ดราม่า
|
ละครการเมืองระหว่างประเทศนี่ดูเสียมากมายไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ แบบเอาใจพม่าแต่ว่าจะดั๊มส์ไทย จะให้ไทยโดดเดี่ยวกระนั้น ให้ไทยรวมกับพม่าไม่ได้ อยากจะบอกว่าเอาชนะผู้ชนะสิบทิศให้ได้เถิดน๊ะในพม่าให้ได้ก่อนแล้วกันและรู้ตำนานดึกดำบรรพ์ของไทยกับพม่านั้นไหมว่าเป็นมาอย่างไร และนี่ก็เป็นที่มาของหนังคริสตี้กระนั้นหนาที่แสดงมาในไทย ไม่อยากจะดูแล้วจะบอกให้ เอาไปฉายไกล ๆ จากประเทศไทยไปเลยไป เพราะว่าไม่มีใครอยากจะดูนักหรอกหนาจะบอกเอาไว้ให้ 
|
|
|
|
![]() |
|
ฟ้าดินโปรดลงโทษ!
|
|
|
|
|
![]() |
|
ใครจะรู้ไหม?
|
บอกแล้วไงให้ทำคดีนี้ให้ดีก็โยงมาเป็นคดีระดับชาติกันแล้วที่จะชี้ให้เห็นนั้นได้ คิดอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องเป็นไปในทำนองนี้ที่จะชี้ให้ไทยบาดหมายคลางแคลงใจกับพม่า เพื่อหวังผลในการค้าในอนาคตต่อไป แต่ทว่าท่านบุเรงนองนั้นหนารักพระนเรศวรน๊ะจ๊ะจะบอกให้ และก็ไม่อยากจะพูดให้มากกว่านี้เพราะว่าดีกรีสูงส่งกว่ากระนั้นได้ แต่ก็ให้เป็นไปตามแต่เวรกรรมแล้วกันใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นไม่ผลเรื่องเวกรรมไปได้หรอกจะบอกให้ แม้แต่กรูเกิลส์ก็ยังจะเชื่อถือในเรื่องนี้นั้นและอยากจะพูดให้ฟังถึงประเทศไทยที่ก็มีบริบทว่าด้วยเรื่องเวรกรรมมาวิเคราะห์ให้เห็นกระจ่างกระนั้นได้ ที่จะนำเสนอให้ได้รับทราบถึงรากฐานที่ดีของประเทศไทยที่จะมีความมั่นคงในทุกด้านแม้แต่การจะคิดอ่านในการเชื่อมโยงสัมพันธ์ต่อต่างประเทศใด ๆ ก็ยืนอยู่บนพื้นฐานแห่งความดีเป็นสำคัญ และไม่เคยที่จะกระทำเบียดเบียนต่างชาติภาษาใด แม้กระทั่งการคิดที่จะไปทำการค้าขายกับพม่าก็คิแต่จะจัดหาสิ่งที่ดี ๆ ไปให้และไม่ปรารถนาให้พม่าได้รับรู้เคราะห์กรรมที่ประเทศไทยได้รับนั้นเป็นเยี่ยงใด แต่ขอให้ท่านบุเรงนองได้รับทราบเพียงเท่านั้นเพราะจะสื่อสารจากใจถึงกันและกันนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
ยังไม่เข็ดอีกนั่น!
|
อีกแล้วไงบอกว่าอย่ามายุ่งกับประเทศไทย ถึงวันนี้ก็ยังไม่เชื่ออีกนั่น คงจะต้องโดนอีกกระมังภัยพิบัตินั้นไม่เกรงกลัวกันหรือไร หรือว่าอยากจะพิสูจน์ทราบกันอีกนั้นได้ ก็ให้ดูไปน๊ะใครคิดร้ายต่อประเทศไทยนั้นน่ะจะเป็นเยี่ยงใด 
|
|
|
|
![]() |
|
|
โอบามาสั่งคุมเข้มอีโบลาระบาดในสหรัฐฯ แต่เชื่อรับมือได้ บารัค โอบามา บารัค โอบามา บารัค โอบามา สั่งเกาะติดสถานการณ์อีโบลา เพื่อป้องกันการระบาดเต็มที่ เผยความเสี่ยงระบาดในอเมริกานั้นยังอยู่ในระดับน้อยมาก
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้เลื่อนแผนการเดินทางเยือนรัฐนิวเจอร์ซีย์และคอนเนคติกัต เพื่อเข้าร่วมประชุมที่ทำเนียบขาวว่าด้วยเรื่องการต่อสู้กับอีโบลา สั่งให้กรมควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปยังโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยอีโบลา แต่เผยความเสี่ยงที่อีโบลาจะระบาดในสหรัฐฯ นั้นมีน้อยมาก แม้ว่าจะเริ่มมีผู้ป่วยอีโบลาในประเทศแล้ว 3 ราย
โดยในการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โอบามาได้สั่งให้กรมควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ส่งทีม SWAT ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอีโบลา ไปยังโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสบีเทเรียน เมืองดัลลาส รัฐเทกซัส ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากพบว่ามีผู้ป่วยอีโบลาเพิ่มขึ้นเป็นรายที่ 3 เป็นพยาบาลอีกรายที่ให้การดูแลรักษานายโทมัส อีริค ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลาคนแรกในสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ โอบามาได้เน้นในเรื่องการตรวจสอบผู้โดยสารที่สนามบินต่าง ๆ, การเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์อีโบลาที่อาจจะติดต่อสู่เจ้าหน้าที่แพทย์คนอื่น ๆ ในอนาคต และการสืบสวนเกี่ยวกับติดเชื้ออีโบลาในโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสบีเทเรียน ด้วย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น 1 วัน โอบามากล่าวว่า ความเสี่ยงที่อีโบลาจะระบาดในอเมริกานั้นมีน้อยมาก โดยเปิดเผยว่า เขามั่นใจว่าอเมริกาจะป้องกันการระบาดของอีโบลาในสหรัฐฯ ได้ แต่มันก็จะทำได้ยากขึ้นอีกถ้าการระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกนั้นเหนือการควบคุม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น อีโบลาจะระบาดไปทั่วโลก
ที่มา: http://health.kapook.com/view101719.html
|
|
|
|
![]() |
|
|
"เคปเลอร์ 186เอฟ" ดาวเคราะห์ (เกือบ) "ฝาแฝด" โลก! เคปเลอร์ 186เอฟ คล้ายโลกมากที่สุด
นักดาราศาสตร์สรุปแล้วว่า ดาวเคราะห์เคปเลอร์ 186 เอฟ ดวงนี้ เป็นดาวเคราะห์ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกเรามากที่สุด ในบรรดาดาวเคราะห์ที่อยู่นอกระบบสุริยะทั้งหลายที่อยู่ภายในระยะห่างจากดาวฤกษ์ของมันที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกว่า "ฮาบิแทท โซน" ทั้งหลายที่มีการค้นพบกันมาแล้วหลายร้อยดวง เคปเลอร์ 186 เอฟ ไม่ถึงกับเป็น "ฝาแฝด" ของโลกเสียทีเดียว แต่ขนาดใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง มีความแตกต่างกันเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง มันโคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ประเภทดาวแคระแดงในระบบดาวของมันเอง แต่ใช้เวลาโคจรครบ 1 รอบเพียง 130 วัน และได้รับแสงจากดาวฤกษ์ของมันเพียง 1 ใน 3 ของแสงที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์ ซึ่งนั้นหมายความว่า ยามเที่ยงบนเคปเลอร์ 186 เอฟนี้จะมีสภาพคล้ายคลึงกับช่วงเวลา 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกบนโลกของเรา
นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า สภาพของเคปเลอร์ 186 เอฟ คล้ายคลึงกับโลกเรามากจนอาจเป็นไปได้ที่จะมีสภาวะและเงื่อนไขต่างๆ ที่เอื้อให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่และวิวัฒนาการได้ ดาวเคราะห์คล้ายโลกอื่นๆ ในฮาบิแททโซน ถ้าไม่ใหญ่กว่าโลกมาเกินไป ก็อยู่ห่างจากดาวฤกษ์ของมันมากเกินไปจนไม่สามารถดำรงสถานะของน้ำให้เป็นของเหลวได้ตลอดเวลาเหมือนบนโลก
ยังไม่มีใครรู้ว่าสภาพบนเคปเลอร์ 186 เอฟ เป็นอย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่คาดกันว่าคงเต็มไปด้วยหินและภูเขา อุณหภูมิของมันขึ้นอยู่กับบรรยากาศของเคปเลอร์ 186 เอฟเองว่ามีหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน ในปี 2018 เมื่อ เจมส์ เว็บบ์ สเปซ เทเลสโคป ขึ้นไปอยู่บนวงโคจรได้สำเร็จ
ก็น่าจะช่วยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงนี้และดวงอื่นๆ ได้มากขึ้น
ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413438822
โพสจัง
|
|
|
|
![]() |
|
โง่มาก่อนฉลาดเสมอ!
|
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณดีสฯ วันนี้มีข่าวเรื่องพบฝูงปลาวาฬว่ายเข้าหาฝั่งทั้งที่สหรัฐและที่ไทย ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าในทะเลลึก ๆ นั้นน่ะต้องเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นแน่ อย่างน้อยก็คงจะมีการเคลื่อนตัวของพื้นผิวใต้ทะเลด้วยเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง และปลาวาฬก็คงจะหนีภัยที่เกิดขึ้นนี้นั้นได้ ถึงได้ว่ายเข้ามายังน้ำตื้นและเราพบเห็นหลายครั้ง บางครั้งก็ว่ายมาตายเกยตื้นตามริมทะเล
โลกเราคงจะถึงกาลวิบัตินั้นไหมคุณดีสฯ คิดว่าอย่างไร เพราะมีการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่เรารับรู้จากข่าวสาร และก็มีของชนชาติใดอีกไหมล่ะที่จะทดลองกระนั้นแต่ไม่เป็นข่าวแต่ประการใด เราก็เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจวบจนทุกวันนี้ที่เกิดแผ่นดินไหวที่เชียงราย และนี่เป็นความเดือดร้อนไปเกือบทั่วทั้งโลกแล้วกระนั้นได้ ทั้งเชื้อโรคอีโบลา ทั้งปัญหาภัยธรรมชาติ แต่ก็ยังไม่บริษัทที่เป็นจำพวกค้ากำไร ก็ยังไม่คิดที่จะมีจิตสำนึกได้ที่จะรับรู้ปัญหาของมนุษยชาติว่าเขาจะเดือดร้อนประการใด และให้คิดดูเถิดว่า หากมันเกิดภัยพิบัติขึ้นมา เงินตรามันจะหาซื้ออะไรได้ไหม หากทุกชาติก็พบภัยพิบัติเหมือน ๆ กัน การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันเคยคิดบ้างไหม คิดแต่ว่าข้าจะได้กำไรวันนี้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่กระนั้นได้ ถามว่าหากโลกมีปัญหาแล้วบินไปอยู่ดาวอังคารนั้นน่ะ เงินทองที่แสวงหาเอาไปซื้อหาอะไรได้บนดาวอังคารนั่น มันก็ไม่พ้นตายเช่นกันแหละจะบอกให้ เมื่อไหร่มันจะเมตตาธรรมที่จะส่งผ่านถึงกันทั่วทั้งโลกกระนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
คิดให้ดี ๆ
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
สวัสดีคุณจู
"เคปเลอร์ 186เอฟ" ดาวเคราะห์ (เกือบ) "ฝาแฝด" โลก! เคปเลอร์ 186เอฟ คล้ายโลกมากที่สุด
นักดาราศาสตร์สรุปแล้วว่า ดาวเคราะห์เคปเลอร์ 186 เอฟ ดวงนี้ เป็นดาวเคราะห์ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกเรามากที่สุด ในบรรดาดาวเคราะห์ที่อยู่นอกระบบสุริยะทั้งหลายที่อยู่ภายในระยะห่างจากดาวฤกษ์ของมันที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกว่า "ฮาบิแทท โซน" ทั้งหลายที่มีการค้นพบกันมาแล้วหลายร้อยดวง เคปเลอร์ 186 เอฟ ไม่ถึงกับเป็น "ฝาแฝด" ของโลกเสียทีเดียว แต่ขนาดใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง มีความแตกต่างกันเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง มันโคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ประเภทดาวแคระแดงในระบบดาวของมันเอง แต่ใช้เวลาโคจรครบ 1 รอบเพียง 130 วัน และได้รับแสงจากดาวฤกษ์ของมันเพียง 1 ใน 3 ของแสงที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์ ซึ่งนั้นหมายความว่า ยามเที่ยงบนเคปเลอร์ 186 เอฟนี้จะมีสภาพคล้ายคลึงกับช่วงเวลา 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกบนโลกของเรา
นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า สภาพของเคปเลอร์ 186 เอฟ คล้ายคลึงกับโลกเรามากจนอาจเป็นไปได้ที่จะมีสภาวะและเงื่อนไขต่างๆ ที่เอื้อให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่และวิวัฒนาการได้ ดาวเคราะห์คล้ายโลกอื่นๆ ในฮาบิแททโซน ถ้าไม่ใหญ่กว่าโลกมาเกินไป ก็อยู่ห่างจากดาวฤกษ์ของมันมากเกินไปจนไม่สามารถดำรงสถานะของน้ำให้เป็นของเหลวได้ตลอดเวลาเหมือนบนโลก
ยังไม่มีใครรู้ว่าสภาพบนเคปเลอร์ 186 เอฟ เป็นอย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่คาดกันว่าคงเต็มไปด้วยหินและภูเขา อุณหภูมิของมันขึ้นอยู่กับบรรยากาศของเคปเลอร์ 186 เอฟเองว่ามีหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน ในปี 2018 เมื่อ เจมส์ เว็บบ์ สเปซ เทเลสโคป ขึ้นไปอยู่บนวงโคจรได้สำเร็จ
ก็น่าจะช่วยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงนี้และดวงอื่นๆ ได้มากขึ้น
ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413438822
โพสจัง
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
เรื่องที่จะไปลงทุนที่พม่าและจะขบวนกันไปนั้นหนาก็ต้องมาบอกพี่ช้างหน่วยงานของพระนเรศวรก่อนนั้นหนาจะบอกให้ เพราะหากไม่ผ่านหน่วยงานที่ว่านี้รับรองว่าไปนี่เจ๋งแน่ ๆ จะบอกให้ ต้องมาผ่านการคัดเลือกกันก่อนนั้นและมาทำสัญญากันก่อนนั้นด้วยจะบอกให้ มันต้องรู้ที่มาที่ไป ไม่เยี่ยงนี้บ้านเมืองพี่ช้างก็ต้องมานั่งลำบากในการแก้ไขปัญหาในพม่านั้นอีกได้เพราะว่าเป็นนักลงทุนที่มาจากไทย ต่อแต่นี้พี่ช้างนี่จะไม่เป็นเหมือนก่อนนั้นอีกได้ เพราะมีบทเรียนไว้เยอะมากที่นำพาความยุ่งยากนำมาสู่ประเทศที่พี่ช้างอยู่อาศัย ก็คงจะไม่มีอีกแล้วในอดีตนั้นปัจจุบันจะต้องมุ่งสู่จุดหมายคือความมั่นคงยั่งยืนในการค้าที่ประเทศไทยจะเป็นผู้เดินหน้านำทางไปให้ในการพัฒนาการค้าในพม่าให้ยั่งยืนต่อไป 
|
|
|
|
![]() |
|
|
สวัสดีครับคุณจู วันนีผมลงดาวคู่แฝดโลกไป 2 ครั้ง ไม่รู้ไปประทับใจอะไรนกหนาแต่ก็แปลกใจว่านาซ่าเอามาลงทำไมหรือเขามีความคิดที่จะไปจับจองเป็นของเขาเอง...
|
|
|
|
![]() |
|
![]() |
|
|
"เคปเลอร์ 186เอฟ" ดาวเคราะห์ (เกือบ) "ฝาแฝด" โลก! เคปเลอร์ 186เอฟ คล้ายโลกมากที่สุด
|
|
|
|
![]() |
|
|
ทีมแพทย์อังกฤษวิจัย "ชีวิตหลังความตาย"
ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ในเมืองเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ ใช้เวลานาน 4 ปี ศึกษาวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบผู้ป่วยจำนวน 2,060 คน ซึ่งป่วยหนักและมีอาการหัวใจหยุดเต้นในโรงพยาบาลต่างๆ รวม 15 โรงพยาบาล ทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และออสเตรีย
ในจำนวนผู้ป่วยที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้้ มีผู้รอดชีวิตจากภาวะดังกล่าว 330 ราย เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการสอบถาม ซักประสบการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างละเอียด
ถือเป็นการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ต่อภาวะ "เฉียดตาย" และ "ประสบการณ์นอกร่างกาย" ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำกันมาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
นายแพทย์ แซม พาร์เนีย อดีตนักวิจัยรับเชิญประจำมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หัวหน้าทีมวิจัยครั้งนี้ สรุปผลการวิจัยเอาไว้ว่า ทีมวิจัยพบว่ามีกลุ่มตัวอย่างเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ที่รอดชีวิตจากภาวะการณ์ดังกล่าว หรือราว 140 คน บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านั้น "มีความรู้สึกตัว" บางอย่างคงอยู่ หลังจากที่ในทางการแพทย์ถือว่าคนเหล่านั้นเสียชีวิตแล้วเพราะหัวใจหยุดเต้น ก่อนที่จะได้รับการปั๊มหัวใจรอดชีวิตขึ้นมาใหม่
หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นชายชาวเมืองเซาแธมป์ตัน วัย 57 ปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์บอกว่า จำได้ว่าออกจากร่างกายตัวเอง แล้วไปหยุดมองหมอและพยาบาล พยายามทำให้ตัวเองฟื้นคืนชีพอยู่ตรงมุมห้อง ทั้งๆ ที่ชายผู้นี้หัวใจหยุดเต้นและในทางการแพทย์ถือว่า "ตาย" ไปแล้ว เป็นเวลา 3 นาที ที่ทีมวิจัยสามารถคำนวณระยะเวลาที่เขาเสียชีวิตไปได้ เนื่องจากชายผู้นี้จำรายละเอียดได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเสียงของเครื่องมือแพทย์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งจะส่งเสียง ปิ๊ด ทุกๆ 3 นาที เขาจำได้ว่าเขาได้ยินเสียงปิ๊ด 2 ครั้งด้วยกัน
นายแพทย์ พาร์เนียระบุว่า ในทางการแพทย์นั้นเมื่อหัวใจหยุดเต้น สมองจะไม่สามารถทำงานต่อไปได้และจะปิดการทำงานทั้งหมดลงตามมาภายใน 20-30 วินาที แต่ในกรณีของชายผู้นี้ ความรู้สึกสำนึกดูเหมือนจะยังคงอยู่หลังจากนั้นไปแล้วนานถึง 3 นาที หลังจากการหยุดเต้นของหัวใจ
นอกจากนั้น ยังสามารถให้รายละเอียดของทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องได้ ทั้งยังได้ยินเสียงอีกต่างหาก ทั้งนี้ นายแพทย์ พาร์เนียพูดถึงชายผู้นี้ว่า น่าเชื่อถือมาก และจากการตรวจสอบกับทีมหมอ-พยาบาล ทุกอย่างที่เขาบอกว่าเกิดขึ้น เกิดขึ้นจริงในห้วงเวลาดังกล่าว
ในขณะที่มีอีกหลายคนมากที่ไม่สามารถย้อนรำลึกถึงรายละเอียดจำเพาะที่เกิดขึ้นได้ แต่โดยรวมแล้วผู้ที่มีประสบการณ์ทำนองนี้มักบอกเล่าออกมาคล้ายๆ กัน ที่พบทั่วไปอย่างหนึ่งคือ พวกเขารู้สึกถึงความสงบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ในขณะที่อีกราว 1 ใน 3 บอกว่า เวลาสำหรับพวกเขาในเวลานั้นเปลี่ยนไปจากภาวะปกติ ถ้าไม่ช้าลงก็เร็วขึ้นจนรู้สึกได้ บางคนบอกถึงการได้เห็นแสงสว่างจ้าเหมือนแสงสีทองจ้าของดวงอาทิตย์ คนอื่นๆ เล่าถึงความรู้สึกกลัว หรือรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำ หรือกำลังถูกฉุดลากผ่านน้ำลึกๆ 13 เปอร์เซ็นต์บอกว่า รู้สึกได้ว่าถูกแยกออกจากร่างกาย และ 13 เปอร์เซ็นต์ของผู้รอดตายเช่นกันที่ระบุว่า ประสาทสัมผัสต่างๆ ของตนไวและละเอียดอ่อนขึ้นมาก
นายแพทย์ เดวิด ไวลด์ นักวิจัยด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยนอตติงเเฮม เทรนท์ ชี้ว่า รายงานการศึกษาดังกล่าวถือเป็นหลักฐานที่ดีอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ามี ประสบการณ์บางอย่างเกิดขึ้นจริงหลังจากที่คนเราถือว่าตายไปแล้วทางการแพทย์
นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองสรุปเหมือนๆ กันว่า ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องมีการศึกษาให้ลึกซึ้งต่อไป ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413444278
โพสจัง
|
|
|
|
![]() |
|
เวรกรรมผ่านโซเชียลฯ
|
คุณดีสฯ เรื่องชีวิตหลังความตายที่คุณได้เอามาลงให้อ่านนี้ฝรั่งเขาล้าหลังจากเรามากที่จะบรรลุแล้วนั้นได้ เพราะเราไปไกลกว่านั้นตายแล้วฟื้นอีกต่างหากนั้นเล่าเห็นบ้างไหมแล้วเป็นไงเรื่องแบบนี้เขาก็คงไม่สนใจล่ะสิคิดว่าเป็นจริงไปไม่ได้ เรื่องโลกจิตวิญญาณนี่ต้องให้พี่ช้างนี่ไปบรรยายแต่เขาก็คงจะคิดว่าเขาศาสนาคริสต์นั้นก็คงจะแตกต่างจากโลกของไทยที่เป็นเมืองพุทธนั่น และก็มีความสนใจแตกต่างกันนั้นได้
เราสนใจโลกจิตวิญญาณเสียมากกว่า แต่เรื่องดาวอังคารนั้นน่ะก็เป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาวเสียมากกว่าที่จะส่งกระแสจิตเชื่อมโยงกันได้ และเรื่องแบบนี้เราไม่มีกระบอกเสียงหรือสื่อที่ดีที่จะเป็นมหาอำนาจของโลกนี้นี่ที่จะชี้ให้เห็นนั้นได้
หากเราสื่อสารเรื่องบุญ-กรรม หรือเรื่องโลกแห่งจิตวิญญาณเชื่อมโยงกันได้ป่านฉะนี้คงไม่มีภัยสงครามแต่อย่างใด เพราะทุกคนจะกลัวเรื่องเวรกรรมและจะไม่กระทำอันใดที่จะเป็นบาปต่อบ้านเมืองตนเองที่ไปกระทำย่ำยีบ้านเมืองอื่นกระนั้น เวรกรรมก็กลับมาทับถมเพิ่มพูดทวีมากกว่าไปทำกับคนอื่นเขานี่ให้เดือดร้อนกระนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
นี่คือเรื่องจริง!
|
โลกไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ก็คงจะแตกต่างกันอย่างมากมาย เพราะว่าเครื่องจุลทรรศ์สามารถที่จะจับต้องวัตถุต่าง ๆ ได้ แต่วิญญาณกล้องจุลทรรศน์ไม่สามารถจะมองเห็นได้และจับต้องไม่ได้
คิดว่าเราไปไกลว่าที่จะล่วงรู้ปัญหาของโลกใบนี้น๊ะที่จะหาข้อสรุปได้ แต่ก็ดีไปอย่างที่ว่าจะได้ระงับยับยั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดั่งคำทำนายกระนั้นได้ หมอดูเขาดูเอาไว้เพื่อมิให้เกิดเพษภัยเป็นการเตือนมิให้เกิดขึ้นได้ แต่คนปัจจุบันมันดูเพื่อมุ่งมั่นคิดหวังทำลายฝ่ายตรงข้ามให้พินาศไปนั้นได้ แต่สุดท้ายผลแห่งเวรกรรมที่ได้กระทำซึ่งกันและกันเอาไว้ หากเป็นทางดีก็จะไปช่วยอุปถัมภ์ค้ำจุนคนที่คิดดีทำดีกระนั้นได้ แต่คนที่มุ่งหวังทำลายก็จะได้รับแต่เวรกรรมซ้ำเติมตัวเองกระนั้นได้ และในความคิดอ่านที่อยากจะให้โลกใบนี้ผสมผสานเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ คือ ต้องมุ่งปรารถนาดีต่อกันมิให้คิดมุ่งหวังทำลายซึ่งกันและกันนั้นได้ แต่หากใครหรือชนชาติใดที่คิดแต่จะมุ่งหวังทำลาย เหตุการณ์ก็จะพลิกผันหากคิดไปทำกับชาติอื่นอันใดเอาไว้ เวรกรรมที่ไปก่อเอาไว้นั้นก็จะหันมาทำลายบ้านเมืองตัวเองให้มอดไหมดั่งที่ใจตัวเองมุ่งปรารถนาให้เขาย่อยยับอย่างไรนั้นหนาตัวเองนั้นน่ะก็จะได้รับกรรมเยี่ยงนั้นทวีคูณกว่าเก่าอีกนั้นได้ และนี่ก็คือโลกแห่งจิตวิญญาณที่จะส่งผ่านไปถึงประเทศใด ๆ ที่มีแต่มุ่งปรารถนาในทางร้ายแก่บ้านเมืองอื่นใด ก็จะได้รับกรรมเยียงนั้นไม่ต้องไปดูกันในชาติไหน ก็ในเวลานี้นี่ไงตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ เป็นต้นมา ครั้งที่ ๓ นี่แหละหนาก็จะรู้ว่าใครทำดี ทำชั่วกันเอาไว้อย่างไร ก็จะได้รับแห่งผลกรรมที่ได้กระทำกันเอาไว้ และที่สำคัญบ้านเมืองของพี่ช้างโดนหนักกว่าชนชาติใด ๆ บนโลกใบนี้อีกจะบอกเอาไว้ให้แล้วไปคิดดูแล้วกันว่าชนชาติใดกันนั้นที่กระทำต่อบ้านเมืองพี่ช้างกันเอาไว้ ก็จะได้รับผลแห่งการกระทำที่ก็ไม่แตกต่างจากที่ทำกับประเทศของพี่ช้างแต่อย่างใด 
|
|
|
|
![]() |
|
โลกนี้คือละคร
|
โลกนี้คือละคร สุเทพ วงศ์กำแหง ..โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร ถึงบทเมื่อตอน เร้า ใจ ...บทบาทลีลาแตกต่างกันไป ถึงสูงเพียงใด ต่างจบลงไป เหมือน กัน ...เกิดมาต้องตาย ร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชัง คิดยิ่งระวัง ไหว หวั่น ...ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน ถือผิวชังพรรณ บ้างเหยียดหยันกัน เหลือเกิน ...โลก นี้ คือละคร บทบาทบางตอน ชีวิตยอกย้อน ยับเยิน ...ชีวิตบางคนรุ่งเรืองจำเริญ แสน เพลิน เหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน ...โลกนี้นี่ดู ยิ่งดูเศร้าใจ ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไป เหมือน ม่าน ...เปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้นแล้วไม่นาน ปิดม่านเป็น ความเศร้าใจ โลกนี้นี่ดู ยิ่งดูเศร้าใจ ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไป เหมือน ม่าน ...ปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้นแล้วไม่นาน เปิดม่านเป็น ความเศร้าใจ 
|
|
|
|
![]() |
|
|
เพลงปลุกใจให้รักชาติ..ไร้รักไร้ผล.. คำร้อง บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน เรานี้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง ควรคำนึงถึงชาติศาสนา ไม่ยอมให้เสียทีที่เกิดมา ในหมู่ประชาชาวไทย แม้นใครตั้งจิตคิดรักตัว จะมัวนอนนิ่งอยู่ไฉน ควรจะร้อนอกร้อนใจ เพื่อให้พรั่งพร้อมทั่วตน ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้นชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร :
|
|
|
|
![]() |
|
|
เพลง เราสู้ ทำนอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง นายสมภพ จันทรประภา บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย ถึงขู่ฆ่าล้างโคตรก็ไม่หวั่น จะสู้กันไม่หลบหนีหาย สู้ตรงนี้สู้ที่นี่สู้จนตาย ถึงเป็นคนสุดท้ายก็ลองดู บ้านเมืองเราเราต้องรักษา อยากทำลายเชิญมาเราสู้ เกียรติศักดิ์ของเราเราเชิดชู เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว
|
|
|
|
![]() |
|
|
เนื้อเพลง หนักแผ่นดิน
คำร้อง: พ.อ.บุญส่ง หักฤทธิ์ศึก ขับร้อง: ส.อ.อุบล คงสิน, ศิริจันทร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
คนใดใช้ชื่อไทยอยู่ กายก็ดูเหมือนไทยด้วยกัน ได้อาศัยโพธิ์ทองแผ่นดินของราชันย์ แต่ใจมันยังเฝ้าคิดทำลาย
คนใดเห็นไทยเป็นทาส ดูถูกชาติเชื้อชนถิ่นไทย แต่ยังฝังทำกิน กอบโกยสินไทยไป เหยียดคนไทยเช่นทาสของมัน
(สร้อย) หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน (หนักแผ่นดิน!) หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน (หนักแผ่นดิน!)
คนใดยุยงปลุกปั่น ไทยด้วยกันหวังให้แตกกระจาย ปลุกระดมมวลชนให้สับสนวุ่นวาย เพื่อคนไทยแบ่งฝ่ายรบกันเอง
คนใดหลงชมชาติอื่น ชาติเดียวกันเขายืนข่มเหง ได้สินทรัพย์เจือจานก็ประหารไทยกันเอง ทีชาติอื่นเกรงดังญาติของมัน
(สร้อย) คนใดขายตนขายชาติ ได้โอกาสชี้ทางให้ศัตรู เข้าทลายพลังไทยให้สลายทางสู้ เมื่อศัตรูโจมจู่เสียทีมัน
คนใดคิดร้ายราวี ประเพณีของไทยไม่ต้องการ เกื้อหนุนอคติ เชื่อลัทธิอันธพาล แพร่นำมันมาบ้านเมืองเรา
(ซ้ำท่อนสร้อย 2 ครั้ง)
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี วิดีโอประกอบจาก youtube
หนักแผ่นดิน (ต้นฉบับ) – ส.อ.อุบล คงสิน , ศิริจันทร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
|
|
|
|
![]() |
|
|
ความฝันอันสูงสุด Home Account ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลเดชฯ คำร้อง : ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง จะแน่วแน่แก้ไข ในสิ่งผิด จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรง จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา ไม่ท้อถอย คอยสร้าง สิ่งที่ควร ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง หมายผดุง ยุติธรรม อันสดใส ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่ เพราะมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน ยังคงหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทิดผองไทย ที่มาของ เพลงพล ตต. เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน รอง ผบ.ตำรวจตระเวนชายแดน ได้เล่าประวัติความเป็นมา ของเพลงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ไว้ในหนังสือ "วารสารลูกเสือชาวบ้าน" ของ มานพ ลิ้มจรูญ ฉบับปฐมฤกษ์ ซึ่งผมขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อว่า เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๕ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ได้เสด็จฯ ไปใน งานพระราชพิธีสังเวยดวงวิญญาณอดีตมหาราช (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิบัติเป็นประจำทุกปี สำหรับในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ นี้ ได้เสด็จฯ ไปที่ ต. แม่อาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นสถานที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้เสด็จฯ มาตั้งค่ายพักแรม ณ ที่นี้ก่อนยกทัพเข้าไปตีเมือง ซึ่งยังปรากฏร่องรอยรั้วป้อมค่ายต่างๆ อยู่ และในปัจจุบันนี้ รัฐบาลได้สร้างอนุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จนเรศวรมหาราชทรงช้างต้น และได้จำลองค่ายที่ประทับแรมจินตนาการ และร่องรอยที่ปรากฏอยู่ตามสภาพจริง หลังจากเสร็จพระราชพิธี เมื่อ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๕ แล้วเสด็จฯ กลับประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ในคืนนั้น ก่อนรุ่งสว่าง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงสุบินนิมิตว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จฯ มาปรากฏพระองค์ขึ้น ที่หน้าพระแท่นบรรทม ในพระสุบินนิมิต สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้กราบถวายบังคม โดยที่ทรงทราบจาก พระวรกายและฉลองพระองค์ทรงเครื่องออกศึกว่า คือ องค์พระนเรศวรมหาราช และได้มีกระแสพระดำรัส แก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ท่านปัจจุบันนี้ ดวงพระวิญญาณยังอยู่ในประเทศไทย เพราะทรงเป็นห่วงบ้านเมือง ประชาชนคนไทย ยังไม่ได้ไปประสูติใหม่ ณ ที่ใดเลย และที่มาปรากฏในสุบินนิมิตนี้ ก็เพื่อจะทรงเตือนว่า ในอนาคตต่อจากนี้ไป บ้านเมืองไทยจะประสบกับความวุ่นวายยุ่งยาก และความมืดมนยิ่งขึ้น อย่างน่ากลัวอันตราย เหมือนกับที่เกิดขึ้นในสมัยพระองค์ท่าน (อนาคตนั้นก็น่าจะเป็น สมัยปัจจุบันนี้เอง -ผู้เรียบเรียง) ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นกำลังพระทัยถวาย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เพื่อที่จะได้ทรงนำประชาชน และชาติไทยฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง ให้ผ่านพ้นไปได้ และพระองค์ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน จักเป็นผู้นำให้ชาติไทยและประชาชนชาวไทย ผ่านพ้นห้วงวิกฤตินี้อย่างแน่นอน และพระองค์ท่านจะเสด็จฯ ติดตามช่วยเหลืออยู่ตลอดไป และขอให้ทั้งสองพระองค์ ได้ทรงให้กำลังใจแก่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ ที่เขาเหล่านั้น ไม่มีโอกาสเข้าใกล้ถวายงานโดยใกล้ชิด แต่เป็นประชาชนที่ยึดมั่นในพระองค์ท่าน โดยไม่เคยแสดงตัวออกมาให้ปรากฏ เหมือนกับการทำบุญปิดทองหลังองค์พระปฏิมา และเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะถวายชีวิต เพื่อพระองค์ท่านและชาติไทย จึงทรงขอให้รวบรวมชาวไทยผู้รักชาติเหล่านั้น และสนับสนุนให้เขาได้มีกำลังใจเพื่อรักษาชาติบ้านเมืองไว้ ในพระสุบินนิมิตนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ทรงสะดุ้งพระองค์ตื่นจากที่บรรทม และทรงประทับนั่งก็ยังทรงทอดพระเนตรเห็น องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชปรากฏอยู่ จึงทรงปลุกพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปรากฏให้ทั้งสองพระองค์ทอดพระเนตรเห็นชั่วครู่ ก็เสด็จฯ ไป เมื่อทั้งสองพระองค์ได้ทรงถวายบังคมแล้ว และจากพระสุบินนี้เอง ทั้งสองพระองค์จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์ เพลงความฝันอันสูงสุดนี้ขึ้น และได้พิมพ์เพลงพระราชนิพนธ์นี้ พระราชทานแก่ ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันอธิปไตยของชาติโดยทั่วหน้า และได้โปรดเกล้าฯ ให้คุณทนงศักดิ์ ภักดีเทวา และคุณจินตนา สุขสถิตย์ ร้องเพลงนี้ สอนให้แก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน เป็นครั้งแรกที่ตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วประเทศในเวลาต่อมา..... ที่มา : http://www.tosdn.com/forum/?topic=4108.msg19408;topicseen ลิขสิทธิ์ในบทเพลงทั้งหมดเป็นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช
|
|
|
|
![]() |
|
|
ร้องเพลงหลายเพลงนี้แล้วน้ำตาซึมครับ....อยากให้คนไทยร้องเพลงเหล่านี้ทุกคนครับจะได้รักชาติครับ...
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเสียบ้างน๊ะ!
|
|
|
|
|
![]() |
|
มาเตือนกันเอาไว้!
|
ประเทศไทยปัจจุบันเปรียบเสมือนเมฆหมอกมาบดบังให้เกิดแต่ทุกข์ภัย ปัจจุบันหมอกสีดำที่มาบอบังประเทศที่มีจะมีสีขาวเสียมากกว่าเพราะว่ามีวัดวาอารามตั้งอยู่ทั่วราชอาณาจักรไทย และสิ่งที่เป็นหมอกควันมันจะค่อย ๆ เจือจางไปกระนั้นได้ ก็คงจะด้วยสำนึกและมีความสำเหนียกกระมังที่จะไปนั่งจับเข่าคุยกันในประเทศที่เป็นมิตรกันกระนั้นก็ได้ว่า ทำไมพี่ช้างพูดถูกต้องตลอดเวลา ภัยพิบัติที่ดำเนินเรื่องมาโดยตลอดนั้นมิได้แปรผันไปดั่งคำทำนาย และหากคิดกันได้ก็ให้ชาติต่าง ๆ ที่เคยสวาปามประเทศไทยได้ดินแดนของไทยไปนั้นได้รับรู้ทุกอย่างด้วยความเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดเภษภัยในประเทศของเขานั้นน่ะมันเกิดจากการเบียดเบียนเป็นข้อใหญ่ ดินแดนที่ไทยสูญเสียไปนั้นเคยเรียกคืนมาบ้างไหม ก็ไม่มีเลยจะบอกให้ มีแต่จะมาต่อยอดเพื่อควบรวมแบบเบ็ดเสร็จให้คนไทยและประเทศไทยน้ำตาเล็ดร่วงตายเหมือนใบไม้ เพราะต้องการอยากจะได้ครอบครองผืนแผ่นดินสุดท้ายของประเทศไทย ก็อยากจะบอกว่าท่านธรรมชาติรู้หรอกว่าพวกท่านกำลังคิดทำอันใดต่อผืนแผ่นดินไทยที่มีผู้นำที่เป็นคนดีและไม่คิดเบียดเบียนประเทศใดที่จะกินใช้ และยังสอนให้คนไทยรู้จักให้อภัย และเป็นมิตรกับทุกชาติภาษาอีกนั้นได้ เหมือนคนไทยเป็นคนโง่อะไรปานนั้นได้ ถึงเวลาหรือยังล่ะที่จะคิดกันนั้นให้จงได้ เวลาประชุมกันในชาติยุโรปด้วยกันเคยหยิบยกเรื่องประเทศไทยมาคุยกันบ้างไหม ว่าเราได้ไปรุนราน คุกคามในชาติไทยนับแต่บรรพบุรุษจนกระทั้งถึงปัจจุบัน นี่เราทำถูกหรือทำผิดอะไรกระนั้นได้ แต่หากคิดได้ท่านก็จะปลอดภัยที่จะไม่ก้าวล่วงเกินประเทศไทยนี้อีกต่อไป แต่หากท่านยังนึกไม่ได้ก็คงจะเป็นกรณีกลับกันโดนภัยพิบัติ็ก็คงจะยิ่งโหมกระหน่ำ หากวันนี้นั้นพวกท่านก็ยังคิดกันไม่ได้
|
|
|
|
![]() |
|
ยังจำได้ไหม?
|
คุณดีสฯ ฟังแต่เรื่องเคลียด ๆ ไม่มีความสุขสักเท่าไหร่มาฟังเพลงของเราชาวไทยกันดีกว่า เพื่อรำลึกความหลังเมื่อครั้งที่ต้องไปร่วมสมานสามัคคีกันเพื่อประเทศไทย จำเพลงนี้กันได้ไหม
ค่ำแล้วในฤดูหนาว ล้วน ควันธรรม
--------------------------------------------------------------------------------
พอย่างเข้าเขตหน้าหนาว ลมหนาวก็โชยพัดกระหน่ำ สายลมเอื่อยมาในเวลาค่ำ (ฮัม) ฉ่ำชื่นกว่าทุกวัน น้ำค้างพร่างพรมลมเย็นรำเพย หนาวโอ้อกเอ๋ยหนาวจนสั่น เสียงเรไรร้องก้องสนั่น (ฮัม) ทำให้ฉันเป็นสุขใจ เสียงเพลงค่ำแล้ว ๆ ๆ ดังแว่วมาแต่ไกล นี่ใครหนอใคร (ฮัม) ช่างประดิษฐ์คิดเพลงค่ำ ๆ หนาวลมยิ่งทำให้ใจคนึง คิดถึงแต่รักที่หวานฉ่ำ หารักอื่นใดไหนจะหวานล้ำ (ฮัม) ฉ่ำเท่ารักเราไม่มี สวนลุมพินีถิ่นที่เคยไป เขาดินถิ่นไกลก่อนนี้เคยชื่น เดี๋ยวนี้ผ่านไปเห็นแล้วขมขื่น (ฮัม) ไม่ชวนชื่นเหมือนก่อนนั้น นภาสะอาดดูงามสดใส ฉันรักจับใจ สะอาดนะนั่น หนาวลมเยือกเย็นนั้นทำให้สั่น (ฮัม) จิตใจฉันเลื่อนลอยไป เสียงเพลงค่ำแล้ว ๆ ๆ ดังแว่วมาแต่ไกล นี่ใครหนอใคร (ฮัม) ช่างประดิษฐ์คิดเพลงค่ำ ๆ คิดถึงร่วมทางเคยเที่ยวด้วยกัน ทุกคืนก่อนนั้นหวานชื่นฉ่ำ ทุกทีที่ไปฝังใจจดจำ (ฮัม) ไม่ลืมคำที่ฝากกัน
|
|
|
|
![]() |
|
ทรงพระเจริญ
|
เพลงพระราชนิพนธ์ “ลมหนาว”
ลมหนาว เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 19 ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2497ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และได้พระราชทานเพลงนี้ออกบรรเลงครั้งแรกในงานประจำปีของสมาคมนักเรียนเก่า อังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนลุมพินี เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 ต่อมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยาแต่งคำร้องถวาย
ลมหนาว
ยามลมหนาว พัดโบกโบยโชยชื่น เหล่าสกุณร้องรื่นรมย์
หมู่ดอกไม้ชวนภมรร่อนชม ช่างสุขสมเพลินตาน่าดูชูใจ
โอ้รักเจ้าเอ๋ย ยามรักสมดังฤทัย
พิศดูสิ่งใด ก็แลวิไลแจ่มใสครัน อันความรักมักจะพาใจฝัน เมื่อรักนั้นสุขสมจิตปอง
ยามลมฝน พัดโบกโบยกระหน่ำ หยดหยาดนำน้ำหลั่งนอง ผึ้งภู่ทั้งวิหคเหงาเศร้าหมอง เกลื่อนกลาดผองมาลีร่วงโรยลงดิน
เหมือนรักผิดหวัง เปรียบดังหัวใจพังภินท์
น้ำตาหลั่งริน และลามไหลเพียงหยาดฝนปราย อันความรักแม้นไม่เป็นดังหมาย ตราบวันตาย ชีพขมขื่นเอย
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ 
|
|
|
|
![]() |
|
เรื่องจริงไม่อิงนิยาย!
|
เริ่มแล้ว ภัยหนาว ที่ก็ต้องเฝ้าเตรียมการกันเอาไว้ คงจะแข่งกันเสียมากกว่าว่าทวีปยุโรปและเอเซีย นั้นหนาใครจะหนาวกว่ากันนั้นได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือมหันตภัยอีโบลาที่จะเล็ดลอดเข้ามากับลมหนาว ซึ่งก็คงจะตัวมัน ตัวใคร เสียมากกว่า แต่ทว่าเมืองไทยให้สวดมนต์ป้องกันกันเอาไว้บ้างก็จะดีเผื่อว่าโชคดีจะสกัดกั้นเอาไว้ให้ แต่คนดีผีคุ้มอยู่แล้ว เมืองคนดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คุ้มอีกเช่นกัน
กลัวแต่ว่าจะหนีกันมาอยู่เมืองไทยเพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องนี่สิจะยุ่งยากเข้าไปใหญ่ เปรียบเสมือนประเทศไทยเสมือนวงล้อมสายสินทร์อะไรเช่นนั้น คือเข้ามาก็จะมีเกาะคุ้มกันชีวิตได้ 55555555555 และมันจะเป็นเยี่ยงนั้นจริง ๆ น๊ะ อีกหน่อยน่ะคงจะรับไม่หวาดไม่ไหว ต้องหนีภัยหนาวบินมาอยู่ที่เมืองไทยนี่กระนั้น เตรียมรับทรัพย์กันขนานใหญ่55555555 
|
|
|
|
![]() |
|
รออยู่จ้า!
|
กระทู้ไม่ขึ้นจ้า 
|
|
|
|
![]() |
|
ป้องกันตัว!
|
อีโบลาไวรัส...ไวรัสอันตรายที่ควรรู้
พญ. มาริษา พงศ์พฤฒิพันธ์ สาขาวิชาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในขณะนี้อีโบลาไวรัส (ebola virus) กำลังเป็นที่จับตามองของแพทย์ทั่วโลก เนื่องจากมีรายงานการระบาดหนักในปีนี้ และได้คร่าชีวิตผู้ป่วยชาวแอฟริกันไปหลายร้อยราย เชื้ออีโบลาไวรัสเป็นไวรัสอันตรายที่ติดต่อในคนและในสัตว์และอาจทำให้ผู้ติดเชื้อนั้นเสียชีวิต โดยมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 60-90% ในปัจจุบันก็ยังไม่มีทางรักษาและยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ก่อนหน้านี้มีรายงานการระบาดเฉพาะในทวีปแอฟริกาโดยเริ่มมีการระบุเชื้อได้จากการตรวจทางห้องปฏิบัติการตั้งแต่ปี ค.ศ.19671 ล่าสุด (ค.ศ.2014) ได้มีรายงานการระบาดหนักเกิดที่ไลบีเรีย, กีเนียและเซียราลีโอน ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่บริเวณตะวันตกของทวีปแอฟริกา2
การติดต่อ ไวรัสนี้สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ได้แก่ เลือด น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ของใช้ของผู้ป่วย หรือสัตว์ที่ป่วย รวมทั้งการนำสัตว์ที่ป่วยมาทำเป็นอาหาร โดยผ่านทางเยื่อบุในปากและทางเดินอาหาร (mucous membrane), เยื่อบุตา (conjunctiva) และรอยแยกหรือแผลบนผิวหนัง3 ระยะที่เกิดการติดต่อได้เริ่มตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการนำ (ประมาณ 7 วัน) ซึ่งในระยะนี้ยังจัดเป็นความเสี่ยงต่ำ การติดต่อจะติดได้ง่ายขึ้นเมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะท้ายของโรค
อาการและอาการแสดง1 1. อาการในระยะแรก (Phase I) มีอาการไข้สูงทันทีทันใด (39-40C) อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดศีรษะจากท้ายทอย และเจ็บคอ
2. อาการในระยะที่สอง (Phase II) จะมีอาการของความผิดปกติของอวัยวะภายใน โดยจะเริ่มมีอาการในวันที่ 2-4 หลังแสดงอาการแรกเริ่ม และคงอยู่นาน 7- 10 วัน อาการและอาการแสดงได้แก่ อาการปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย เบื่ออาหาร เจ็บคอรุนแรง เจ็บหน้าอก กลืนลำบาก ไอแห้ง ๆ และมี ผื่นแดง ราบและนูน (maculopapular rash) กดจางได้ และไม่คัน ขึ้นตามผิวหนัง โดยเริ่มมีผื่นได้ตั้งแต่วันที่ 2-7 หลังแสดงอาการแรกเริ่ม (มักขึ้นในวันที่ 5) (รูปที่ 1)1 เมื่อผื่นหายจะเกิดเป็นขุยเล็กๆได้ (fine scaling) อาการทางตา ได้แก่ อาการตาแดง ตาสู้แสงไม่ได้ ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีเลือดออกในอวัยวะภายใน ทำให้เลือดกำเดาไหล, ถ่ายเป็นเลือด, อาเจียนเป็นเลือด, ปัสสาวะเป็นเลือด, และปรากฏจุดเลือดออกตามร่างกาย ร่วมกับภาวะตับถูกทําลาย ไตวาย มีอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง เช่น สับสน เซื่องซึม ก้าวร้าว (aggressiveness) และอาการชัก เป็นต้น
รูปที่ 1 ผื่นแดง ราบและนูน กดจางได้ (maculopapular rash) ที่พบจากการติดเชื้ออีโบลาไวรัส1
3. อาการในระยะที่สาม (Phase III) ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจเร็ว อาจมีอาการสะอึก มีความดันโลหิตลดต่ำ เป็นผลให้อวัยวะหลายระบบเสื่อมหน้าที่ ปัสสาวะไม่ออก ซึ่งเป็นผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
สำหรับผู้ที่รอดชีวิตจะมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ได้มากกว่าหนึ่งเดือน ได้แก่ อาการอ่อนเพลียรุนแรง เบื่ออาหารน้ำหนักลด และปวดข้อ อาการอื่นที่อาจพบตามหลัง ได้แก่ ตับอักเสบเป็น ๆ หาย ๆ, ไขสันหลังอักเสบ, อาการทางระบบประสาท และตาอักเสบ (uveitis) เป็นต้น
การวินิจฉัย การยืนยันการวินิจฉัยการติดเชื้ออีโบลา ทำได้โดยการตรวจหาเชื้อไวรัส (antigen detection, viral RNA polymerase chain reaction) และภูมิต่อเชื้อไวรัส (IgG) การรักษา ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาจำเพาะ การรักษาจึงทำได้เพียงการบรรเทาอาการ และรักษาตามอาการ ปัจจุบันมีความพยายามในการคิดค้นยาใหม่ แต่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา
การป้องกัน สามารถป้องกันการแพร่เชื้อได้โดยการใช้มาตรการควบคุมการติดเชื้อ ผู้ที่ต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาด ควรปฏิบัติตนให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเลือด หรือสารคัดหลั่ง เช่น เลือด หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วยที่อาจปนเปื้อนกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หรือศพของผู้ป่วยที่เสียชีวิต หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่อาจนำมาเป็นอาหาร ถ้ารู้สึกไม่สบาย มีอาการไข้ ปวดหัว เจ็บคอ ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง ผื่นแดง หรือตาแดง ให้พบแพทย์ทันที
|
|
|
|
![]() |
|
หรือว่าช่างหัวมัน!
|
เมื่อเรารับรู้ปัญหาเรื่องสารเคมี เรื่องอุปกรณ์กล่องโฟมที่บรรจุอาหารที่มีอยู่ในประเทศไทย เราคนไทยก็ต้องใส่ใจดูแลในเรื่องเหล่านี้ที่จะบ่งชี้ห้ามปรามมิให้บริษัทอาหารฟาสฟูตต่าง ๆ ของต่างชาติที่มมาค้าขายในไทยที่จะรู้จักที่จะควบคุมดูแลบ้าง มิใช่คิดอะไรทุกอย่างก็ขอให้ได้แต่กำไรเข้าประเทศแต่กระนั้น แต่ไม่คิดถึงลุกหลานในอตนาคตจะเกิดมาปลอดภัยไหม
กล่องที่บรรจุอาหารญี่ปุ่นที่เป็นพวกเดลิเวอร๊่นี่ถือวัสดุที่ทำลายยากและหากอยู่ในดินกว่าจะย่อยสลายก็อีกหลายปีกระนั้นได้
หากมีคนไทยที่รักชาติจะลุกขึ้นมาผลิตวัสดุอุปกรณ์ใส่อาหารที่เป็นของไทยออกจำหน่ายให้กับร้านค้าเหล่านี้เราก็ต้องมาจัดหาเพื่อเป็นป้องกันอันตรายให้กับคนไทยทุกถ้วนหน้ากระนั้นได้
ปัจจุบันมีหน่วยงานไหนไหมนั่นที่จะลุกขึ้นมาต่อตีในเรื่องเหล่านี้และผลิตออกขายทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยตนเองเท่านั้น มีใครกินจะคิดเรื่องเหล่านี้นั้นไหม แล้วแค่คนที่คิดจะผลิตอุปกรณ์ส่งมาที่ไทยมันเคยบ้างไหมล่ะว่าจะเป็นภาระให้กับประเทศไทยไหม ที่จะทำเกิดสารเคมีในอากาศ หรือว่าไม่คิด ไม่ทราย ไม่สนใจ เพราะฉันได้เสียค่านายหน้ามาแล้วนั้นได้ จึงต้องขอกำไรคืนกลับชนิดที่เดิมพันด้วยบ้านเมืองกันเลยน๊ะจบอกให้ 
|
|
|
|
![]() |
|
วัดกันตรงนี้
|
คุณดีสฯ คุณลองไปดูสถิติรายงานแผ่นดินไหวที่เชียงรายแล้วคุณจะรู้ดีว่าสถานการณ์ของไทยและต่างประเทศเพื่อนบ้านนั้นน่ะเป็นเยี่ยงใด ดูความลึกของระดับแผ่นดินไหวก็รับรู้ได้ว่าเมืองไทยเป็นอย่างไร วัดกันได้เลยน๊ะถึงความลึกกับความดี ของประเทศไทยนั้นน่ะเป็นเยี่ยงใด 
|
|
|
|
![]() |
|
ทำดีย่อมได้ดี
|
เพลง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สวลี ผกาพันธ์ ขับร้อง คำร้อง/ทำนอง (ไม่มีข้อมูล)
คนเราทุกคน ว่ายวน ผลกรรมนำเนื่อง ตกต่ำ รุ่งเรือง เกี่ยวเนื่องแต่กรรมของตน ความดีค้ำจุนจากบุญกุศล ความชั่วจากบาปทุกคน เพราะตนนั้นก่อเวรไว้
บางคนถือดีมั่งมีเพราะทำกรรมชั่ว นั่นบาปสาปตัวเกลือกกลั้วมัวเมาเขลาไป บางคนระอาว่าเหตุไฉน ทำดีแต่จนเหลือใจ ไม่เห็นได้ดีเหมือนว่า
อย่าเพลินถือว่าเงินเป็นใหญ่ จิตใจเหนือสิ่งใดล้ำค่า เพราะความทุกข์ความสุขใดเป็นที่ใจใช่ที่ตา อย่าพะวงหลงลืมตน
**ทำดีทุกทีต้องมีผลดีโดยทั่ว ก่อกรรมทำชั่วได้ชั่วตอบแทนทุกคน คนดี รักดี โชคดีมีผล คนชั่ว ชั่วโฉดเฉาชน ไม่พ้นผลกรรมซ้ำเติม (ร้องซ้ำตั้งแต่ **) 
|
|
|
|
![]() |
|
ให้ข้อคิด!
|
สวัสดีค่ะคุณดีส บ้านเมืองเราตอนนี้ขยันมีข่าวต่างชาติภาษาเข้ามาเป็นหน้าหนึ่งในไทย ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ พม่า ญีปุ่น และปัจจุบันเรือชนกันคนจีนตายอีก
นี่เขาก็คงจะส่งตำรวจในบ้านเมืองของเขาเข้ามาหาข่าวกันอีกใช่ไหม หรือว่าท่านกรมหลวงชุมพรฯ ท่านทรงจะทำโทษใครกระนั้นหรือถึงได้เกิดแต่เรื่องในทะเลของไทยมาหลายข่าวแล้วน๊ะ ตั้งแต่พัทยาลงมาถึงเกาะเต่านั่นน่ะ ไปคิดให้ดีน๊ะว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในไทย และท่านกำลังจะบ่งชี้บอกเหตุอะไรให้พวกเราตระหนักกระนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
|
สวัสดีครับคุณจู
ช่วงคงจะมีข่าวของต่างประเทศมากสักหน่อยครับ...หยุดไป 2 วัน ชาตแบตเต็มที่ พลังงานคงกลับมาใหม่ใช่ไหมครับ...
|
|
|
|
![]() |
|
มันแพ้กันตรงไหน
|
|
|
|
|
![]() |
|
ข้อคิดสำหรับวันนี้!
|
|
|
|
|
![]() |
|
55555555
|
|
|
|
|
![]() |
|
บายยยยยยยยยยยย
|
|
|
|
|
![]() |
|
สะจายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
|
|
|
|
|
![]() |
|
ไหม?
|
|
|
|
|
![]() |
|
ขาดรักก็ขาดเงิน
|
เนื้อเพลง: ขาดเงินขาดรัก ศิลปิน: ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ อัลบั้ม: หัวแก้วหัวแหวน 1
พี่ถูกตัดรัก คนรักเขาลวง ดวงใจพี่เป็นแผล พี่เจ็บปวดช้ำ หัวใจเจียนแย่ แผลใจแผลใจ มันกำเริบเสิบสาน
รอพี่รอน้องพยาบาล รอพี่รอน้องพยาบาล พี่ต้องการหารัก รอพี่รอรักมาเป็นยา รอพี่รอรักเป็นยาใจ
ก็จนอย่างนี้ แล้วรักจะมีได้อย่างไร พอจะมีรัก แล้วต้องร้องไห้ ช้ำใจช้ำใจ จนหัวอกกลัดหนอง
เรายากจนไร้คนจะมอง เรายากจนไร้คนจะมอง ครองแต่ความเงียบเหงา คนอย่างเราเศร้าจนคนลือ คนอย่างเราเศร้าจนคนลือ
ขาดเงินขาดรัก ขาดรักจริง ผู้หญิงเขาถือ โปรดเถิดนะสงสารคนซื่อ น้องคือน้องคือ คือยอดดวงชีวา
จงเมตตาเห็นใจคนจน จงเมตตาเห็นใจคนจน พี่สู้ทนเฝ้าง้อ รอพี่รอขอความกรุณา จงเมตตาเห็นใจคนจน 
|
|
|
|
![]() |
|
รับรองได้
|
|
|
|
|
![]() |
|
เอาเข้าไป!
|
ดูตัวอย่างบังขายของเงินผ่อนนั่น ยังขยันไปเดินเก็บเงินเป็นวัน ๆ ไม่เห็นจะบ่นอันใด แต่นี่มีการขู่บังคับทุกอย่าง หากตั้งเป็นบริษัทนั้นก็ค้ากำไรอีกนั่นแหละจะบอกให้ ตั้งเป็นศูนย์บำบัดโรคทรัพย์จางกันไปเลยเพราะโรคนี้รักษาไม่หาย เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง หรือไม่ก็เอาชนะใจตัวเองกันไม่ได้ที่จะไม่สร้าหนี้สินเพราะตัณหาโฆษณาเกินจริงบนจอทีวีนั่นมีแต่เรื่องมโนกรรม มิใช่มโนธรรมแต่อย่างใด ที่จะให้ดำรงชีวิตแบบหรูหราฟู่พ่าแต่หนีี้ครัวเรือนกองหนาเยี่ยงทีวีที่เพิ่มช่องอีกนั้นหนาก็หายุติตัณหาแต่อย่างใดไม่ 
|
|
|
|
![]() |
|
คิดเพื่อประเทศไทย
|
เมื่อก่อนเราเห็นพวกมิชชันนารีเขาขี่จักรยานไปเผยแพร่ศาสนาคริสต์ตามหมู่บ้าน ชุมชน ต่าง ๆ แล้วก็มาคิดว่าน่าจะมีหน่วยงานขี่จักรยานแบบพวกมิชชันนารีเหล่านี้ออกไปเผยแพร่เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน หมู่บ้าน และก็มีการเผยแพร่วิทยาการการดำรงชีวิตที่ดีแก่ครัวเรือนนี่ควรจะทำอย่างไร
หรือไม่ก็ตั้งศาลาธรรมที่จะมีพระมาสวดมนต์หรือทำศาสนกิจกันในหมู่บ้าน ตำบล กันขึ้นมาใหม่ เหมือนเมื่อสมัยที่เราเป็นเด็กนั่น ในหมู่บ้านจะร่วมกันทำบุญสังสรรค์กันและพบปะพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ ในหมู่บ้านที่มีศาลาธรรมนี่แหละที่จะทำบุญด้วย บอกบุญด้วย และก็เผยแพร่การดำรงตนด้วยมีประโยชน์อย่างมากมาย บางทีศาสนาก็ต้องเข้าถึงประชาชนมากกว่าที่จะคิดสรรค์ได
แต่ปัจจุบัน เดลิเวอรี่ส่งพิซซ่า ไก่ทอดเคเอฟซี เร็วกว่าศาสนาอีกน๊ะจะบอกให้ มันกลับกันไปแล้วในทุกวันนี้ ต้องเอาวิถึชีวิตแบบเดิมที่เมื่อเริ่มต้นเปิดประเทศไทยคือการบำรุงรักษาพัฒนาทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งหมดนั้นต้องยกมาตั้งต้นกันใหม่แล้วกระมังในประเทศไทย 
|
|
|
|
![]() |
|
สันติสุขอันแท้จริง!
|
แต่ศาลาธรรมที่ว่านี้ก็คือ บ้านทรงไทย ของทหารนั่นไงที่จะมาตั้งเพื่อให้เป็นศูนย์กลางพบปะพูดคุยสร้างความสุขในชุมชนขึ้นมาใหม่ นั่นแหละคือ วิถึไทย เอาบ้านทรงไทยของทหารนั้นไปตั้งในชุมชนเพื่อจัดทำโครงการพบปะประชาชน และก็ทำบุญทำกุศลร่วมกัน มีพระมาสวดมนต์เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกันขึ้นมาใหม่ นี่แหละคือ ความสุขอันแท้จริงของคนไทยวิถีไทย ก็จะมีอะไรก็แค่เรื่องบุญทานบารมี แล้วก็การพูดคุยกันแต่เรื่องที่ดี ๆ ในการดำรงชีวิตที่ดีในประเทศไทยให้เกิดความพอเพียง สมดุล ไม่เกินดุลจนทำให้สังคมเสื่อมทรามไปกระนั้นได้ 
|
|
|
|
![]() |
|
ดูให้ดีดี
|
ทุกอย่างที่พูดนี้ บริษัท ซี.พี. มีทุกอย่างที่คิดสรรค์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ธรรมะ เรื่องอาหารการกิน เรื่องผลิตคนดี แล้วเรื่องบรรเทาทุกข์เรื่องหนี้นี่คิดไม่ออกเลยหรือที่จะทำกันไม่ได้ คนที่เรียกในโรงเรียนภิวัฒน์อะไรนั่นก็มากมายที่จะมาทำการเป็นคนเผยแพร่ให้รัฐบาลได้ที่จะทำโครงการดี ๆ หลาย ๆ อย่างเพื่อสร้างความมั่นคงแบบบูรณาการให้กับประเทศไทย
เสร็จแล้วความคิดนี้ก็จะมีผู้ต่อต้านแบบที่ โครงการบั่นทอนความมั่นคงแบบบูรณาการมาสอดรับกันนั้นได้
และก็จะเป็นอย่างข้อหลังนี้เสียมากกว่า คือ โครงการบั่นทอนความมั่นคงแบบบูรณาการนี่แหละหนาไม่รู้ว่าตอนนี้มันสานฝันกันไปถึงไหนกันแล้วนั้นได้ ให้ประชาชนตรวจสอบกันให้ดีน๊ะว่าตอนนี้น่ะจะประสบความสำเร็จกันหรือยังในประเทศไทย 
|
|
|
|
![]() |
|
|