AMD ตั้งเป้าเสริมความเยี่ยมยอดด้านคอนเทนต์ ความสะดวก และความสามารถในการใช้งานร่วมกันด้วยเทคโนโลยี LiquidVR™ - AMD สร้างแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่ เพื่อการทำงานให้เกิดความสมจริงไม่มีการกระตุก และความเร็วในการตอบสนองในโลกเสมือนจริง -ซานฟรานซิสโก, แคลิฟอร์เนีย: ในงาน
Game Developer Conference ระดับโลก AMD (NASDAQ: AMD) ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการพัฒนาระหว่าง AMD กับพันธมิตร เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่ดีที่สุดให้กับนักพัฒนาและผู้ใช้ ที่เรียกว่า LiquidVR™ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอีกขั้น ในการพัฒนาคอนเทนต์แบบเสมือนจริงได้เยี่ยมยอดบนฮาร์ดแวร์ของ AMD เพิ่มความสะดวกการใช้งานกับ VR แอพพลิเคชั่น และรองรับกับ VR เฮดเซ็ต สำหรับ LiquidVR SDK ตัวใหม่นี้จะช่วยลดข้อจำกัดในเรื่องการจัดการคอนเทนต์ ความสะดวกในการใช้งาน และการปฏิบัติการร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนาเทคโนโลยีเสมือนจริงให้สมจริงมากยิ่งขึ้นเพิ่มประสบการณ์ไม่ว่าจะอยู่ในเกมหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ
คอนเซ็ปท์ของความเสมือนจริงนั้น ก็คือ การที่ผู้ใช้รู้สึกดื่มด่ำ ได้รับประสบการณ์เหมือนเข้าไปอยู่จริงใน สภาพแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี ข้อจำกัดในปัจจุบันของสภาวะเสมือนจริง คือ การเกิดจุดชะงัก motion-to-photon latency คือ ช่วงรอยต่อของระยะเวลาที่ภาพจะถูกสร้างขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวศีรษะ หรือของสิ่งของที่ตาอยู่ การลดช่วงรอยต่อ motion-to-photon latency ให้เหลือน้อยที่สุด เป็นปัจจัยสำคัญมากที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกอยู่ในสภาพเสมือนจริงมากที่สุดเช่นกัน
ทั้งนี้การลด latency ต้องเริ่มทำตั้งแต่ GPU ไปจนถึงแอพพลิเคชั่นและเทคโนโลยีการแสดงผลในเฮดเซ็ท ซึ่งทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ AMD เป็นส่วนสำคัญในการลด latency และด้วยเทคโนโลยี LiquidVR™ นี้ จะทำให้นักพัฒนาและผู้คิดคอนเทนต์สามารถผลิตผลงานที่เสมือนจริงที่ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลและมีการตอบสนองที่รวดเร็ว
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ AMD ได้เข้ามาช่วยในเรื่อง latency ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง asynchronous time warp และ late latching และช่วยพัฒนาความสามารถในการใช้งานร่วมกัน เพื่อให้ผู้ใช้งาน Oculus สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ที่ใช้งานบนฮาร์ดแวร์ของ AMD” Brendan Iribe ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Oculus กล่าว
“คอนเทนต์ ความสะดวกในการใช้งาน และความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน ทั้งสามสิ่งนี้เป็นเป้าหมายหลักของ AMD ในการพัฒนาเทคโนโลยีเสมือนจริง ทั้งนี้ LiquidVR™ ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของเราในการแก้ไขข้อจำกัดต่างๆเพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆให้สมจริงยิ่งขึ้น” Raja Koduri รองผู้อำนวยการ ด้าน Visual Computingของ AMD กล่าวเสริม “AMD มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับ VR ecosystem ในการส่งมอบเทคโนโลยี LiquidVR ที่มีเป้าหมายในการสร้างโลกเสมือนให้สมจริงมากที่สุดต่อไป”
ฟีเจอร์หลักๆ ของ LiquidVR SDK เวอร์ชั่น 1.0 รวมถึง :
- Async Shaders เพื่อ head-tracking ที่ลื่นไหลจะช่วยลดlatency ระหว่างที่ผู้ใช้ขยับศีรษะและระยะเวลาที่ภาพจะเกิดขึ้นที่จอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
Affinity Multi-GPUสำหรับการเรนเดอร์ภาพ จะทำให้ชุดกราฟฟิกการ์ดสามารถทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขเฟรมเรตใน VR แอพพลิเคชั่น โดยการจ่ายงานให้ประมวลผลในกราฟฟิกการ์ดที่แตกต่างกันออกไป กราฟฟิกการ์ดแต่ละตัวจะเรนเดอร์ภาพจากตาแต่ละข้าง หลังจากนั้นจะรวมภาพเข้าด้วยกันให้เป็นแบบสามมิติ เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้สามารถเรนเดอร์ภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อทำให้ภาพ เคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล
- Data Latch เพื่อ head-trackingที่ลื่นไหลจะช่วยให้รับข้อมูล head tracking จาก head-mounted displayส่งไปยังกราฟฟิกการ์ดได้อย่างรวดเร็ว
- Direct-to-display จะช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างกราฟฟิกการ์ดของ AMDและ VR เฮดเซ็ท สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
ทั้งนี้ AMD ได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถดาวน์โหลด LiquidVR SDK 1.0 เวอร์ชัน alpha ได้แล้ว
เกี่ยวกับ AMD เอเอ็มดี (NASDAQ:AMD) เป็นผู้ออกแบบและประสานเทคโนโลยีที่ใช้ขับเคลื่อนอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ เช่น
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แท็บเล็ต เกมคอนโซล และคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์แห่งยุค Surround Computingยุคใหม่ โซลูชั่นของเอเอ็มดีจะทำให้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากแอพพลิเคชันและอุปกรณ์ชิ้นโปรดได้อย่างไร้ข้อจำกัด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.amd.com
