หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: โอกาสทองการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์  (อ่าน 13 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 27 มิ.ย. 20, 12:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 


โอกาสทองการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์
ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกประสบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ภาคธุรกิจหลายสาขาต้องเผชิญกับอุปสรรคอย่างหนัก และบางกิจการต้องหยุดเพื่อดำเนินการตามมาตรการที่จำเป็นต่อการควบคุมโรค ไม่เว้นแม้แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เอง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 บริษัททางด้านอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งต้องเลื่อนแผนการประกาศโปรโมชั่นทางการตลาดและลดราคา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องมองถึงอนาคตหลังสถานการณ์ดังกล่าว และเตรียมความพร้อมเมื่อเศรษฐกิจโลกกลับมาเดินเครื่องอย่างเต็มที่ได้อีกครั้ง

เวียดนามถือเป็นดาวเด่นของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะนอกจากจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่มีเสถียรภาพมากที่สุด ของโลกแล้ว ยังเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจมั่นคงอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจหากราคาอพาร์ตเมนต์ระดับไฮเอนด์ หรืออาคารพาณิชย์ รวมถึงราคาที่ดินจะปรับตัวสูงขึ้นในทุก ๆ ปี เพราะนอกจากจะเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งแล้ว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามยังได้รับการส่งเสริมจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายที่ผ่อนปรนมากขึ้น และผลดีจากข้อตกลงต่าง ๆ เช่น ข้อตกลงความคลอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (CPTPP) และความตกลงการค้าเสรีสหภาพ ยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) ที่ผ่านมา รวมถึงราคาที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีราคาถูกกว่าหลายประเทศในเอเชียอย่างจีนและสิงคโปร์ จึงทำให้เงินทุนจากต่างประเทศไหลเวียนเข้ามาในเวียดนามมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในเดือนมกราคม 2563 ยังพบว่าเวียดนามมีบริษัทจัดตั้งขึ้นใหม่อีก 1,400 แห่ง เพิ่มขึ้นถึง 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพบว่าเป็นกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 460 แห่ง เติบโตขึ้น 47% และมีมูลค่าการจดทะเบียนรวมอยู่ที่ 17.5 ล้านล้านเวียดนามด่อง ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเวียดนามขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของธุรกิจที่ต่างชาติให้ความสนใจมากที่สุด รองจากอุตสาหกรรมการผลิต และโครงสร้างพื้นฐาน

ในบรรดาเมืองต่าง ๆ ของเวียดนาม นครโฮจิมินห์ถือเป็นแหล่งการลงทุนหลักจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นจุดหมายที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนมากที่สุดในประเทศ มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 8.6 ล้านคนในปี 2562 และในปีเดียวกันนี้เอง นครโฮจิมินห์ก็ยังติดอันดับ 1 ใน 3 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย โดยเฉพาะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 25% ของมูลค่า FDI ทั้งหมดของเมือง โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสัญชาติญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ นอกจากนี้ นครโฮจิมินห์ยังมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่า 8.02% และมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมถึง 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นมหานครทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เนื่องจากมีการจัดเก็บรายได้มากกว่า 1 ใน 4 ของประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้น JLL City Momentum Index 2020 ซึ่งเป็นรายงานจากบริษัทด้านบริการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก ยังได้จัดอันดับให้นครโฮจิมินห์เป็นนครที่มีพลวัตรสูงที่สุดอันดับ 3 จาก 130 มหานครทั่วโลก และเนื่องด้วยพลวัตทางเศรษฐกิจที่สูงนี้เองที่ทําให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ CBRE ระบุว่า ราคาคอนโดมิเนียมหรูในนครโฮจิมินห์พุ่งสูงขึ้น 17% ในปี 2561 มาเฉลี่ยอยู่ที่ 5,518 ดอลลาร์ต่อตารางเมตร นอกจากนี้ นครโฮจิมินห์ยังเป็นหนึ่งในมหานครที่ตลาดพื้นที่เช่าสำนักงานเติบโตสูงสุดในโลก โดยเฉพาะพื้นที่สํานักงานเกรด A และ B ซึ่งมีราคาสูงขึ้นถึง 29.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร ตามสถิติเมื่อปี 2562 ทําให้อัตราผลตอบแทนภายใน (Internal investment return: IRR) สําหรับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์นั้นสูงถึง 20%

นอกจากปัจจัยที่ประเทศเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ การให้อิสระกับบริษัทเอกชน กฎหมายที่ผ่อนปรนขึ้น และข้อตกลงการค้ากับประเทศต่าง ๆ ที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตแล้ว ก็ยังมีปัจจัยการขยายตัวและกำลังซื้อของกลุ่มผู้ซื้อในเวียดนามที่สูงขึ้น โดยรายงานเมื่อปี 2560 ของบริษัทไนท์ แฟรงค์ ระบุว่าจำนวนชาวเวียดนามที่มีสินทรัพย์สุทธิ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป เพิ่มขึ้น 320% ตั้งแต่ปี 2549-2559 ถือว่าเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในโลกและแซงหน้าทั้งอินเดียและจีน ทำให้บรรดานักลงทุนให้ความสนใจและไม่ลังเล ที่จะทุ่มเงินมหาศาลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศนี้

หากโลกไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 จะเป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สูง อย่างไรก็ดี ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างคาดการณ์ว่า ตลาดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามอาจจะเกิดปรากฏการณ์ดีดกลับ (rebound) ภายหลังภาวะการแพร่ระบาดฯ ซึ่งเป็นผลจากอุปสงค์ความต้องการซื้อที่ถูกกดทับไว้และคาดว่าจะมีการแข่งขันทางราคาสูงเมื่อวิกฤตการณ์สิ้นสุดลง จึงถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่มีความพร้อมจะเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่มีสัญญาณภาวะฟองสบู่ เพราะอุปสงค์ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่อุปทานกลับไม่สอดรับกับอุปสงค์ที่ทะยานขึ้น โดยนักลงทุนที่ให้ความสนใจมากที่สุดในเวลานี้ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และจีน

ที่มา : https://globthailand.com/vietnam05052020/
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  การลงทุน ธุรกิจ การท่องเที่ยว ข่าวต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ 

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม