เฮเฟเล่ ปลดล็อกเปิด "เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท 64" แล้ว
พร้อมออกมาตรการป้องกันเข้ม 5 ข้อ
ดูแลความปลอดภัยลูกค้าและพนักงานทุกคน "เฮเฟเล่ ไทยแลนด์" คลายล็อกดาวน์ ปลดล็อกเปิดโชว์รูม "เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท 64" พร้อมให้บริการแล้ว ในเวลาปกติ จันทร์ ถึง ศุกร์ 08.00–17.00 น. และเสาร์ 09.00–16.00 น. คุมเข้มออกมาตรการ 'ESSET' คัดกรองเข้มงวด, งดความแออัด, ติดตามให้มั่นใจ, สะอาดทุกจุดในเชิงรุก, ลดการสัมผัส 5 หัวข้อหลักปกป้องความปลอดภัยให้ลูกค้าอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมทุกโชว์รูมครบทุกโซน ให้มาตรฐานความปลอดภัย ที่คงความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ไอเดียตกแต่งบ้านและอาคารทุกความต้องการ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท "เฮเฟเล่ อุปกรณ์ครบจบทุกเรื่องงานอาคาร" (Complete Building Solutions)นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงมาตรการคลายล็อกดาวน์ของเฮเฟเล่ ว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมา ธุรกิจหลายภาคส่วนรวมถึง เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ ต้องปิดทำการชั่วคราว ตามมาตรการควบคุมการระบาดของ Coronavirus (COVID-19) ซึ่งหลังจากทุกคนได้ผ่านเวลาที่ยากลำบากนี้มาได้ ทำให้รัฐเริ่มคลายล็อกดาวน์ ให้ธุรกิจกลับมาเปิดทำการตามปกติ ภายใต้แนวทางปฏิบัติเพื่อควบคุมและป้องกันที่เข้มงวด ซึ่ง เฮเฟเล่ ประเทศไทย ก็ได้ปรับวิธีการทำงานตามแนวทางจัดสรรมาตรการรับมือโรคระบาด เพื่อให้การเยี่ยมชมโชว์รูมของลูกค้า มีมาตรฐานของความปลอดภัย แต่ยังคงความสะดวกครบครัน และพร้อมให้
"เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท 64" แหล่งรวมไอเดียการตกแต่งบ้านและอาคารอย่างครบวงจร กลับมาเปิดให้บริการตามปกติอีกครั้งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ช่วงระยะเวลาล็อกดาวน์ของรัฐ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สาขาหลัก ที่ สุขุมวิท 64 ต้องปิดทำการชั่วคราว โดยเฮเฟเล่ ได้เปลี่ยนแนวทางการทำงานไปสู่ช่องทางการขายออนไลน์
"Shopping at Home" พร้อมปรับเป็นวิถีปกติ (New Normal) ของบริษัท
ให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านบริการ 3 ช่องทางการช้อปใหม่ ทั้ง Call Center, Online Shop และ Chat ซึ่งตลอดระยะเวลาการล็อกดาวน์ เฮเฟเล่ ได้เข้าทำความสะอาดและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ภายในดีไซน์ สตูดิโอ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของลูกค้า, พนักงาน และเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการ ทันทีที่มาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดลง
มาตรการเพื่อปกป้องความปลอดภัยให้ลูกค้า ที่จะใช้ใน "เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท 64" หรือ
มาตรการ 'ESSET' จะแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อ โดยเน้นการสร้างมาตรฐานด้านสุขอนามัย ตามที่กระทรวงสาธารณะสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ได้แก่
Extra Screening, Social Distancing, Extra Cleaning และ Touchless Experience Extra Screening - คัดกรองเข้มงวด เป็นการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพร้อมติดสติ๊กเกอร์ให้กับลูกค้าก่อนเข้ามาใช้บริการ พร้อมดำเนินการจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือบริการตามจุดต่างๆ อีกทั้งยังควบคุมให้พนักงานในโชว์รูมและร้านอาหาร รวมถึงผู้มาใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเสมอ
Social Distancing – งดความแออัด ดำเนินการจัดทำสัญลักษณ์การเว้นระยะห่าง 1 เมตร (Social distancing) ระหว่างรอคิวชำระเงิน และระหว่างรอรับบริการ พร้อมควบคุมจำนวนผู้ทำกิจกรรม ไม่ให้เกิดความแออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน ทั้งในโชว์รูมและร้านอาหาร โดยกำหนดการนั่งรับประทานโต๊ะละไม่เกิน 2 คน
Extra Cleaning – สะอาดทุกจุดในเชิงรุก จัดมาตรการทำความสะอาดพื้น และพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ พร้อมทำการกำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค และจัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ครอบคลุมทั่วบริเวณโชว์รูมและร้านอาหาร
Touchless Experience – ลดการสัมผัส ด้วยการปรับปรุงโชว์รูม ในส่วนบานประตู เป็นระบบเท้าสัมผัส และส่วนของก๊อกน้ำ เป็นระบบอัตโนมัติ ด้วยอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของเฮเฟเล่ พร้อมปรับปรุงระบบชำระเงินแทนการใช้เงินสด และให้การแนะนำลูกค้ามาใช้ระบบชำระเงิน ด้วยการแสกน QR CR code รวมถึงงดบริการเครื่องเล่นสำหรับเด็ก