แม้จะเปิดให้ลงทะเบียนในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” (www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ) มาเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์ และมียอดคนลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 4.4 ล้านคน แต่กลับมียอดจองและจ่ายค่าที่พัก-โรงแรม เพียงแค่ 200,000 ห้องเท่านั้น โดยพบว่ามีผู้ใช้สิทธิ์ Check-in แล้ว 55,177 ห้อง และ Check-out แล้วกว่า 50,605 ห้อง นั่นหมายความว่า มียอดผู้ใช้สิทธิแล้วเพียง 1.25% เท่านั้น
หนึ่งในเหตุผลที่หลายคนอาจสงสัย ว่าเพราะเหตุใดมีผู้ลงทะเบียนสำเร็จเป็นจำนวนมาก แต่ยอดผู้ใช้สิทธิกลับน้อยจนน่าใจหายแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยว หรืออาจเป็นเพราะขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนในการใช้งาน จึงได้รวบรวมขั้นตอนและวิธีการใช้งานทั้งหมดของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มาไว้ที่นี่แล้วค่ะ
1. เข้าสู่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและยอมรับข้อตกลงต่าง ๆ ในการเข้าร่วมโครงการ
2. ได้รับ SMS แจ้งผลการลงทะเบียนสำเร็จ ผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ได้ลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์
3. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Application เป๋าตัง เพื่อยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนและรูปถ่ายปัจจุบันของคุณ เนื่องจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะใช้ “เป๋าตัง” เป็น Application หลักในการ “รับ” และ “จ่าย” เงินสำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ
4. จองห้องพักกับโรงแรมผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมหรือโทรสำรองห้องพักกับเจ้าหน้าที่โรงแรม หรือ Online Travel Agency (OTA) ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น Agoda.com หรือ Ascend Travel โดยจำกัดสิทธิ์ที่พัก 5 ล้านห้อง แต่ละคนจองได้ไม่เกิน 5 ห้องต่อคนต่อคืน
5. ชำระเงินค่าห้องพักผ่านแอป "เป๋าตัง" ในราคา 60% ของค่าห้อง (ไม่สามารถยกเลิกได้) โดยหลังจองโรงแรมสำเร็จแล้ว จะมีการแจ้งเตือน (Notification) ให้คลิกเข้ามาดูการจอง เช่น จอง 1 ห้อง 2 คืน นับเป็น 2 สิทธิ์ จากทั้งหมด 5 สิทธิ์ เมื่อชำระเงินเสร็จสิ้นแล้วก็จะได้รับ E-Voucher ไว้สำหรับเช็กอินเข้าที่พัก
6. เมื่อเดินทางไปถึงที่พัก ให้เปิดQR Code ในแอปเป๋าตังที่ได้รับ เพื่อให้ทางโรงแรมนำแอปฯ ถุงเงิน (สำหรับผู้ประกอบการที่พัก-ร้านอาหาร-ที่เที่ยว) มาสแกนกับแอปฯ เป๋าตัง ก็จะเช็กอินสำเร็จ ประชาชนจะได้รับ E-Voucher (สีส้ม) 600 บาทต่อคืน ในเวลา 17.00 น. ของทุกวัน ในแอปฯ เป๋าตัง
7. เมื่อจะใช้ให้ คลิกคูปอง ในแอปเป๋าตัง กดใช้ที่ร้านค้า หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ คูปองจะช่วยจ่าย (Co-Pay) ให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิจำนวน 40% ของมูลค่าสินค้า เช่น ค่าสินค้าและบริการราคา 1,200 บาท รัฐจะออกให้ 40% เท่ากับว่ารัฐช่วย 480 บาท ส่วน 720 บาท ประชาชนจะเป็นผู้จ่ายเอง โดยไม่ต้องใช้ให้หมดในครั้งเดียว สามารถสะสมเพื่อใช้วันถัดไป หรือทยอยใช้ได้จนกว่าจะถึงวันที่ Check Out
8. ถ้า E-Voucher เหลือ สามารถใช้ระหว่างเดินทางกลับจนกว่าจะสิ้นสุดวันที่เช็กเอาท์ โดยโรงแรมจะกดเช็กเอาท์ผ่านแอปถุงเงิน แต่ห้ามใช้ในจังหวัดเดียวกับที่อยู่ในบัตรประชาชน และคูปองจะหมดอายุในเวลา 23.59 น. ของวันที่เช็กเอาท์
เป็นข้อสังเกตว่า มาตรการเยียวยาของรัฐบาลในโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน นี้ จะเน้นไปที่การสนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายนอกพื้นที่ทั้งสินค้า บริการ และที่พัก โดยรัฐช่วยค่าใช้จ่ายให้ส่วนหนึ่ง และประชาชนออกค่าใช้จ่ายเองเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่งด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แม้ขั้นตอนอาจจะซับซ้อนอยู่บ้าง แต่เพื่อช่วยให้สถานการณ์ต่าง ๆ ได้กลับเข้ามาสู่สภาวะปกติได้ในเร็ววัน ก็จำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจากสินมั่นคงประกันภัย เราประกัน..คุณมั่นใจ https://www.smk.co.th/prepa.aspx
