้กในเซเว่น แต่เค้าปาดหน้าออกแล้วนำลูกอมมาวางเป็นคำว่า HBD BB ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังชอบทำเซอร์ไพส์อีกหลายครั้ง อย่างบางครั้งเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ เขายังนึกถึงเราด้วย บางครั้งก็มีน้ำหอมขวดเล็กๆ ติดมือมาเป็นของฝาก แถมยังรู้อีกด้วยว่าเราชอบกลิ่นอะไร”
กลางปีนี้ “มุ้ย” ธีรศิลป์ จะต้องเจอกับช่วงสำคัญในชีวิต หลังเคยไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี และทดสอบฝีเท้ากับ แอตเลติโก มาดริด มาแล้ว ซึ่ง “บีบี” ก็เข้าใจดีว่าหนุ่มข้างกายวัย 25 ปีต้องเดินทางไปตามความฝันและจะคอยให้กำลังใจผ่านโลกของการสื่อสาร “นับเป็นเรื่องดีที่ มุ้ย ได้รับโอกาส แต่เราก็คงเหงาเพราะจะไม่ได้เจอกันเหมือนอยู่เมืองไทย แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นอนาคตของเขา ถึงตอนนั้นคงลำบากเหมือนกัน เพราะเขาก็ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับทีมใหม่ อีกทั้งคงเดินทางไปมาลำบาก แต่ก็เป็นกำลังใจให้ประสบความสำเร็จในฐานะตัวแทนของคนไทย”
เครดิต - http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9570000018425