ไขข้อสงสัย ทำไมคุณแม่ถึงจำเป็นต้องเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่

องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟแนะนำให้คุณแม่ควรให้นมลูกน้อยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนหลังจากคลอด ซึ่งตามมาตรฐานทั่วไปนั้นทารกควรได้รับนมแม่อย่างต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปีหรือนานกว่านั้น เนื่องจากน้ำ นมแม่ ถือเป็นอาหารของทารกที่มีความสมบูรณ์และเหมาะสมที่สุดในด้านโภชนาการและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สารอาหารในนมแม่ประกอบไปด้วย โปรตีนต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระ แอนติบอดี วิตามิน แบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางอาหารของทารก เซลล์ที่มีชีวิตต่าง ๆ จากแม่ แร่ธาตุต่าง ๆ ได้แก่ เหล็ก แคลเซียม ไอโอดีน และวิตามินต่าง ๆ ได้แก่ วิตามิน A, B1, B2, B6, B12, C, D, E, K นอกจากนี้ในน้ำนมแม่ยังประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพมากมาย ได้แก่ แอนติออกซิแดนท์ โกรทแฟคเตอร์ ที่ช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของระบบการทำงานของร่างกาย ระบบทางเดินลำไส้ ระบบประสาท เส้นเลือด และระบบต่อมไร้ท่อ ฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ช่วยควบคุมการเจริญเติบโต และกระบวนการเมแทบอลิซึมของร่างกาย รวมทั้งแฟคเตอร์และเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น T-cells แมคโครฟาจก์ ไซโตคายน์ ลิมโฟไซต์ แอนติบอดีชนิดต่างๆ (IgA, IgG, IgM) และที่สำคัญนมแม่ยังประกอบไปด้วย MFGM ที่คุณแม่หลายท่านอาจจะยังไม่คุ้นหูกับ MFGM มาก่อน ซึ่ง MFGM คือ สารอาหารที่ช่วยในการพัฒนาสมองของลูกน้อยที่มีอยู่ในน้ำนมแม่ เป็นเซลล์ส่วนที่ห่อหุ้มไขมันในนมไว้ มีส่วนประกอบเป็นไขมันเชิงซ้อนหลากหลายตัว ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างเซลล์สมอง พร้อมเพิ่มจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์มากขึ้น ยิ่งจุดเหล่านี้ประสานเชื่อมต่อกันมาก ก็หมายถึงสมองได้ทำงานจากการที่ลูกได้เรียนรู้มากขึ้น ถือเป็นการ พัฒนาสมอง อย่างหนึ่ง
สารอาหารในนมแม่ จะผันแปรตามระยะการผลิตน้ำนม ซึ่งในการผลิตน้ำนมนั้นก็จะผลิตขึ้นอยู่ 3 ระยะด้วยกัน ในระยะแรกมักจะมีสีเหลือง บางคนอาจเรียกว่าน้ำนมเหลืองหรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า โคลอสตรุ้ม (Colostrum) โคลอสตรุ้มนี้จะถูกสร้างขึ้นเพียงระยะ 1-3 วันแรกภายหลังการคลอดบุตรเท่านั้น และเต็มไปด้วยสารสร้างภูมิต้านทาน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต่อมาในระยะที่ 2 น้ำนมจะมีลักษณะขาวขึ้นเรียกว่าระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน (Transitional milk) คือ ระยะการเปลี่ยนจากหัวน้ำนมแม่เป็นน้ำนมแม่ จะหลั่งในช่วง 5 วันจนถึง 2 สัปดาห์หลังคลอด โดยมีส่วนประกอบที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโต และพัฒนาการเพิ่มมากขึ้น และระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายจะเรียกว่า ระยะน้ำนมแม่ (Mature milk) ในระยะนี้น้ำนมจะมีสีขาว มีไขมันมากขึ้น ปริมาณน้ำนมที่ผลิตจะมีมากขึ้นกว่าเดิม และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ และสารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย น้ำนมในระยะน้ำนมแม่ประกอบไปด้วยธาตุอาหารหลัก ซึ่งได้แก่ ไขมัน โปรตีน และน้ำตาลแลคโตส จากการศึกษาองค์ประกอบของน้ำนมภายหลังจาก 4 เดือนหลังคลอดพบว่าปริมาณของธาตุอาหารหลักในน้ำนมแม่ขึ้นอยู่ กับหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับแม่ ได้แก่ ปริมาณโปรตีนที่แม่ได้รับ น้ำหนักของแม่ ความถี่ของการให้นมบุตร และการมีประจำเดือน และจากการศึกษาพบว่าแม่ที่ผลิตน้ำนมในปริมาณมากจะมีความเข้มข้นของไขมันและโปรตีนในน้ำนมต่ำ แต่มีความเข้มข้นของแลคโตสสูงกว่าแม่ที่ผลิตน้ำนมได้น้อย

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน