กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอแนวคิดให้ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนเร่งให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวทางบก เพื่อให้คนอาเซียนเดินทางไปมาหาสู่กันสะดวกขึ้น กระตุ้นนักท่องเที่ยวนอกภูมิภาคใช้ประโยชน์ร่วมกันพร้อมผลักดันมาตรฐานการท่องเที่ยวเพื่อใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วอาเซียน ทั้งนี้ ปัจจุบัน ยังมีความไม่สะดวกอยู่ทั้งทางด้านสาธารณูปโภคและด้านกฎระเบียบ
ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า จากการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวสมัยพิเศษที่จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อพิจารณาแผนการดำเนินการภายหลังแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอาเซียนของปี 2554-2558 ที่กำลังจะสิ้นสุดลง กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ได้เสนอวาระเร่งด่วนต่อที่ประชุมเรื่อง การอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวทางบก เพื่อให้คนอาเซียนเดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวนอกภูมิภาค
ได้ใช้ประโยชน์ มิใช่เพื่อการท่องเที่ยวของประเทศใดประเทศหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้ข้อสรุปวิสัยทัศน์ในอีก 20 ปีข้างหน้า (ค.ศ. 2025 หรือ พ.ศ. 2568) ว่า อาเซียนจะต้องเป็นปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและเด่นชัดในเรื่องของภาพลักษณ์ที่อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมพัฒนาการท่องเที่ยวอาเซียนอย่างยั่งยืนโดยมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมของประชาชนชาวอาเซียนเป็นสำคัญ ในขณะที่ประเทศไทยได้เน้นให้อาเซียนให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้วย
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม กรมการท่องเที่ยวยังได้รับทราบรายงานสรุปการดำเนินการของอาเซียนตามกรอบวิสัยทัศน์การท่องเที่ยวอาเซียนของ พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2558 เพื่อให้ที่ประชุมเตรียมพร้อมและดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปในปีหน้า
ขณะที่ในการประชุมคณะทำงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว (ASEAN Tourism Product Development Working Group: PDWG) ซึ่งเป็นการประชุมกลุ่มย่อย กรมการท่องเที่ยวในฐานะเป็นผู้ประสานงานหลักได้รายงานให้ที่ประชุมทราบความคืบหน้าการดำเนินงานเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism)
พร้อมได้เสนอร่างแบบฟอร์ม (Template of the ASEAN Health and Wellness Tourism)
ซึ่งครอบคลุมขอบเขตการบริการเพื่อสุขภาพ (Wellness) และการรักษาพยาบาล (Health & Medical) โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กรอบแนวทางการพัฒนาสินค้าและการบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ควรขยายขอบเขตให้ครอบคลุมเรื่องนันทนาการ (Recreation) และโยคะ (Yoga) และการควบคุมอาหารเพื่อสุขภาพ (Healthy Dieting) ด้วย
“สำหรับมาตรฐานโรงแรมสีเขียวของอาเซียน หรือ ASEAN Green Hotel Standards ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กรมการท่องเที่ยวจัดทำให้อาเซียน ประเทศไทยจะยกร่างคู่มือกระบวนการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานฯ ให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพิจารณาภายในเดือนนี้ และจะจัดประชุมเพื่อพิจารณาร่างคู่มือดังกล่าว ต่อด้วยการจัดอบรมผู้ตรวจประเมินมาตรฐานโรงแรมสีเขียวของอาเซียนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557”
“ส่วนมาตรฐานการให้บริการด้านสปาของอาเซียน หรือ ASEAN Spa Service Standards กรมการท่องเที่ยวจะแจ้งเวียนร่างคู่มือกระบวนการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานฯ ให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพิจารณาตามกำหนดการเช่นเดียวกับมาตรฐานโรงแรมสีเขียว
ทั้งนี้ จะมีการจัดอบรมผู้ตรวจประเมินของทั้งสองมาตรฐานนี้ในปลายปีนี้เช่นเดียวกัน” อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าว
นอกจากนี้ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ หรือ ATRM Eco-Tourism ประเทศไทยในฐานะผู้ประสานงานหลัก จะจัดฝึกอบรมตามที่สมาชิกสนับสนุน ซึ่งเป็นไปตามแผนปฏิบัติการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ดำเนินมากว่า 7 ปี แผนจะสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งกรมการท่องเที่ยวได้ตั้งเป้าในการจัดกิจกรรมไว้ในกรอบของปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างโครงการเสนอ และแจ้งให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทราบกำหนดการ ทั้งนี้ จะมีการพิจารณาเสนอโครงการให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนเชิงนิเวศของไทยและสมาชิกอาเซียน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันทั้งไทยและอาเซียน
