Facebook เป็นแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ (Social Network) ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำของทุกคนไปแล้ว ด้วยยอดผู้ใช้
งานรวมกว่า 2,000 ล้านบัญชี รวมถึงประเทศไทยเองก็เป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้
Facebook ติดอันดับต้นๆ ของโลก
ทั้งนี้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้น FC หรือ Facebook, Inc. ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Nasdaq ก็ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2020 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็มีหลายประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
เนื่องด้วยตัวเลขผลประกอบการที่เซอร์ไพร์สตลาด และหักปากกานักวิเคราะห์กันพอสมควร นั่นเพราะ Facebook สามารถทำกำไรสุทธิเติบโตระดับ 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
คำถาม คือ ทำไม Facebook ยังทำกำไรโตได้อยู่ แถมยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลงทั่วโลก ทั้งที่รายได้หลักกว่า 90% ของ Facebook ก็มาจากโฆษณา วันนี้เราได้สรุปมาให้แล้ว
รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2020 Facebook มีรายได้รวม 17,737 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 15,077 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้ที่ทำได้ส่วนใหญ่ยังมาจากโฆษณา 17,440 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุที่โฆษณาของ Facebook ยังโต ก็เนื่องมาจากธุรกิจเกมและอีคอมเมิร์ซทุ่มงบโปรโมทเยอะมากในช่วง COVID-19 ที่คนกักตัวอยู่บ้าน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรายได้ยังเติบโตอยู่ แม้ภาคธุรกิจอื่นๆ จะหั่นงบโฆษณาลง
อย่างไรก็ดี Facebook ก็ยอมรับว่าในช่วงเดือนมีนาคม รายได้โฆษณาหายไปพอสมควร โดยเฉพาะโฆษณาจากการท่องเที่ยวและรถยนต์ แต่นับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน งบโฆษณาเริ่มกลับมาทรงตัวแล้ว จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่า รายได้โฆษณาอาจจะมีการฟื้นตัวเร็วๆ นี้
ดังนั้น จึงทำให้กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 4,902 ล้านดอลลาร์ ปรับเพิ่มขึ้น 102% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 2,429 ล้านดอลลาร์ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการขยายตัวของรายได้อื่นๆ ที่มากขึ้นด้วย รวมถึงการบาลานซ์ค่าใช้จ่ายที่ไม่เปลี่ยนไปจากปีก่อน
เมื่อมองกันที่ตัวเลขผู้ใช้งาน ปัจจุบัน Facebook เป็นเพลตฟอร์มออนไลน์ที่มียอดผู้ใช้งาน Monthly Active Users 2,603 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น
ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก 1,093 ล้านบัญชี
ทวีปยุโรป 406 ล้านบัญชี
สหรัฐ และแคนาดา 253 ล้านบัญชี
ประเทศอื่นๆ 851 ล้านบัญชี
สุดท้ายมาดูที่ราคาหุ้น Facebook กันบ้าง จะเห็นหลังประกาศงบการเงินในวันที่ 30 เมษายน 2020 ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นกว่า 10% ในวันเดียว และตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนก็วิ่งเหนือระดับ 200 ดอลลาร์ โดยตลอด หรือเพิ่มเฉลี่ยที่วันละ 5% นับว่าเป็นการโตสวนตลาดหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Twitter ที่ประกาศงบออกมาพร้อมๆ กัน
เมื่อลองย้อนกลับช่วงเริ่มต้น Facebook เข้าเทรดในตลาดหุ้นครั้งแรกในปี 2012 ด้วยราคา 38 ดอลลาร์ เท่านั้น แต่ปัจจุบันมูลค่าของบริษัทโตไปเกือบ 5 เท่าตัวแล้ว ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ กับเวลาไม่ถึง 10 ปี จึงไม่แปลกว่าทำไมโมเดลการเติบโตของ Facebook ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของ Start-Up ทั่วโลกไปแล้ว
from
https://www.thebangkokinsight.com/352765/
