หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ผู้บริโภค คือพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมปลาทูน่า  (อ่าน 46 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 27 ต.ค. 15, 15:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

Blogpost โดย รัตนศิริ กิตติก้องนภางค์

กฎพื้นฐานอย่างหนึ่งของอุปสงค์และอุปทาน คือ เมื่อผู้บริโภคเลือกไม่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ชนิดใด และมีปริมาณความต้องการซื้อลดลง ปริมาณความต้องการขายก็จะลดลงตามไปด้วย เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องที่ผู้บริโภคจากทั่วโลกกำลังร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดความเป็นธรรมและยั่งยืนอยู่ในขณะนี้ หากคุณไม่เชื่อว่าพลังจากผู้บริโภคสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับอุตสาหกรรมปลาทูน่าได้ ลองอ่านเรื่องราวต่อไปนี้ นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ



อีกด้านหนึ่งของอุตสาหกรรมประมงทูน่าที่ไม่สามารถควบคุมได้ยังคงใช้การประมงแบบทำลายล้าง คร่าชีวิตของสัตว์ที่ไม่ใช่เป้าหมาย เช่น เต่าและฉลาม ไม่เพียงแต่ระบบนิเวศจะตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น แต่กฎหมายที่หละหลวมทำให้อุตสาหกรรมประมงมีช่องโหว่ในการใช้แรงงานที่ได้มาจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานบนเรือประมงต่างๆ โดยไม่ได้ขึ้นฝั่งเลยติดต่อกันหลายปี และศูนย์กลางของอุตสาหกรรมนี้ คือ ไทยยูเนี่ยน เจ้าของแบรนด์ทูน่ากระป๋องอย่าง Sealect ที่ผ่านมา บริษัทผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าทำการประมงราวกับถือคติว่า ไกลตา ไกลใจ ผู้บริโภคไม่เห็นจึงไม่ใส่ใจ แต่ตอนนี้ประชาชนกว่า 225,000 คนจากทั่วโลกกำลังออกมาเปล่งเสียงให้อุตสาหกรรมปลาทูน่าได้รับรู้ว่า พวกเขาใส่ใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมาเป็นทูน่ากระป๋องในซูเปอร์มาร์เก็ต

แบรนด์ทูน่ากระป๋องหลายแบรนด์ออกมาแสดงเจตนารมณ์พร้อมเปลี่ยนแปลง

หลายแบรนด์ อาทิ Conntable ประเทศฝรั่งเศส Sealord ประเทศนิวซีแลนด์ Oriental Pacific สหราชอาณาจักร ซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ออกมาแสดงเจตนารมณ์หันมาสนับสนุนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องที่มาจากการประมงด้วยวิธีที่ปราศจากการใช้อุปกรณ์ล่อปลา (FAD-free) หลังจากที่ประชาชนในฐานะผู้บริโภคที่มีความตระหนักหลายหมื่นคนร่วมกันส่งเสียงเรียกร้อง

นอกจากนี้ แบรนด์ทูน่ากระป๋องชื่อดังของออสเตรเลียต่างๆ ได้แก่ Coles, Woolworths, Aldi, John West, IGA, Sirena และ Greenseas ได้ออกมาประกาศยุติการใช้การใช้อุปกรณ์ล่อปลา (FAD-free) หลังจากที่ชาวออสเตรเลียกว่า 50,000 คนออกมาแสดงพลังเรียกร้อง



ภาพด้านบนนี้คือเรือ Albatun Tres ซึ่งเป็นเรืออุตสาหกรรมประมงปลาทูน่าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ใช้อวนล้อมประกอบกับอุปกรณ์ล่อปลา สามารถจับปลาทูน่าได้ครั้งละ 3,000 ตัน ซึ่งนับว่ามากกว่าปริมาณที่ชาวประมงในบางประเทศทางหมู่เกาะแปซิฟิคสามารถจับได้ต่อปี การทำประมงปลาทูน่าส่วนใหญ่จะใช้อุปกรณ์ล่อปลา (FADs) ร่วมกับอวนล้อมขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นวิธีการทำประมงแบบกวาดล้อมและคร่าชีวิตสัตว์น้ำทุกชนิดที่เข้ามาในอวน ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่าที่เป็นเป้าหมาย ไปจนถึงฉลาม เต่าทะเล วาฬขนาดเล็ก และปลาวัยอ่อนชนิดอื่นๆ สัตว์น้ำเหล่านี้เรียกว่าการจับสัตว์น้ำพลอยได้ (Bycatch) ซึ่งหากยังประมงด้วยวิธีทำลายล้างเช่นนี้ต่อไป จะเป็นการเร่งให้ปลาทูน่าบางสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ครีบเหลือง และครีบน้ำเงิน เสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์ได้

ซูเปอร์มาร์เก็ตและตัวแทนจัดจำหน่ายออกมาร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อมหาสมุทรและผู้บริโภค

ไม่ใช่เพียงแค่แบรนด์ทูน่ากระป๋องเท่านั้น แต่ผู้บริโภคในหลายประเทศก็สามารถผลักดันให้ซูเปอร์มาร์เก็ตออกมาแสดงจุดยืนสร้างการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ดังเช่นในประเทศสหราชอาณาจักร Tesco, Morrison และ Asda ได้ออกมาแสดงเจตนารณ์สนับสนุนการประมงปลาทูน่าอย่างยั่งยืนเช่นกัน รวมถึงยังมี Systme U ประเทศฝรั่งเศส และที่ประเทศอเมริกา ตัวแทนจัดจำหน่ายอย่างบริษัท Hy-Vee ก็ได้ออกมาให้คำมั่นว่าจะจำหน่ายปลาทูน่าที่มาจากการประมงอย่างยั่งยืนขึ้นเช่นกัน

การที่ผู้บริโภคออกมาร่วมกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือการที่ผู้บริโภคออกมาแสดงจุดยืนว่าไม่ต้องการทูน่ากระป๋องที่เชื่อมโยงกับการทำลายระบบนิเวศของมหาสมุทร หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นการส่งสาส์นเตือนไปยังแบรนด์ทูน่ากระป๋องว่า ผู้บริโภคกำลังจับตามองพฤติกรรมทั้งดีและร้ายของอุตสาหกรรมอยู่

ผู้บริโภคทั่วโลกกำลังผลักดันให้ไทยยูเนี่ยนออกมาสร้างการเปลี่ยนแปลง

หลายแบรนด์ หลายตัวแทนจำหน่ายออกมาแสดงเจตนารณ์พร้อมเปลี่ยนแปลงแล้ว และในครั้งนี้ผู้บริโภคกำลังเรียกร้องให้ไทยยูเนี่ยน อุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดของโลก หันมาใช้วิธีการทำประมงแบบยั่งยืน ส่งผลกระทบต่อมหาสมุทรน้อยที่สุด รวมถึงคุ้มครองแรงงานบนเรือประมงตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพราะหากเราสามารถเปลี่ยนแปลงไทยยูเนี่ยนได้ อุตสาหกรรมปลาทูน่าทั้งหมดก็จะปรับเปลี่ยนตามได้เช่นกัน ไทยยูเนี่ยน เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปลาทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีความเชื่อมโยง และยังคงเพิกเฉยกับการทำลายสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนของแรงงานบนเรือประมง แต่พลังของเราสามารถเปลี่ยนแปลงไทยยูเนี่ยนได้ ดังเช่นการผลักดันของผู้บริโภคที่ทำให้ ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของอังกฤษต่างหันมาใช้ปลาทูน่ามาจากการประมงแบบยั่งยืนมาแล้ว



อุตสาหกรรมปลาทูน่าที่ยั่งยืนและเป็นธรรม หมายถึงอุตสาหกรรมที่แรงงานได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ชุมชนชายฝั่งได้รับผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเล ระบบนิเวศในมหาสมุทรไม่ถูกทำลาย สัตว์ทะเลไม่ถูกคร่าชีวิตไปกับการเป็นผลพวงของการทำประมงแบบทำลายล้าง และปลาทูน่าสายพันธุ์ต่างๆ มีโอกาสเจริญเติบโตแพร่พันธุ์ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม อุตสาหกรรมเช่นนี้สามารถเป็นจริงได้ เพียงแค่ทุกคน ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ด้วยพลังของผู้บริโภค

ร่วมลงชื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่นี่ http://grnpc.org/Ig2Ge #‎NotJustTuna

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/54553/

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ต.ค. 15, 15:34 น โดย d00bd00b » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:  notjusttuna  tuna  ocean  ปลาทูน่า  ทูน่า  ทะเล  มหาสมุทร  ผู้บริโภค 

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม