ลี กา-ชิง มหาเศรษฐีฮ่องกง วัย 85 สอนวิธีสร้างชีวิตจากเงิน 5 กอง "ทำได้รวย"
ลี กา ชิง มหาเศรษฐีแห่งเกาะฮ่องกง วัย 85 ปี ต่อสู้ชีวิต รับผิดชอบเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนบิดาที่เสียฯ ไป ตั้งแต่เขายังอยู่ในโรงเรียน บากบั่นมานะจนกลายเป็นคนที่รวยที่สุดของเกาะฮ่องกง ได้ชื่อว่า ซูเปอร์แมนหลี่ ผู้ร่ำรวยมหาศาลมีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 16,000 ล้านเหรียญ มีอาณาจักรธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม สถานีโทรทัศน์ ท่าเรือขนส่ง บริการอินเตอร์เน็ต อสังหาริมทรัพย์ ลี กาชิงได้ถ่ายทอดบทเรียนชีวิตสำคัญเกี่ยวกับเงิน 5 กอง (ภาพเอเจนซี)
ลี กา-ชิง มหาเศรษฐีฮ่องกง วัย 85 สอนวิธีสร้างชีวิตจากเงิน 5 กอง ที่รับประกันความสำเร็จจากประสบการณ์ของตนเอง เหมาะสำหรับคนหนุ่มสาวที่เริ่มสร้างอนาคตด้วยมือของตนเอง
เดอะเรียลสิงคโปร์ สื่อสิงคโปร์ รายงาน (18 ก.พ.) บทความแผนการบริหารเงิน 5 ปี ที่สามารถทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถสร้างฐานะร่ำรวย การงานมั่นคง ชีวิตเต็มไปด้วยมิตรสหาย โดยบทความนี้ ถอดความมาจากบทเรียนสำหรับซีอีโอซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ ceoconnectz
ลี กา-ชิง มหาเศรษฐีแห่งเกาะฮ่องกง วัย 85 ปี ผู้ร่ำรวยมหาศาลมีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 16,000 ล้านเหรียญ ต่อสู้ชีวิต รับผิดชอบเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนบิดาที่เสียชีวิตตั้งแต่เขายังอยู่ใน โรงเรียน บากบั่นมานะจนกลายเป็นคนที่รวยที่สุดของเกาะฮ่องกง ได้ชื่อว่า 'ซูเปอร์แมน' มีอาณาจักรธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม สถานีโทรทัศน์ ท่าเรือขนส่ง บริการอินเตอร์เน็ต อสังหาริมทรัพย์ และมูลนิธิลี กาชิง (LKSF) องค์กรการกุศลที่มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาและบริการสุขภาพ ลี กา-ชิงได้ถ่ายทอดบทเรียนชีวิตสำคัญเกี่ยวกับเงิน 5 กอง ว่าหากแม้แต่ละคน เริ่มต้นสร้างฐานะจากรายได้ต่อเดือนเพียง 2,000 หยวน แต่ก็สามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ โดยการแบ่งเงินเป็น 5 ส่วน (600 - 400 - 300 - 200 และ 500 หยวน)
เงินส่วนแรก (600 หยวน) นั้น เป็นส่วนของใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ต้องแบ่งละเอียดลงไปในแต่ละวัน คุมการใช้จ่ายไม่เกิน 20 หยวนต่อวัน ลี กา-ชิง ถึงกับช่วยจัดเมนูมื้อเช้าให้ด้วยว่า อาจจะเป็นวุ้นเส้น ไข่หนึ่งฟอง และนมหนึ่งแก้ว ส่วนมื้อกลางวันก็กินอาหารง่ายๆ และผลไม้ มื้อเย็นก็ควรทำเอง เป็นอาหารจานผัก แถมให้นมหนึ่งแก้วก่อนนอน เพียงเมนูประจำวันนี้ รับประกันว่าหนึ่งเดือนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 500-600 หยวน อีกทั้งไม่เป็นเหตุให้มีโรคภัยไข้เจ็บ
เงินส่วนที่สอง (400 หยวน) ลี กา-ชิงส อนว่า เป็นส่วนที่กันไว้สำหรับสร้างมิตรสหาย และคนรอบข้าง ซึ่งก็คงไม่พ้น 100 หยวนสำหรับค่าโทรศัพท์ กินเลี้ยง 2 มื้อต่อเดือน ตกมื้อละ 150 หยวน และก็ควรเลือกคนที่สมควรจะกินข้าวด้วย อาจจะเป็นคนที่มีความรู้มากกว่าคุณ และฐานะการเงิน การงานดีกว่า การจัดสรรในด้านนี้ จะทำให้สามารถขยายความสัมพันธ์ ที่สร้างคุณค่า และยังเพิ่มมูลค่า อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตน
เงินส่วนที่สาม (300 หยวน) เป็น ส่วนที่ใช้เพื่อการเรียนรู้ ซื้อหนังสือที่มีประโยชน์และอ่านมันอย่างละเอียด เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่สอนไว้ในหนังสือ ที่สำคัญคือหลังจากอ่านหนังสือแต่ละเล่ม ให้เล่าถ่ายทอดแบ่งปันกับคนอื่น วิธีนี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นคนที่น่าสนใจ เข้าคอร์สอบรมที่ดีต่างๆ นอกจากจะขยายความรู้แล้ว ยังจะช่วยขยายสังคมให้คุณเจอเพื่อนที่มีทัศนคติความคิดเหมือนกัน
เงินส่วนที่สี่ (200 หยวน) นั้น ควรเก็บไว้ใช้สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศในวันหยุด เป็นการให้รางวัลแก่ตนเอง โดยการเดินทางไปพบประสบการณ์ต่างประเทศอย่างน้อยปีละครั้ง และพักในโรงแรมราคาประหยัด ประสบการณ์จากการเดินทาง จะเติมพลังไฟในการทำงานอยู่เสมอ
เงินส่วนที่ห้า (500 หยวน) เป็น กองสำหรับเก็บออม เป็นทุนในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ซึ่งน่าจะเริ่มจากธุรกิจเล็กๆ ไม่มีความเสี่ยงในการเริ่มต้น แม้คุณจะขาดทุน ก็ยังไม่เสียเงินมาก เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความกล้าและมั่นใจ ให้เรียนรู้ประสบการณ์ของการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ ไปก่อน เมื่อมีรายได้มากพอ ค่อยเริ่มมองหาแผนการลงทุนระยะยาว และลงทุนในหลักทรัพย์ระยะยาวด้วยเงินของตนและครอบครัว โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตตกต่ำลง
อย่างไรก็ดี นอกจากสัดส่วนเงิน 5 กองนี้ ลี กา-ชิง ยังบอกทัศนคติในการบริหารฯ ว่า ถ้าเวลาผ่านไปหนึ่งปี เงินเดือนยังคงเท่าเดิม 2,000 หยวน นั่นหมายความว่าไม่ได้มีความก้าวหน้าขึ้นเลย และควรจะสำนึกละอายใจ สั่งสอนตัวเองด้วยการไปซื้อเต้าหู้ที่แข็งที่สุดในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วปาใส่หัวตัวเองสักที
แต่ถ้าผ่านไปแล้ว เงินเดือนขึ้นมาอยู่ที่ 3,000 หยวน ก็ขอให้ทำงานหนักต่อไป อาจจะต้องหางานเสริม ถ้าเป็นงานขายนี่จะท้าทายมาก เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะได้เรียนรู้ศิลปะในการขาย และนำไปใช้กับอาชีพหลักได้ เพราะเจ้าของธุรกิจทั้งหมดที่ประสบความสำเร็จ ล้วนเริ่มจากการเป็นนักขายที่ดี มีทั้งความสามารถในการขายความฝันและวิสัยทัศน์ และยังได้พบคนมากมายที่มีคุณค่าต่ออาชีพของตนในภายหลัง ได้เรียนรู้ว่าอะไรขายได้และอะไรขายไม่ได้ ใช้ไหวพริบในการสังเกตตลาด และหาสินค้าที่เข้าข่ายจะเป็นผู้ชนะในอนาคต
สำหรับการซื้อเสื้อผ้าและรองเท้านั้น ลี กา-ชิง แนะให้ซื้อน้อยที่สุด เพื่อประหยัดเงินและซื้อของขวัญให้คนที่รัก พร้อมกับบอกพวกเขา ถึงแผนการและเป้าหมายทางการเงินของตน เหตุผลของการประหยัดอดออม เป้าหมายทิศทางที่กำลังจะไป ตลอดจนความฝันต่างๆ