คอฟฟี่ ดรีมมี่ ผู้ผลิตครีมเทียมคุณภาพ จัดกิจกรรม“คอฟฟี่ ดรีมมี่ พาบิน เปิดสูตรลับ ชานมไข่มุกที่ไต้หวัน” เยี่ยมชมอคาเดมีชานมไข่มุกที่โด่งดังพร้อมเวิร์คช้อปสูตรลับชานมไข่มุกจากร้านต้นตำรับ
นายภาณุ มหัทธโนบล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายครีมเทียมคอฟฟี่ ดรีมมี่ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมพิเศษ “คอฟฟี่ ดรีมมี่ พาบิน เปิดสูตรลับ ชานมไข่มุกที่ไต้หวัน” ว่า “กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นความตั้งใจของคอฟฟี่ดรีมมี่ ที่ต้องการให้ความรู้กับผู้ประกอบการในการใช้ประโยชน์ของ ครีมเทียม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากไขมันทรานส์ ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน ช่วยเพิ่มรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมใช้เป็นส่วนผสมของขนมหวาน ไอศกรีม กาแฟและโดยเฉพาะชานมไข่มุก เครื่องดื่มยอดนิยมที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีมูลค่าสูงถึงกว่า 6 หมื่นล้าน และคาดว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆถึงแสนล้านในปี 2023 (ข้อมูลจาก Allied Analytics) โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เครื่องดื่มชานม กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น และเป็นธุรกิจที่ขยายตัวรวดเร็ว เนื่องจากเปิดง่ายกว่าร้านอาหาร ใช้พื้นที่น้อย ค่าเช่าถูก และขอใบอนุญาตง่าย และชานมไข่มุกที่กลับมาถูกใจวัยรุ่นอีกครั้ง เป็นชานมไข่มุกที่เรียกกระแสในโลกโซเชียล คือ ชานมไข่มุก ที่ใช้แบล็คชูการ์ และบราวชูการ์ มาสร้างสีสันให้ชานมไข่มุก มีความหอม และน่ารับประทานมากขึ้น
ซึ่งกิจกรรมพิเศษครั้งนี้ คอฟฟี่ ดรีมมี่ ได้พาคณะไปที่ บริษัท พอสเม่ จำกัด (Possmei) โรงเรียนสอนชานมไข่มุก และศูนย์การเรียนรู้การทำธุรกิจชานมไข่มุกที่ครบวงจร ตั้งแต่คิดสูตร ทำการตลาด อบรมพนักงาน จัดหาวัตถุดิบฯลฯ ซึ่งมีสาขาในอเมริกาและเยอรมนี โดยอยู่เบื้องหลังแบรนด์ชานมไข่มุก bb.Tea ที่ฝรั่งเศส และ Bubbleeology ที่โด่งดังในอังกฤษ และนับว่า พอสเม่ คือหนึ่งในเบื้องหลังของชานมไข่มุกสูตรแบล็คชูการ์ และบราวชูการ์ ที่ทำให้ชานมไข่มุกกลับมาฮิตอีกครั้ง
และทีเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ คือ การร่วมเวิร์คช้อปทำชานมไข่มุก ที่ร้านชุนซุ่ยถัง ร้านต้นรับชานมไข่มุกไต้หวัน เจ้าแรกผู้คิดค้นเมนูชานมไข่มุก ซึ่งเปิดตั้งแต่ปี 1987 ปัจจุบันมี 49 สาขาในไต้หวัน ซึ่งที่นี่ คอฟฟี่ดรีมมี่ ได้ช่วยไขความลับของชานมไข่มุก ซึ่งเคล็ดลับที่แท้จริงอยู่ที่การเขย่าชา และวัตถุดิบที่ช่วยความกลมกล่อมอย่างครีมเทียม
โดยคุณภาณุ ผู้บริหารคอฟฟี่ ดรีมมี่ ได้พาคณะลงมือทำชาไข่มุก ซึ่งส่วนประกอบสำคัญคือ ไข่มุก ที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง, แบล็คชูการ์, ชา และครีมเทียม ซีงเริ่มต้นด้วยการผสมน้ำชากับแบล็คชูการ์ และน้ำแข็งสำหรับสูตรชาไข่มุก และเพิ่มส่วนผสมของครีมเทียมสำหรับชานม เขย่าให้เป็นจังหวะให้เกิดฟองอากาศ เพื่อให้ “แทนนิน” ในใบชาทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้เกิดฟองที่ด้านบนของน้ำชา ซึ่งให้กลิ่นหอม นุ่มลิ้น ดับกระหาย โดยชาจะอร่อยมากขึ้น ถ้าถูกเขย่าอย่างเร็วและแรง
ทั้งนี้ ชานมไข่มุก มีต้นกำเนิด ต้นทศวรรษที่ 1988 และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญในปัจจุบันของประเทศไต้หวัน โดยนำเอาเม็ดแป้งมันสำปะหลังต้ม ที่เป็นวัตถุดิบในการทำขนมพื้นเมืองผสมลงไปในชา แล้วดื่มพร้อมกันรสชาติหวานมันของนมกลิ่นหอมของชา และความเหนียวหนึบนุ่มหนับของเม็ดแป้งผสมกันพอดี ชานมไข่มุกคือตัวแทนความเป็นไต้หวัน ถ้าวัฒนธรรมชาเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมจีนที่ยิ่งใหญ่ชานมไข่มุก ก็เป็นตัวแทนของความเป็นไต้หวันที่แตกต่างจากจีนดั้งเดิม องค์ประกอบของชานมไข่มุกล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไต้หวันภาคภูมิใจ ใบชาจากบริเวณเทือกเขาทางเหนือและตอนกลางของประเทศ เช่น ใบชาจินซาน ใบชาอาลีซาน น้ำนมโคจากฟาร์มที่มีชื่อเสียงทั้งบริเวณชิงจิ้ง หรือเกาะจินเหมิน น้ำตาลทรายแดงจากไร่อ้อยและเยลลี่ที่ทำจากผลไม้ที่ปลูกบริเวณเมืองไถหนานและเกาสงทางตอนใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม็ดไข่มุกสีดำที่ทำจากมันสำปะหลัง ซึ่งมีที่มาจากส่วนผสมในขนมพื้นเมืองไต้หวันที่เรียกว่า เฟินหยวนในชานมไข่มุกหนึ่งแก้วจึงเป็นเหมือนส่วนผสมขององค์ประกอบความเก่าแก่ของวัฒนธรรมชาจีน และความใหม่ทันสมัยของการเป็นไต้หวันเข้าด้วยกัน
การกลับมาอีกครั้งของชานมไข่มุกในราวปี 2016 ชานมไข่มุกได้กลับเข้าสู่กระแสความนิยมอีกครั้งโดยพ้องกับการเข้าสู่ตำแหน่งของไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของไต้หวัน และพรรค DPP หลังการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมกระแสความนิยมไต้หวันเริ่มแพร่สะพัดภายหลังไต้หวันใช้นโยบาย New Southbound Policy เปิดให้นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศเข้าไปท่องเที่ยวในไต้หวันได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า รวมถึงหน่วยงานการท่องเที่ยวและการลงทุนไต้หวันได้ออกโฆษณาดึงดูดใจให้เข้าไปท่องเที่ยวไต้หวัน ซึ่งชานมไข่มุกก็ถูกองค์กรต่างๆนำมาโปรโมทในฐานะเครื่องดื่มที่แสดงถึงความเป็นไต้หวัน และเป็นรสชาติเอกลักษณ์ของไต้หวันซึ่งหาที่อื่นไม่ได้
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไต้หวันยังเพิ่มแคมเปญ แวะท่องเที่ยวในกรุงไทเประหว่างการพักต่อเครื่องที่สนามบินไทเปเถาหยวน หากเดินทางด้วยสายการบินแห่งชาติไต้หวันอย่าง EVA หรือChina Airlines ผู้ที่มาท่องเที่ยวไต้หวันมักมีโอกาสได้ชิมรสชาติชานมไข่มุกแบบไต้หวันที่ปรับปรุงใหม่ สามารถปรับระดับความหวาน ลดน้ำตาลเพิ่มลดปริมาณน้ำแข็งได้ตามต้องการ ลดผลกระทบต่อสุขภาพที่หวาดกลัวกันไปได้ ในอีกทางหนึ่ง การส่งเสริมธุรกิจของรัฐบาลไต้หวัน ทำให้นักลงทุนชาวไต้หวันมีความกล้าที่จะเปิดการลงทุนและขยายสาขาของร้านชานมไข่มุกไปยังต่างประเทศมากขึ้น นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันรุ่นใหม่ ที่ซื้อแฟรนไชส์หรือเปิดสินค้าแบรนด์ชานมไข่มุกในอเมริกาเหนือและยุโรป จนกลายเป็นกระแสบูมชานมไข่มุกในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Gong Cha, Kung Fu Tea, Boba Time ส่วนในเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในจีนแผ่นดินใหญ่เอง ก็มีร้านชานมไข่มุกจากไต้หวัน หรือแบรนด์ท้องถิ่นที่เปิดโดยซื้อสินค้าวัตถุดิบจากไต้หวันผุดขึ้นมากมาย
นายภาณุ กล่าวปิดท้ายว่า “กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นลูกค้า คอฟฟี่ ดรีมมี่ ซึ่งนอกจากกิจกรรมเปิดสูตรลับชานมไข่มุก ที่ไต้หวันครั้งนี้ ที่ผ่านมา คอฟฟี่ ดรีมมี่ได้มีการจัดฝึกอบรมการทำเบเกอรี่ ทำขนม เพื่อฝึกอาชีพแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่อีกด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามและรับทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์คอฟฟี่ ดรีมมี่ ได้ที่เฟสบุคwww.facebook.com/CoffeeDreamyTH