หน้า :
กระทู้: มั่วที่ว่าไทยครองแชมป์ความยั่งยืน เริ่มกระทู้โดย: sopon_pornchokch ที่ 26 พ.ย. 20, 08:53 น มั่วที่ว่าไทยครองแชมป์ความยั่งยืน
AREA แถลง ฉบับที่ 689/2563: วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th ตามที่มีข่าวว่าไทยครองแชมป์ความยั่งยืนในอาเซียน น่าจะเป็นข่าวจริงจากการวิเคราะห์มั่วๆ ดร.โสภณไม่แน่ว่ามีการ “ซื้อเสียง” สร้างชื่อประเทศหรือไม่ (https://feasyonline.files.wordpress.com/2020/11/ad.e0b8aae0b8b1e0b8a1e0b8a1e0b899e0b8b2_4000_2.jpg?w=900) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวถึงข่าวเร็วๆ นี้ที่ว่า “ไทยแชมป์อาเซียน การพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 63 ลดความไม่เสมอภาค ความท้าทายที่ต้องปรับปรุง” <1> นั้น ดร.โสภณ เชื่อว่าเป็นผลการวิเคราะห์ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเป็นอย่างยิ่ง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ก็ยังเคยวิเคราะห์ว่าไทยมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำระดับต้นๆ ของโลก <2> เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ดร.โสภณ จึงนำตัวเลขความยั่งยืน รายได้ประชาชาติต่อหัว และดัชนีการทุจริตของประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง 164 ประเทศ รวมทั้งประเทศในอาเซียน 10 ประเทศมาวิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์การถดถอย (Regression Analysis) เพื่อดูความสัมพันธ์เชิงตัวแปรระหว่างตัวเลขความยั่งยืน กับรายได้ประชาชาติต่อหัว และตัวเลขความยั่งยืนกับดัชนีการทุจริต (https://attooktee.files.wordpress.com/2020/11/63-689-2.jpg) ผลการวิเคราะห์พบว่าตัวเลขความยั่งยืน กับรายได้ประชาชาติต่อหัว และตัวเลขความยั่งยืนกับดัชนีการทุจริต ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเลย โดยใน 164 ประเทศนั้น ค่า R Square ค่อนข้างต่ำ โดยค่า R Square ของตัวเลขความยั่งยืน กับรายได้ประชาชาติต่อหัว ได้แค่ 33.8% และค่า R Square ตัวเลขความยั่งยืนกับดัชนีการทุจริต ได้แค่ 48.1% ซึ่งยังต่ำกว่า 50% หรือไม่น่าเชื่อถือ โดยอันที่จริงค่าสถิติที่น่าเชื่อถือควรสูงถึง 70% ขึ้นไปจึงจะมีความสัมพันธ์เชิงตัวแปรที่ชัดเจน ยิ่งในกรณีวิเคราะห์เฉพาะประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ ก็ยิ่งได้ตัวเลข Adjusted R Square น้อยลงไปอีก แสดงว่าค่าตัวเลขความยั่งยืนนั้นอาจไม่น่าเชื่อถือนัก (https://attooktee.files.wordpress.com/2020/11/63-689-3.jpg) ในกรณีเฉพาะ 10 ประเทศในอาเซียนที่ประเทศไทยได้รับคะแนนความยั่งยืนเป็นอันดับหนึ่ง (อย่างน่ากังขา แต่ก็น่าดีใจถ้าเป็นจริง) เพราะไทยมีคะแนนดัชนีทุจริตที่ 36 จาก 100 ต่ำกว่าเวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์ ยิ่งกว่านั้น ทั้งสิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย ต่างก็มีรายได้ประชาชาติต่อหัวสูงกว่าไทยมาก น่าจะทำให้ประชาชนมีชีวิตที่มีความยั่งยืนสูง มีความสะดวกสบายกว่าไทยมาก แต่กลับได้คะแนนความยั่งยืนน้อยกว่าไทย ในทางตรงกันข้าม เมียนมาร์ กัมพูชาและลาวที่เป็นสังคมชนบทพึ่งตนเองสูงมากกว่าไทยด้วยซ้ำไป กลับได้รับคะแนนความยั่งยืนต่ำมาก ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าการที่ไทยได้รับคะแนนความยั่งยืนสูงสุดในอาเซียน น่าจะมีการวิเคราะห์ที่ผิดจากความเป็นจริงเพราะประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำสูง สังคมขาดความสงบ ขาดความยุติธรรมและแบ่งแยกจากการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ทำให้นักลงทุนไหนออกไปเวียดนามและประเทศอื่นเป็นอย่างมาก (https://attooktee.files.wordpress.com/2020/11/63-689.jpg) อ้างอิง <1> “ไทยแชมป์อาเซียน การพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 63 ลดความไม่เสมอภาค ความท้าทายที่ต้องปรับปรุง” BLTBangkok. 21 สิงหาคม 2563. https://www.bltbangkok.com/news/27847 <2> ความเหลื่อมล้ำ 2020 (1): เรารู้อะไร เราควรรู้อะไร. 16 มกราคม 2563. https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/649234 ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน |