สมโภชน์ อาหุนัย ซีอีโอแห่ง ‘พลังงานบริสุทธิ์’ เขาคือมหาเศรษฐีของประเทศไทย ที่เพิ่งถูกจัดอันดับให้อยู่ในลำดับที่ 10 จากนิตยสาร Forbes ประสบความสำเร็จทางด้านการทำธุรกิจและมีชีวิตหลากหลายด้านที่น่าสนใจ จนสื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างตั้งฉายาให้เขาเป็น ‘อีลอน มัสก์ แห่งประเทศไทย’
The Secret Sauce เอพิโสดนี้ เคน นครินทร์ แชร์ประสบการณ์จากการได้พูดคุยถึงวิสัยทัศน์ของคุณสมโภชน์ในทริปเยี่ยมชมโรงงาน Amita Technologies Inc. โรงงานแบตเตอรี่ของพลังงานบริสุทธิ์ ณ ประเทศไต้หวัน สถานที่ซึ่งเปรียบเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ความฝันของคุณสมโภชน์นั้นเป็นจริง
สมโภชน์ อาหุนัย ชายผู้มีความฝันอยากเป็นคนแรกของประเทศไทยที่สามารถสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมายังไม่มีใครสามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ คนไทยยังแค่รับจ้างผลิตหรือสร้างเทคโนโลยีแล้วนำออกไปขาย ไม่เคยมีแบรนด์เทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ไม่เคยมีการสร้างนวัตกรรมเบ็ดเสร็จ 100%
เบื้องหลังวิสัยทัศน์ของ สมโภชน์ อาหุนัย คืออะไร ทำไมเขาถึงกล้าฝันใหญ่ แถมเริ่มต้นลงมือทำจริงไปแล้วอีกด้วย
‘พลังงานบริสุทธิ์’ เป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไร
ย้อนกลับไปเท้าความกันสักนิด สำหรับคนที่อาจยังไม่ค่อยรู้จักบริษัทนี้
พลังงานบริสุทธิ์ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 13 ปีก่อน สมัยนั้นคุณสมโภชน์มีทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท เขาเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการที่บริษัท หยวนต้า ประเทศไทย จำกัด แต่เมื่อล่าสุดจากตัวเลขการรายการของนิตยสาร Forbes เขามีทรัพย์สินถึง 90,000 ล้านบาท ภายในเวลาเพียงหนึ่งทศวรรษ เขามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่าตัว จากการมองการณ์ไกลในธุรกิจที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ และรู้จักใช้กลไกทางตลาดหุ้นในการเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง
ภาพรวมธุรกิจของพลังงานบริสุทธิ์มุ่งเน้นเป็นผู้นำทางด้านการผลิตเทคโนโลยีที่มาจากพลังงานทางเลือก มีผลประกอบการในปี 2561 รายได้รวมอยู่ที่ 12,500 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเกือบ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และ 30% ตามลำดับจากปีก่อน
คุณสมโภชน์กำลังลงทุนธุรกิจอะไรที่ไต้หวัน
เหตุผลที่พลังงานบริสุทธิ์เชิญสื่อหลายสำนักเดินทางไปไต้หวันในครั้งนี้ เพราะเมื่อปี 2559 เขาได้ลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท Amita Technologies Inc. ผู้นำธุรกิจแบตเตอรี่ประเภทลิเธียม ไอออน โพลิเมอร์
หลายครั้งการทำธุรกิจ เราอาจได้ยินคำว่า The New S-Curve คุณสมโภชน์ยอมรับว่า กำไรของบริษัทเขากำลังลดลง เช่นเดียวกับอีกหลายบริษัทที่ต้องเผชิญปัญหานี้ เพราะกำไรจากบางส่วนที่ทำได้กำลังจะหมดลง แม้เป็นสิ่งที่พอคาดเดาได้ แต่คุณสมโภชน์จะไม่มีวันอยู่นิ่งดูดายปล่อยให้ธุรกิจตาย เขาต้องหา The New S-Curve หรือธุรกิจใหม่ เข้ามาทดแทนส่วนที่หายไป ซึ่งคำตอบของเขาคือ ‘แบตเตอรี่’ นั่นเอง
แน่นอน ต้องเกิดคำถามต่อว่า แล้วทำไมต้องเป็นแบตเตอรี่?
ลองคิดตามให้ดี แบตเตอรี่คือเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการพลิกเกม ทำให้ ‘โรงงานไฟฟ้าพลังงานทางเลือก’ แปรสภาพมาเป็น ‘โรงงานไฟฟ้าหลัก’ จาก ‘เลือก’ เป็น ‘หลัก’ ด้วยการกักเก็บพลังงานไว้ใช้ผ่านแบตเตอรี่ ทำให้จ่ายไฟได้อย่างสม่ำเสมอ แม้ในช่วงเวลาที่ไม่มีสายลมหรือแสงแดด ดังนั้นยิ่งแบตเตอรี่ดีเท่าไร ยิ่งส่งผลบวกกับพลังงานทางเลือกมากเท่านั้น
คุณสมโภชน์จึงลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ประเภทลิเธียม ไอออน โพลิเมอร์
50 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีในประเทศไทย มีมูลค่าการลงทุนสูงถึงแสนล้านบาท แม้ตอนนี้เขาเริ่มต้นที่ 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี แต่ในอนาคตจะยิ่งขยายไปในแผนระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี