24 สิงหาคม 2560 พัทยา จ.ชลบุรี: สำนัก
งานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เดินหน้าตอกย้ำจุดขายประเทศไทยต่อตลาดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ (MICE) ต่างประเทศ ชูกลยุทธ์สื่อสารการตลาดสนองตอบนโยบายเศรษฐกิจตามโมเดล ไทยแลนด์ 4.0 และ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (The Eastern Economic Corridor) โดยเล็งการเติบโตของธุรกิจไมซ์ในพื้นที่ พัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯ รองรับโอกาสจากการลงทุน และระบบคมนาคมความเร็วสูง เพื่อหนุนรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ควบคู่การพัฒนาประเทศ
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ตามที่ภาครัฐ ได้ประกาศนโยบายและทิศทางในการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0โดยมีการออกมาตรการเพื่อการปฏิรูปภาคเศรษฐกิจ อาทิ การส่งเสริมสภาพแวดล้อมด้านการลงทุน การพัฒนานวัตกรรมและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยทีเส็บ เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของภาคธุรกิจและกิจกรรมที่เกี่ยวกับไมซ์ ที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สำหรับการประชุมสัมมนา และจะส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ
นอกจากนี้ ทีเส็บ ยังดำเนินกิจกรรมเพื่อตอกย้ำการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยและอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทย International Media Familiarisation Trip (IMFT2017) ระหว่างวันที่ 15-19 สิงหาคมนี้ โดยเชิญผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 35 สำนักข่าวจาก 16 ประเทศ มาเยี่ยมชมและสัมผัสศักยภาพของจุดหมายปลายทางด้านไมซ์ชั้นนำของไทย ได้แก่ พัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯ ภายใต้ธีม “CONNECT Thailand: Kingdom of Bleisure, นำเสนอประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์ที่ยังเพียบพร้อมด้วยกิจกรรมพักผ่อนที่สร้างความประทับใจได้อย่างตอบโจทย์นักเดินทางกลุ่มไมซ์
สำหรับการโปรโมทศักยภาพด้านไมซ์ของทั้งสามเมือง ทีเส็บ นำเสนอจุดแข็งในด้านต่างๆ อาทิ พัทยา เมืองแห่งธุรกิจและการพักผ่อน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี พื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยมีการคาดการณ์เม็ดเงินลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 1.505 ล้านล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโครงการระดับใหญ่หลายโครงการ อาทิ การยกระดับสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือแหลมฉบัง โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง โครงการพัฒนาโครงข่ายด้านคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงการจูงใจนักลงทุนด้วยมาตรการทางภาษี เพื่อส่งเสริมให้ อีอีซี เป็นฐานของ 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตตามเป้าหมายไทยแลนด์4.0 ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้จะส่งผลดีต่อพัทยาในการเป็นจุดหมายของนักธุรกิจและนักเดินทางกลุ่มไมซ์
ผนวกกับความพร้อมในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่พัทยามีรองรับอยู่แล้ว เช่น ศูนย์แสดงนิทรรศการ สถานที่จัดงานประชุมสัมมนาที่มีให้เลือกหลากหลาย โรงแรมห้องพักหลายระดับ แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลอันเป็นที่นิยม และแหล่งกิจกรรมผ่อนคลายสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ในพัทยา อาทิ ศูนย์การจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติแห่งใหม่ที่สวนนงนุช พร้อมหอประชุมขนาดใหญ่ รองรับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เป็นจำนวนมาก คานโชว์ (KANN Show) ซึ่งเป็นการแสดงไลฟ์โชว์โดยประยุกต์เรื่องราวจากวรรคดีไทย และ เฮลท์แลนด์ สปา พัทยา (Health Land Spa Pattaya) ซึ่งเป็นหนึ่งในด้านการนวดและสปาในระดับภูมิภาค
สำหรับ หัวหิน เป็นจุดหมายที่สามารถเชื่อมโยงกับเมืองพัทยาด้วยบริการเรือเฟอรรี่ข้ามอ่าวไทยด้วยเวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง โดยเป็นเมืองชายทะเลที่มีมนต์เสน่ห์และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระราชวงศ์ของไทย ปัจจุบัน มีโรงแรมระดับห้าดาวหลากหลายแบรนด์ และยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ตอบโจทย์ในการจัดกิจกรรมด้านไมซ์ ซึ่งเน้นความหรูหรา พิเศษและแตกต่าง ทั้งนี้ หัวหินมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไมซ์ที่ครบครัน อาทิ สนามกอล์ฟ สถานที่ให้บริการสปาระดับหรู ห้องพัก และสถานที่จัดงานระดับใหญ่ โดยนักเดินทางที่มาจัดกิจกรรมไมซ์ในหัวหิน สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเมืองชายทะเล ความหลากหลายของร้านอาหารทะเล และ สีสันของตลาดโต้รุ่ง ทั้งนี้ ปัจจัยบวกด้านโครงการพัฒนาด้านการคมนาคม ตามแผนเชื่อมโยงกรุงเทพฯ-หัวหินด้วยรถไฟความเร็วสูง จะส่งผลต่อการขยายตัวของกิจกรรมด้านไมซ์ในหัวหินในอนาคต ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 94,670ล้านบาท และอยู่ในระหว่างการเปิดรับฟังเสียงภาคเอกชน