การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพะเยา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 14 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 17 ชุด แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียน สถิติที่ใช้ คือ การหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ การหาค่า E1/E2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t (t-test)
สรุปผลการศึกษา
1. ผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพะเยา อำเมือง จังหวัดพะเยา จำนวน 17 ชุด ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 พบว่า แบบฝึกทักษะทั้ง 17 ชุด มีประสิทธิภาพรวมเท่ากับ 91.51/93.13 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพะเยา ปีการศึกษา 2561 จำนวน 14 คน ก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 10.07 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 19.14 ค่าความก้าวหน้าเท่ากับ 9.07 และเมื่อตรวจสอบความแตกต่างของคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสถิติ t-test พบค่า t=19.14 มีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงกล่าวได้ว่าแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา การบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน
3. การศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 100 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 17 ชุด พบว่า โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.69 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.45