หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: รีวิวปรับโครงหน้าที่ บาโนบากิค่ะ  (อ่าน 89 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 13 ก.พ. 19, 11:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
สวัสดีค่ะ เราจะมาเราประสบการหลังตัดสินใจจะผ่าตัดโครงหน้ากับรพ.บาโนบากิให้ฟังค่ะ ก่อนหน้านี้เราลองปรึกษากับทางรพ.ทางไลน์ และได้ทีโอกาสเข้าไปปรึกษากับคุณหมอที่สาขาไทยกับคุณแม่ และตัดสินใจจะผ่าตัดที่นี่ค่ะ

ขอแนะนำตัวก่อนเราชื่อ “มิ้น” จ้า
เราทำ Channal ในยูทูปชื่อว่า Mynjimye (มินจีมาย) เป็นช่องเกี่ยวกับ Beauty & Lifestyle
(แอบเข้าไปส่องๆดูกันได้นะ ฮ่าๆ)
ซึ่งแน่นอนเราเป็นคนชอบเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว
พอได้โอกาสบินมาทำโครงหน้าที่ประเทศเกาหลีเลยเก็บรีวิวมาฝากทุกๆคน
สำหรับใครที่คิดอยากจะทำโครงหน้าแต่ก็กล้าๆ กลัวๆ ก็เข้ามาอ่านประสบการณ์ของเราได้เลย



หลังจากบินมาประเทศเกาหลี วันนี้ทางโรงพยาบาลนัดเราเข้ามาตรวจร่างกายกับพบคุณหมอโอชางฮยอนก่อนผ่าตัดวันพรุ่งนี้ พอมาถึงก็แจ้งชื่อที่เค้าท์เตอร์ก่อน จากนั้นก็มีพี่ล่ามชื่อพี่จือ (พี่จือเป็นล่ามคนไทยประจำอยู่ที่รพ.)พี่จือเอาชาร์ทมาให้กรอกพวกประวัติส่วนตัว น้ำหนัก ส่วนสูง พร้อมเช็คประวัติการศัลยกรรม การแพ้ยาต่างๆ



เรียบร้อยแล้วพี่เขาก็ให้ขึ้นไปถ่ายรูป before ถัดมาก็เข้าห้องเอกซเรย์ แสกนกระโหลกศีรษะแบบ3D
ซึ่งเครื่องแสกนจะมีทั้งหมด 3 เครื่อง จุดนี้เหมือนเข้าฐานแต่ละฐาน เสร็จด่านนี้ไปด่านนู้น แต่ก็จะมีพี่ล่ามคอยประกบ อธิบายให้เราฟังอยู่ตลอด



ถัดมาเราก็ได้เข้าไปพบคุณมีรา คุณมีราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แล้วก็อธิบายว่าการผ่าตัดจะตัดตรงบริเวณส่วนไหนให้ปลอดภัยที่สุด คุณมีราน่ารักมาก แอบรำพึงเบาๆตอนเจอกันว่าสวยจัง ปรากฏว่าคุณมีราเข้าใจ 555 เรียบร้อยก็ไปรอพบคุณหมอโอชางฮยอน (คุณหมอโอ Let me in) แอบตื่นเต้นนิดๆ แต่พอเจอคุณหมอก็หายเกร็งเลยเพราะคุณหมอโอดูใจดีมากกกกกก กอไก่ล้านตัว คุณหมอก็อธิบายว่าจริงๆโครงหน้าเราโอเคอยู่แล้ว แต่ติดที่พอเทียบกับตัวที่เล็ก ทำให้หัวดูโตหน้าดูใหญ่ คุณหมอเปิดภาพเอกซเรย์ให้ดูก็เห็นว่าเราเป็นคนที่มีกระดูกโครงหน้าหนาแล้วก็ออกจะยาวไปทางด้านข้าง (กว้างนั่นเอง ;p) จากนั้นคุณหมอก็อธิบายว่าจะทำการผ่ายังไงบ้างเพื่อให้ใบหน้าแคบและเล็กลงที่สุด
ซึ่งเราจะผ่าทั้งหมด 2 อย่างคือ ลดโหนกแก้ม และ V line (ตัดกราม สไลด์คางออกมาให้ดูหน้ายาวขึ้นนิดนึง) สุดท้ายคุณหมอก็บอกว่าจะทำให้ดีสุด สวยสุด ก็ยิ้มดีใจไปหนึ่งที อิอิ (อยากผ่าล้าววววววว)





เสร็จแล้วเราก็ลงมาตรวจคลื่นหัวใจที่แผนกเกี่ยวกับศัลยกรรมหน้าอก ตรงนี้ต้องเปลี่ยนใส่ชุดคลุม แล้วก็ถอดชุดชั้นใน เข้าไปเขาจะเอาแผ่นกลมๆมาติดที่หน้าอก (จุดนี้ต้องโชว์หน้าอกนิดนึงแต่เราไม่ค่อยเขินเพราะไม่ค่อยมีให้โชว์ 5555) เรียบร้อยแล้วก็เจาะเลือดตรวจ เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจจจ ~ ฮิ้วว



จริงๆวันนี้ค่อนข้างเหนื่อยนิดนึงเหมือนต้องเข้าฐานหลายๆด่าน เสร็จแล้วพี่ๆคนไทยจากโรงพยาบาลก็บอกให้ไปกินข้าวตุนไว้เยอะๆ เพราะเดี๋ยวต้องงดอาหาร งดน้ำตอนเที่ยงคืน (และหลังผ่าจะต้องกินแค่นม หรืออะไรอ่อนๆไปอีก 2 อาทิตย์) เรากับเพื่อนเลยนั่งรถไฟใต้ดินไปกินจุกุมิ ปลาหมึกผัดเผ็ดที่ฮงเด ซัดไปจนพุงกางแล้วก็เดินเล่นต่อนิดหน่อยค่อยกลับมาห้องพัก ถึงห้องเรางดน้ำ อาหารประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง แล้วก็ไปนอนตอนตี1กว่าๆ จุดนี้ต้องพยายามทำใจร่มๆ จะได้นอนหลับเต็มอิ่ม ถ้าไปกังวลนอนไม่หลับ ร่างจะเพลียเอาเด้อ zZzZz

ยังไงฝากติดตามพาร์ทต่อไปด้วยเด้ออออออ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 ก.พ. 19, 13:21 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มาต่อแล้วจ้าาา ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันผ่าตัดแล้ว งืออ ตื่นเต้นมากกก

วันนี้ทางรพ.นัดคิวผ่าไว้ตอน 10.00 น.
แต่ต้องไปถึงก่อนสักครึ่งชั่วโมงเพื่อเช็คร่างกายอีกนิดหน่อย
การเตรียมตัววันนี้คือต้องใส่เสื้อที่เป็น
เสื้อติดกระดุม (ไม่เอาเสื้อคอกลม สวมหัวต่างๆ)
เพราะหลังผ่าและนอนรพ. 1 คืนเราจะใส่เสื้อตัวนั้น
กลับนั่นเอง เรานั่งรถใต้ดินไปถึงรพ.ตอนประมาณ 9.30 น.
พอดิบพอดี พอไปถึงเราก็ขึ้นไปเปลี่ยนใส่ชุดคลุมของรพ.
แล้วก็เข้าไปถ่ายรูปหน้าสดเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อน 5555
จากนั้นพี่จือมาให้เรากรอกชาร์ตเช็คลิสต์ก่อนผ่าตัด
ว่าเรางดน้ำ งดอาหารตอนกี่โมง ถอดคอนแทคเลนส์
หรือมีใส่ฟันปลอมมั้ย ฯลฯ


จากเราก็ลงมาชั้นล่างที่เป็นชั้นผ่าตัด เราเดินเข้าห้องผ่าตัด
กับพี่จือด้วยความตื่นเต้น ตึกตัก ตึกตัก.... พอขึ้นนอนบนเตียง
ก็มีพยาบาลมาเจาะเข็มที่มือซ้าย พยาบาลเกาหลีถามชาร์ตที่พี่จือถามอีกรอบ จากนั้นพี่จือก็บอกว่าคุณหมอดมยามาแล้ว
โอ้ว..... ยังไม่ทันตื่นเต้นต่อ แปปนึงก็มีหน้ากากมาครอบที่หน้า

เราสูดยาไป3ฝืดก็ไม่รู้ตัวแล้วจ้า

คร่อกก....zZzZ



รู้สึกตัว ตื่นมาอีกทีมีพี่ล่ามคนไทย (มารู้ทีหลังว่าพี่เขาชื่อพลลี่)
มานั่งข้างๆ คอยบอกว่าลืมตานะคะ... ห้ามหลับนะคะ
เขาบอกว่าเราพึ่งออกจากห้องผ่าตัดมา 15 นาที
ตอนนี้ให้สูดหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อขับก๊าซยาสลบ
ออกมาแล้วก็ห้ามหลับด้วย เรารู้สึกมีเสมหะ แล้วก็
ตาเพลียๆ เผลอหลับตาบ้างเป็นพักๆ พี่พลลี่ก็จะคอย
พูดว่าห้ามหลับนะคะ พยาบาลเกาหลีดูดุๆก็
จะเดินมาเพ่งๆมองๆเป็นครั้งไป
(พยาบาล:หลับหรอ! เราก็เบิ่งตา :เปล๊านะ! O_O)



จุดนี้แหละที่น่าจะทรมานที่สุด
สำหรับคนที่กลัวการผ่า กลัวเจ็บเราบอกเลยว่าตอนผ่าชิวมากก
เพราะหลับไม่รู้ตัว ดมยาสามทีก็หลับแล้ว แต่จุดที่จะทรมาน
คือหลังจากตื่นมาแปปนึงที่ต้องสู้กับอาการง่วง +
มึนยา + ปากบวม มีสายเดรนเลือดออกมาจากปาก
แล้วก็เจ็บคอ เพราะตอนวางยาต้องมีการสอด
สายออกซิเจนเข้าไปในคอ แต่ไม่เจ็บไม่ปวดหน้าเท่าไหร่
ต้องสู้กับอาการเหล่านี้ชั่วโมงนึงถึงจะนอนพักได้


สักพักพี่พลลี่บอกว่าย้ายเข้าห้องพักได้ แต่ที่นี่จะให้เราเดิน
ไปเองนะถ้าเดินไหว เราก็ค่อยๆลุก มีพี่พลลี่กับพยาบาล
คอยพยุงเดิน พอเดินมาถึงห้อง ก็เจอนุ่นเพื่อนเรา
ยืนถือกล้องถ่ายคลิปรออยู่ ตอนนั้นแอบคิดในใจ โอโห


รู้งานเว่อร์ 5555 พอเข้าไปในห้องเราก็ขึ้นไปนอน
บนเตียงแบบมึนๆแต่ต้องพยายามไม่หลับไปอีกชั่วโมง
จากนั้นพี่ล่ามก็อธิบายว่าต้องดูแลตัวเองยังไงบ้าง
เสร็จแล้วก็มีพี่นพเป็นพี่คนไทยจากรพ.เข้ามาให้คำแนะนำต่อ

อาการหลังผ่าตัด พอครบเวลา 1 ชั่วโมงที่ห้ามหลับ
ก็สบายตัวละ นอนพักได้ จุดนี้เราจะง่วงมว้ากกก
เราก็หลับไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง ตื่นมาก็รู้สึกดีขึ้นเยอะมาก
กระปี้กระเปล่า เราลุกขึ้นมาบ้วนปากก่อน แล้วก็ลองค่อยๆ
เดินไปหยิบไอซ์แพ็คเองที่ตู้เย็นข้างนอกห้อง ซึ่งพี่เขา
บอกว่าเราควรบ้วนปากทุก 2 ชม. เพราะเรามีแผลในปาก
แล้วก็ประคบเย็นเรื่อยๆ


สักแปปเราก็ง่วงอีก เราเลยนอนต่อ เราตื่นมากินนมไป
อีกรอบคราวนี้รู้สึกพะอืดพะอม แต่อาเจียนไม่ออก
ซึ่งเป็นอาการปกติ อาจจะเกิดจากการวางยาสลบ
เราก็เลยนอนต่อ พอตื่นมา 3 ทุ่มกว่าๆ ประตูรพ.ปิด 4 ทุ่ม
เราเลยบอกให้นุ่นกลับไปก่อน นุ่นก็กลับไปนอนโรงแรม
คืนนั้นที่รพ.คนเดียว ตอนแรกก็กลัวๆนะเพราะอยู่คนเดียว
เราก็เลยนอนต่อแล้วตั้งนาฬิกาปลุกให้ปลุกทุก 2 ชม.
มาบ้วนปากกับเปลี่ยนไอซ์แพ็ค แล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ
เพราะชอบปวดฉี่ (ซึ่งจริงๆพึ่งมารู้ว่าตอนกลางคืนไม่ต้อง
บ้วนทุกสองชม.ขนาดนั้นก็ได้ 555 ก็ว่าทำไมมีแต่เราคนเดียว
ที่ลุกขึ้นมาตอนดึกๆ) ซึ่งเรามีตื่นมาอาเจียนไปรอบนึง
หลังจากอาเจียนจะรู้สึกดีขึ้นมว้ากกก
แบบหัวหายตึ้บ สบายตัว


คืนแรกหลังการผ่าตัดผ่านไป...
เอาจริงพอผ่านคืนแรกไปได้ทุกอย่างก็ค่อยๆสบายตัวขึ้นนะ

หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ^^






noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 มี.ค. 19, 10:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

วันที่ 2 หลังผ่าตัดปรับรูปหน้า

ความบวมมาละจ้า พอตี 4 เรารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกตึงมากกกก........ที่หน้ากับตาข้างซ้าย ส่องกระจกดูคือหน้าบวมมากกก แก้มแทบแตก ตาขวาก็บีบจนแทบปิด พอเช้าเราลงไปกินซุปฟักทอง กับนมที่ห้องอาหารโรงแรม ขึ้นมากินยา แล้วนอนพัก ตื่นมาตอนเที่ยงปรากฏว่าหน้าดีขึ้น บวมน้อยลง ตึงน้อยลง เราเลยกินนมแล้วกินยาอีก จากนั้นลงไปเดินเล่นตรงซอยข้างๆโรงแรม


พอตอนบ่ายเราต้องดึงเทปใต้คางออกเอง เราดึงเทปนานมากกกกก เพราะมันเหนียวจนต้องเอาเจลมะละกอที่ใช้ทาปากมาทาให้มันหายเหนียวแล้วก็ค่อยๆดึงออก (ใครไปผ่าก็แนะนำพกพกออยล์ / เจลอะไรไปด้วยนะ) พอดึงออกหน้าก็ดูตูมๆใต้คางแปลกๆ(นึกภาพธานอส ขอถุงมืออินฟินิตี้สโตนหน่อย555) แต่ก็สบายหน้ามากขึ้น ได้อาบน้ำสระผม สบายตัว~


วันนี้แม้จะบวมแต่เราพยายามไปเดินเล่นห้าง Coex ใกล้ๆโรงแรม

เพื่อให้ได้ขยับร่างกายไม่งั้นมันจะจมเตียง ซึ่งเราว่ามันช่วยจริงๆเด้อ





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 มี.ค. 19, 10:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
อัพเดท วันที่ 3 หลังผ่าตัดค่า

วันนี้ตื่นมาหน้าบวมเป็นปกติเหมือนเมื่อวาน ไม่มากขึ้น เราลงไปกินซุปฟักทอง กับนมที่ห้องอาหารเหมือนเดิม จากนั้นก็ขึ้นมานอนตามสเต็ป ตื่นอีกทีประมาณบ่ายโมง ก็เลยอาบน้ำไปเดินเล่นแถวกาโรซูกิล คราวนี้ไปเดินไกลหน่อยต้องนั่งรถไฟไปประมาณ 3-4 สถานี ขาไปคนแอบเยอะเบียดมาก แล้วเกือบโดนประตูรถไฟหนีบใส่ T-T ดีนะ มือไวดันเอาไว้ทัน(เดี๋ยวแม่ใส่ถุงมือละดีดนิ้วเลย 555) พอไปถึงก็เดินๆๆ แบบไม่หยุดหย่อน 555 เข้าร้านนู้นออกร้านนี้ วันนี้เป็นวันเสาร์คนคึกคักมาก บรรยากาศดี แต่ร้อนไปนิดดด


เดินสักพักก็แวะขึ้นไปกินกาแฟสตาร์บั๊ค สั่งชาเขียวปั่นไปเป็นครั้งแรกที่กินอะไรนอกโรงแรม ก็ดูดๆได้


อร่อยดี สดชื่นด้วย กินเสร็จก็เอาน้ำยาบ้วนปากที่เตรียมออกไปไปบ้วน จากนั้นก็ไปเดินใต้ดินกังนัมต่อ ของเยอะมากกก สุดลูกหูลูกตา เดินจนเริ่มหิว ขาลอยๆ เลยบอกนุ่นไม่ไหวละ ขอกลับ กลับมารีบกินนม กินยา วันนี้รู้สึกเวลาขยับปากแล้วจะเริ่มมีอาการชาๆ ยิบๆ เลยนอนไม่ค่อยหลับ เหมือนหลับไม่สนิทเท่าไหร่




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 มี.ค. 19, 10:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อัพเดทวันที่ 4 หลังผ่าตัดค่า


วันนี้อาการบวมไม่มากขึ้น ส่วนที่บวมตรงโหนกแก้มค่อยๆไหลลงมาที่แก้มและใต้คางแล้ว (ซึ่งพี่ๆรพ.บอกว่าเป็นปกติ มันจะค่อยๆไหลจากบนไปล่าง //นี่เลยบอกกับนุ่นว่าขอหยุดไว้ที่นมได้มั้ย55555) วันนี้ออกไปเดินเที่ยวไกลอีกละ เราไปตึก Art Exibition ชื่อ Piknic ข้างล่างจะมีคาเฟ่ชิคๆ แล้วก็มีที่ถ่ายรูปเก๋ๆ คูลๆ มินิมอล แต่วันนี้เป็นวันอาทิตย์คนเกาเลยไปเยอะมว้ากกกกก แถมอากาศร้อนมากกกกกกด้วย จริงๆวันนี้เดินเล่นหลายที่จนดึกดื่นเลย 55 กลับมาถึงห้องเกือบเที่ยงคืน แต่รู้สึกหน้ายุบลงอาจเพราะเดินเยอะมากกก >




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 27 มี.ค. 19, 10:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อัพเดทวันที่ 5 หลังผ่าตัดค่า


วันนี้จริงๆไม่มีอะไร เราก็ตื่นมาทำกิจวัตรตามปกติ กินนมกินยา ตอนเย็นๆก็ออกไปเดินฮงเดอีกรอบ (แม้จะไกลจากรร.มากแต่ก็ใจสู้ 5555) สังเกตได้ว่าตั้งแต่วันที่ 2 ที่ 3 อาการบวมจะค่อยๆลดลงไปทีละนิดๆ ไม่บวมขึ้น ไม่อักเสบ ไม่ช้ำ ก็แฮปปี้~



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 มี.ค. 19, 10:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เข้าสู่วันที่6 หลังศัลยกรรมแล้วนะคะ มาอัพเดทกันต่อเลยจ้า


นวดหน้า ฉายแสงลดบวม สบายหน้าเว่อร์ วันนี้มีนัดเข้าไปรพ. ตอนบ่าย 2 ไปทำแอคทิวิตี้ ตามข้างต้น พอเข้าไปรพ. ก็เจอพี่พลลี่ พาเราเดินไปอีกตึกนึงใกล้ๆกัน พอถึงก็ได้ไปนวดหน้าลดบวม ตอนนวดสบายมากก พี่พนักงานมือเบามากกก ฟินนน โดยเฉพาะตอนมาส์กหน้าทิ้งไว้ เย็นๆหอมๆ เตอราปี้เว่อร์ ระหว่างนวดก็จะมีเครื่องพ่นไอร้อนพ่นอยู่ตลอด พอนวดเสร็จก็รู้สึกหน้าชุ่มชื้น ผิวนุ่มขึ้นมาเลย ติดใจมาก
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 27 มี.ค. 19, 11:00 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

วันนี้เป็นวันที่ 7 หลังผ่าตัด และเป็นวันที่ต้องเก็บข้าวเก็บของจากเกาหลีกลับสู่ประเทศไทย

วันนี้ตื่นมารู้สึกหน้าไม่ตึงแล้ววว บวมลดลงแบบเห็นได้ชัด เหมือนเป็นคนอวบเฉยๆไม่ดูบวมแล้ว 5555 ส่วนรอยช้ำที่คางก็เริ่มเป็นสีเขียว ก่อนกลับก็เลยออกไปเดินเล่นแถวกังนัม เก็บคาเฟ่ชิคๆ ซึ่งวันนี้บังเอิญเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ของคนเกาหลี คนเลยออกมาเดิน มาเที่ยวกันเยอะมาก เพลินไปอี๊กกก 555 พอถึงเวลาก็นั่งรถไปที่สนามบิน ปรากฏว่าน้ำหนักกระเป๋าเกินเยอะมาก คือตอนแรกนึกว่ามานี่จะไม่ได้ช้อป ไม่ได้เที่ยว ปรากฏช้อปทุกวัน เที่ยวทุกวัน น้ำหนักเกินเลยทีเดียว จากนั้นแอบเจอพี่คนไทยที่กลับไฟล์ทเดียวกัน คุยกันถูกคอ เลยบอกพี่เขาว่ามาทำหน้า พี่เขาบอกดูไม่เหมือนเลย ยุบไวมากกกก เราก็รู้สึกดีใจ รู้สึกว่าการทำโครงหน้าครั้งนี้ฟื้นตัวไว บวมช่วง 2-3 วันแรก แต่ไม่ช้ำมาก
แล้วก็ค่อยๆยุบลงตามลำดับ ก็เตรียมกลับมาดูแล และตัดไหมในปากที่ไทยวันที่ 13 ก็ขอให้ยุบไวๆ สาธู๊วววว >




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 9 เม.ย. 19, 10:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
สวัสดีค่า
ห่างหายไปนานเลยมา อัพเดทวันที่ 30 หลังผ่าตัดกันค่ะ


Day 30

ครบ 1 เดือนหลังการผ่าตัด ตอนนี้กลับมากินได้ปกติทุกอย่าง ปากอ้าได้มากขึ้น พยายามฝึกอ้าปากเวลาแปรงฟัน
อาการชาค่อยๆดีขึ้น ชาน้อยลง จับแล้วมีความรู้สึกไม่เหมือนช่วงแรกๆ ส่วนหน้ายังดูบวมอยู่ช่วงโหนกแก้ม





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 9 เม.ย. 19, 11:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

Day 60 | อัพเดทหลังผ่าตัดโครงหน้าครบ2เดือนค่า

ตอนนี้รู้สึกว่าหน้าเล็กลงกว่าเดิมมากเวลาส่องกระจก เหมือนรีและยาวขึ้น โหนกแก้มยังบวมอยู่ แต่เริ่มเห็น V line ชัดมากขึ้น เพื่อนที่ไม่เจอกันนานก็จะทักว่าหน้าหวาน แล้วก็หน้าเล็กลง กลับมาใช้ชีวิตปกติทุกอย่างแล้วตั้งแต่ช่วงเข้าเดือนที่สอง แต่ยังไม่ได้เคี้ยวอะไรที่แข็งมากๆ เพราะเขาบอกว่ากระดูกจะติดกันตอน 3 เดือน อาการชาตรงใต้ตาข้างขวาดีขึ้นเยอะ อ้าปากได้ประมาณ 2 นิ้ว แต่บางทีเผลอหาวกว้างมีความรู้สึกตึงๆบริเวณขากรรไกรขวา ปวดนิดๆ แต่วันเดียวก็หาย น่าจะเกิดจากที่ขากรรไกรยึด และที่สังเกตุได้อีกอย่างคือแม้จะยุบลงมาเยอะแล้วแต่ช่วงเช้า





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 2 ส.ค. 19, 14:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 


3 month
ตอนนี้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ทานอาหารได้ทุกอย่างแล้ว ไม่มีอาการเจ็บอะไร เรียกว่าอาการเจ็บปวดหายดีแบบ 100% แต่ยังมีความบวมที่หน้าอยู่ โดยเฉพาะเวลายิ้ม ถึงอย่างนั้นโครงหน้าก็ดูละมุนขึ้นมากๆ จากโหนกแก้มและกรามที่ใหญ่ก็ดูเรียวและละมุนขึ้น ส่วนอาการชาจะมีบริเวณใต้ตาด้านขวาแค่นิดเดียว ไม่มีผลต่อการใช้ชีวิต ตอนนี้เริ่มกลับมาถ่ายคลิปก็มีเพื่อนๆมาคอมเม้นท์ว่าหน้าละมุนขึ้นมาก


4 month
เดือนนี้หน้ายุบจากเดือนที่แล้วค่อนข้างเยอะ บริเวณแก้มที่ตุ่ยๆก็เรียวขึ้น เซลฟี่แล้วหน้าไม่ดูบวมแล้ว


7 month
กลับไปดูรูปเก่าๆจะรู้สึกว่าช่วงนั้นหน้าบวมมากกก เลยทำให้ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเท่าไหร่ ฝากถึงเพื่อนๆที่กำลังไปทำ หรือไปทำมาแล้ว ต้องใจเย็นๆในช่วงแรก ตอนแรกอาจจะรู้สึกหน้ายังใหญ่อยู่เลยเพราะมันยังบวมอยู่ แล้วจะค่อยๆยุบลงเรื่อยๆเองแต่ต้องใช้เวลา ซึ่งแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน พอผ่านมาเดือนที่7 ตอนนี้หน้าค่อนข้างเข้ารูปแล้ว แต่ติดที่เราเป็นคนมีไขมันที่หน้าเยอะ ทำให้ยังไม่เห็นโครงหน้าแบบ100%


1 year
ผ่านมาปีนึงแล้วไวมากก ตอนนี้ยังเหลืออาการชาๆอยู่นะที่ใต้ตาขวา แต่ก็แค่คิดเดียว จะรู้สึกก็ต่อเมื่อเอานิ้วไปจิ้มๆเท่านั้น ส่วนโครงหน้า หลังจากที่ได้ไปดูดไขมันหน้าที่รพ.บาโนบากิมาอีกรอบ ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดมากๆ เห็นกรอบหน้าชัดทำให้หน้าดูเรียวและเป๊ะขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย






noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  รีวิวศัลยกรรม  ผ่าตัดโครงหน้า   วีไลน์ 

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม