เชื่อว่าชาวเน็ตเมืองไทยเกือบจะร้อยทั้งร้อยล้วนแต่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน
คอมพิวเตอร์ PC หรือโน้ตบุ๊คกันเป็นหลัก เพราะสมัยนี้หาง่ายราคาไม่แพงหรอกครับ แม้พฤติกรรมผู้ใช้จะเริ่มหันมาเล่นอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกันมากขึ้น แต่ความเพียบพร้อมเรื่องโปรแกรม โดยเฉพาะกับคนทำ
งานด้วยแล้ว คอมพิวเตอร์ก็ยังต้องมาเป็นอันดับ 1 อยู่ดี และคนใช้คอมฯ บ้านเรา ต้องเคยเจอปัญหาแบกคอมฯ วิ่งไปให้ที่ร้านซ่อมหรือฟอร์แมทเครื่องให้ใหม่กันบ้างใช่มั้ยครับ ให้ทายแบบไม่ต้องเดา ผมเชื่อว่าเกินครึ่งของผู้ใช้คอมฯ ที่มีปัญหา จะต้องเกิดจาก "Baidu" ภัยซ่อนเร้นแอบแฝงมาในเวลาที่เราใช้อินเทอร์เน็ต ก่อนจะลามไปรวนโปรแกรมในเครื่องเราให้ปวดหัวกันจนแทบบ้า บางคนได้ยินชื่อถึงกับหวาดผวา ยิ่งกว่าเห็นผีของคุณริว จิตสัมผัสกันแล้ว
Baidu คืออะไร ทำไมหลายคนผวา แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับแอนดรอยด์ได้ ต้องตั้งใจอ่านครับ Baidu หรือ "ไป่ตู้" คือผู้ให้บริการ search engine ยักษ์ใหญ่ (มาก) ของจีน เปรียบเทียบแล้วก็ใหญ่ประมาณเดียวกับ กูเกิล ยังไงยังงั้น (เพราะในจีน provider อินเทอร์เน็ตส่วนมากไม่อนุญาตให้ชาวเน็ตใช้กูเกิลครับ) แล้วความใหญ่ยักษ์ของ Baidu ก็แตกขยายออกไปเป็นบริการอีกเพียบบนโลกออนไลน์ ทั้งเบราเซอร์ของตัวเองคือ Spark Browser ที่คนไทยใช้งานกันมาก มีระบบแปลภาษา สารานุกรมแบบเดียวกับ Wikipedia ก็ยังมี และที่คนไทยหมายหัวอย่างมากในตอนนี้ คือตัวนี้ครับ เจ้า PC Faster ซึ่งมันคือโปรแกรมแฝง คุณสมบัติของมันคือเป็นตัวเร่งสปีดความเร็วในการบูทเครื่อง ที่ มักจะแฝงตัวมาเวลาเราเผลอไปติดตั้งอะไร "เถื่อนๆ" เข้า แล้วไม่อ่านรายละเอียดก่อนลงโปรแกรม เจออะไรก็ next ก็ OK จนที่สุดแล้ว Baidu PC Faster ก็ฝังแน่นในเครื่องเรา เข้าไปป่วนโปรแกรมสั่งปิดสั่งเปิดเอง ไปรบกวนระบบเน็ตเวิร์คจนต่ออินเทอร์ตไม่ได้ เข้าไปฝังใน registry ก็มี หนักเข้าถึงขั้นบล็อค Windows จนเราเปิดเครื่องไม่ได้ ไม่นับโฆษณาแฝง โปรแกรมปล่อยแบนเนอร์ขยะหรือ adware ไม่นับไปถึงภัยเงียบจากการใช้ browser ที่อาจคุกคามข้อมูลส่วนตัวของเราได้
ฟังดูน่ากลัวนะครับ ก็เลยมีคนสงสัยว่าถ้า Baidu มันแสนจะบัดซบอย่างนี้ แล้วไม่ขายขี้หน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตแดนมังกรหรือ ความจริง Baidu เป็นผู้ให้บริการบนโลกออนไลน์ที่มีคุณภาพนะครับ ฟีเจอร์เสริมบน Spark browser ก็ทำงานได้เทพล้ำมากๆ โหลดวิดีโอใน Youtube ลงเครื่องก็ได้ จับภาพหน้าจอพร้อมใส่แคปชั่นได้เลยก็สะดวกดี พวกชอบโหลดบิท ก็เปิด torrent โหลด
เพลงโหลดหนังได้มากมาย แม้บางบริการจะดูล่อแหลม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเข้าถึงพฤติกรรมผู้ใช้ในบ้านเขา (และบ้านเรา) จริงๆ นั่นแหละ
แล้ว Baidu มาแผลงฤทธิ์อะไรบนแอนดรอยด์ ? เรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้สักพักใหญ่ๆ เมื่อมีผู้ใช้แอนดรอยด์ไปตรวจเจอโฟลเดอร์ Baidu โผล่ขึ้นมาใน
มือถือหลังจากทำการอัพเดทเฟิร์มแวร์หรือแอพฯ บางตัว ทีนี้ก็เสียววาบสิครับ! จึงสืบเสาะได้ว่า หากมีการลงแอพฯ จากเมืองจีน หรืออัพเดทเฟิร์มแวร์บางตัว โฟลเดอร์ Baidu ก็จะโผล่ติดมา ปัญหานี้ทำให้คนใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จากจีนเครียดกันไปพักใหญ่ จนถึงขั้นมีการเรียกร้องให้ Baidu ออกมาชี้แจง เพราะหากไม่ปลอดภัยต่อข้อมูลผู้ใช้งาน ทีนี้มันจะกลายเป็นปัญหาระดับชาติเลยล่ะครับ
hao 123 ตัวแสบอีกตัวที่ผู้ใช้คอมฯ หวาดผวาพอกัน อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในเครือ baidu
แต่ที่น่าคิดคือ ผู้สร้างแอพฯ หรือบริการบางตัวที่อยากจะไปทำตลาดในจีน รายไหนรายนั้นต้องผ่านการเจรจากับ Baidu เมื่อมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง หลายรายก็ทำหูทวนลมไม่สนใจปัญหาหรือความหวั่นวิตกของผู้ใช้งานก็มี ซึ่งอันนี้ถือเป็นทัศนคติที่เป็นภัยอย่างมากเลยทีเดียว
เพราะต้องไม่ลืมว่าการทำธุรกิจสมัยนี้ภาพลักษณ์แบรนด์มีส่วนมากนะครับ Baidu กำลังถูกมองในเชิงลบว่าเป็นผู้สร้างมัลแวร์ไปโดยอัตโนมัติจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้
และคิดว่าผู้ใช้งานมือถือแอนดรอยด์หลายสิบล้านคนจะเข้าใจถึงปัญหานี้ทุกคนหรือไม่ อาจจะไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ ไม่อยากจะคิดเลยว่า เราๆ กำลังตกเป็นเหยื่อของผู้ให้บริการเยี่ยงนี้กันมากมายขนาดไหน และผลเสียในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ตรงกันข้าม ในความหวาดระแวงก็ยังมีด้านดีอยู่บ้างคือ มันทำให้ผู้ใช้มือถืออย่างเราๆ ตื่นตัวที่จะเรียนรู้และระมัดระวังภัยเงียบเหล่านี้ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบใด กับผู้ให้บริการเจ้าใดก็ได้ และ Baidu เองก็อาจจะไม่ใช่ผู้ร้ายในท้ายที่สุดก็ได้
อ่านจบแล้ว...หยิบแอนดรอยด์ของตัวเองมาสำรวจตรวจตาโฟลเดอร์กันด่วนเลยครับ
บทความจาก asiashop
