
กีฬา
มวยเป็นกีฬาของนักสู้ ชีวิตการเป็นนักชกจึงไม่ใช่ง่าย สำหรับ
อำนาจ เกษตรพัฒนา แม้จะเคยก้าวพลาดพลั้งไปในอดีต แต่เพราะความตั้งใจและความเพียรพยายามครั้งใหม่ ทำให้วันนี้ อำนาจ กลายเป็น นักชกแชมป์โลก ขวัญใจชาวไทย อำนาจในวัยเด็กไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาเพราะไม่มีหลักฐานรับรองการเกิดว่าเป็นคนไทยจนกระทั่งอายุ 16 ปีจึงได้สัญชาติไทย อำนาจเป็นเด็กกำพร้าไม่มีทั้งพ่อและ
แม่ จึงถูกเลี้ยงดูมาโดยผู้เป็นยายเริ่มต้นชก
มวยไทยตั้งแต่อายุได้เพียง 7 ขวบ ก่อนจะย้ายไปหลายค่ายสุดท้ายซ้อมที่ค่าย ป.บูรพา โดยใช้ชื่อว่า "เพชร ต.บางแสน" หรือ "เพชร ป.บูรพา" โดยประสบความสำเร็จได้แชมป์รุ่นฟลายเวท เวทีลุมพินี จากการเอาชนะ แดนสยาม เกียรติรุ่งโรจน์ และป้องกันตำแหน่งไว้ได้หนึ่งครั้ง ก่อนจะเสียแชมป์ในการป้องกันตำแหน่งครั้งต่อมา

ต่อมาอำนาจต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำนาน 18 เดือน จากคดีวิ่งราวกระเป๋า ซึ่งทำไปเพราะถูกตัดขาดจากหัวหน้าคณะ ทำให้ไม่สามารถขึ้นชกมวยได้ และเป็นฝ่ายอำนาจเองที่สำนึกผิดเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเริ่มหัดมวยสากลสมัครเล่นภายในเรือนจำเมื่อปี พ.ศ. 2548 ได้เหรียญทองกีฬาราชทัณฑ์ 2 ปีซ้อน แล้วได้เหรียญทองรายการชิงแชมป์ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2547 หลังจากที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยได้ทั้งที่เจ้าตัวยังต้องโทษอยู่ในเรือนจำ จนกระทั่งได้รับการดึงตัวให้เข้ามาซ้อมร่วมทีมชาติในทันทีที่พ้นโทษ และเส้นทางชีวิตก็พลิกจากมุมมืดสู่ความสดใสทันที เพราะช่วงนั้นเป็นจังหวะที่ สุบรรณ พันโนน นักมวยมือหนึ่งทีมชาติไทยมีปัญหาบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากทีมชาติ จึงทำให้อำนาจได้กลายเป็นนักมวยทีมชาติตัวจริงทันที และยึดตำแหน่งเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
อำนาจ ถือเป็นนักมวยที่มีพรสวรรค์และทักษะลีลาดี สามารถปรับทักษะจากมวยไทยมาเป็นมวยสากลสมัครเล่นได้อย่างรวดเร็ว เคยสร้างชื่อเสียงมาแล้วด้วยการสามารถเอาชนะ โจว ซื่อหมิง (เจ้าของเหรียญทองในรุ่นไลท์ฟลายเวท โอลิมปิก 2008และโอลิมปิก 2012 และแชมป์มวยสากลสมัครเล่นโลก 3 สมัย) นักมวยชาวจีนในรายการคิงส์คัพ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ก่อนจะเดินทางไปคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันเวิลด์แชมเปี้ยนชิพที่สหรัฐอเมริกามาได้สำเร็จ ซึ่งนั่นก็ทำให้อำนาจได้รับรางวัล "นักกีฬาหน้าใหม่ยอดเยี่ยม สยามกีฬาอวอร์ดส์" มาครองได้อย่างน่าทึ่ง

ก่อนการแข่งขัน อำนาจได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ว่าเป็น 1 ใน 100 นักกีฬาที่น่าจับตามองในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ในรอบแรกอำนาจเอาชนะ แจ็ค วิลลี่ นักมวยปาปัวนิวกินีไปได้ 14-2 หมัด ในรอบสองเอาชนะ เนสตัน มอนเตโร่ จากโดมินิกัน ขาดลอย 7-3 หมัด แต่ในรอบชิงเหรียญทองแดงอำนาจเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เซอร์ดัมบา ปูเรฟดอร์จ นักมวยมองโกเลีย (ต่อมาได้ชิงเหรียญทองแต่แพ้ให้กับ โจว ซื่อหมิง) ไป 3-5 หมัด ซึ่งการชกครั้งนี้ได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าอำนาจชกแล้ว
คะแนนไม่ขึ้น พร้อมทั้งมีการตั้งข้อกังขาเรื่องการให้คะแนนของกรรมการด้วย

ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 อำนาจเทิร์นโปรขึ้นชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกด้วยวัย 35 ปี ในสังกัดเกียรติกรีรินทร์โปรโมชั่น โดยขึ้นชกกับ ริโน่ ยูครู นักมวยอินโดนีเซีย ร่วมรายการเดียวกับ แท่งทอง เกียรติทวีสุข ชกเพื่อคัดเลือกตัวไปชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท IBF กับ มาทูเบ ซินยาบี นักมวยชาวแอฟริกาใต้ ที่ จังหวัดนครราชสีมา ผลปรากฏว่า อำนาจสามารถเอาชนะน็อกได้ในยก 4 ต่อจากนั้น ทำสถิติชกชนะรวดต่อเนื่องจนได้ชิงแชมป์ IBF Asia รุ่นฟลายเวทที่ว่างกับ ไมเคิล โรดริเกวซ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ปรากฏว่า อำนาจชนะคะแนน ได้แชมป์ IBF Asia ในรุ่นฟลายเวทไปครอง ต่อจากนั้นก็ป้องกันแชมป์ไว้ได้ 3 ครั้ง
ต่อมาในต้นปี พ.ศ. 2557 ได้แชมป์โลกในรุ่นฟลายเวท ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ด้วยการชิงแชมป์ว่าง ด้วยการเอาชนะคะแนน ร็อคกี้ ฟูเอนเตส นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 117-111, 116-112 และ 116-112 ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งหลังการชกครั้งนี้อำนาจได้รับการยกย่องจากที่ประชุม IBF ที่แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมของทวีปเอเชียด้วย
อำนาจมีความต้องการจะพบกับ โจว ซื่อหมิง ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าที่ได้หันมาชกมวยสากลอาชีพเช่นเดียวกันหลังจบโอลิมปิก 2012 ก่อนที่จะแขวนนวมไปในที่สุด ซึ่งอำนาจเคยชนะ โจว ซื่อหมิง ได้ 1 ครั้ง และแพ้ไป 2 ครั้ง โดยทั้งคู่มีกำหนดชกกันที่โคไทอารีนา ภายในเดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558 โดยถือเป็นรายการใหญ่ที่จัดโดย บ๊อบ อารัม โปรโมเตอร์ระดับโลกชาวอเมริกัน ในชื่อรายการว่า "โชว์ดาวน์แอตแซนด์" (Showdown at Sands) ผลปรากฏว่าอำนาจเป็นฝ่ายดักชก และสามารถเอาชนะคะแนนไปได้อย่างขาดลอยด้วยคะแนน 116-111 ของกรรมการทั้ง 3 เสียง แม้จะเป็นฝ่ายโดนนับ 8 ในยกที่ 2 จากจังหวะที่ทั้งคู่กอดรัดกันก็ตาม อีกทั้งระหว่างช่วงพักยกให้น้ำ อำนาจยังเป็นฝ่ายยืนอีกด้วย โดยไม่ขอนั่งเหมือนกับการชกกับ คาซูโตะ อิโอกะ ที่ประเทศญี่ปุ่น